รีวิว Cute Programmer - โปรแกรมเมอร์ที่รัก (2021)

วันนี้มาแนะนำซีรีย์รักโรแมนติกคอมเมดี้เรื่อง  โปรแกรมเมอร์ที่รัก Cute Programmer  เรื่องนี้ได้รับการดัดแปลงมาจากการ์ตูนเรื่อง Why Is The Program So Cute ซึ่งได้พระนางฝีมือคุณภาพ  สิงเจาหลิน ร้บบท เจียงอี้เฉิง ท่านประธานบริษัทอี้เฉิงผู้นำด้านเกมมือถือเขาเป็น CEO รุ่นใหม่ไฟแรงที่เฉลียดฉลาดมีความสามารถพิเศษเป็นเงินนิสัยรวยมีจุดอ่อนเป็นไก่และพ่อของเขา อี้เฉิง เริ่มต้นธุรกิจของตนเองกับเพื่อนสนิทอย่าง เฉินอี้หมิง พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมเรียนที่จบด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์มาด้วยกันจากนั้นจึงตัดสินใจเปิดบริษัทผลิตเกมชั้นนำแต่ อี้เฉิง ดันสร้างกฏเหล็ก 1 ข้อในบริษัทของเขาที่ใครก็ไม่อาจแหกได้นั่นคือ ห้าม!! จ้างโปรแกรมเมอร์หญิงเป็นอันขาด คาแรกเตอร์ ฟอร์มจัด ปากแจ๋ว กวน ๆ มึน ๆ ฉลาด ไฟแรง รวย

เรื่องราวความรักของ ลู่หลี โปรแกรมเมอร์สาวที่พึ่งจบใหม่กับท่านประธาน เจียงอี้เฉิง แห่งบริษัทอี้เฉิงผู้นำด้านเกมมือถือ ลู่หลี เลื่อมใสและแอบรัก เจียงอี้เฉิง มาตลอดหลายปีตั้งแต่มัธยมปลายจนเธอตัดสินใจที่จะเรียนต่อในสายเดียวกับเขาและผลักดันตัวเองให้กลายเป็นคนที่เหมาะสมกับเขาได้ในที่สุด ภายหลังจากจบการศึกษาเธอมุ่งหน้าไปสมัครงานที่บริษัทของเจียงอี้เฉิงแต่บริษัทนี้ดันมีกฏเหล็กที่ไม่รับหญิงสาวเข้ามาทำหน้าที่โปรแกรมเมอร์ ลู่หลี จึงตัดสินใจปลอมตัวเป็นผู้ชายเข้าไปสมัครงานแต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นเมื่อเพื่อนของเธอได้ไปล่วงเกินท่านประธานเจียงเข้าแบบไม่ได้ตั้งใจจนทำให้หนทางการเข้าทำงานในบริษัทแห่งนี้ยากเหลือเกิน แต่ทว่า ลู่หลี ก็ไม่ได้ตัดใจไปง่าย ๆ เธอพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ อี้เฉิง เปลี่ยนใจแล้วให้โอกาสเธออีกสักครั้ง ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ได้เข้าทำงานในบริษัทได้สำเร็จกระทั่งผ่านไปสักระยะเธอก็ถูก เจียงอี้เฉิง จับได้ไล่ทันว่าเธอนั้นปลอมตัวเป็นผู้ชายเข้ามาทำงานยังแผนกนี้และแน่นอนว่าเขาไล่เธอออกอย่างไม่ลังเลแต่ด้วยโชคชะตาหม่าม๊าลิขิตแม่ของเจียงอี้เฉิงดันถูกใจลู่หลีเข้าอย่างจังพยายามจับคู่และบีบให้อี้เฉิงแต่งงานลู่หลี ในที่สุดทั้งสองก็ตกลงแต่งงานกันหลอก ๆ เพื่อให้ผู้ใหญ่สบายใจแต่การแต่งงานครั้งนี้ยิ่งนับวันยิ่งทำให้ทั้งคู่หวั่นไหวขึ้นไปทุกที 

สำหรับซีรีย์เรื่องนี้นางเอกคลั่งรักพระเอกมาก ปกติเราจะเห็นแต่พระเอกคลั่งรักนางเอก แต่เรื่องนี้นางเอกทำทุกอย่างได้เพื่อพระเอก  เป็นแนวนางเอกคลั่งรัก แอบหลงรักพระเอกซึ่งเป็นรุ่นพี่ จึงพยายามสอบเข้าเรียนที่เดียวกัน คณะเดียวกัน พอเรียนจบ เพราะความอยากเข้าไปใกล้ชิดกับพระเอกจึงยอมลงทุนปลอมตัวเป็นผู้ชาย เพื่อไปสมัครงานที่บริษัทของพระเอก เพราะบริษัทของพระเอกมีกฏอยู่ว่า จะรับเฉพาะพนักงานผู้ชายเข้าทำงานเท่านั้น เรื่องราวความรักป่วนๆ สุดอลวน มันก็เลยเกิดขึ้น ก็มาลุ้นกันว่า นางเอกจะโดนจับโป๊ะได้เมื่อไร

👉👉  นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังมิวสิคัล เพลงดนตรี ได้ที่นี่

รีวิว Suspicious Partner ทนายความที่ยุติธรรมและพนักงานอัยการผู้ต้องสงสัยในคดีอาญา

แนะนำซีรีย์โรแมนติกคอมเมดี้  Suspicious Partner อัยการหนุ่มที่ยื่นมือเข้ามาช่วยหญิงสาวรายหนึ่งที่ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม โดยที่เธอยืนยันว่าตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์ ตัวละครหลักของซีรี่ส์เรื่องนี้ส่วนใหญ่ทำหน้าที่เกี่ยวกับกฎหมายกับการเป็นอัยการและทนาย ส่วนตัวละครฝ่ายคนร้ายก็ชัดเจนกับจุดยืนในการกล้าท้าทายกฎหมายแบบไร้ความรู้สึกถูกผิดใดๆ สิ่งที่ทีมงานทำได้ค่อนข้างดีคือการเปิดตัว ‘ฆาตกร’ ตัวจริงครั้งแรกที่มาพร้อมความหักมุมในช่วงต้นๆ ที่ทำให้ความน่าติดตามเพิ่มมากขึ้น แถมปมในอดีตของฆาตกรที่ทำไปนั้นก็มีหลายช่วงที่ทำให้เราเกิดความรู้สึกเห็นใจตัวละครนี้อยู่นิดๆ แม้สิ่งที่แกทำจะเลวร้ายมากก็ตามที

เรื่องราวของ อึนบงฮี  (นัมจีฮยอน) เข้าใจผิดไปว่า  โนจีอุค (จีชางอุค) เป็นพวกโรคจิตที่แอบจับก้นเธอบนรถไฟ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าเธอเองก็จะต้องมาเจอกับเขาในวันที่รู้ว่าแฟนนั้นนอกใจที่โรงแรม เธออายจนอยากจะหนีออกไปให้พ้น ๆ พอดีกับที่จีอุคมีธุระที่นั่นและมาช่วยบงฮีออกไปทัน หลังจากที่บงฮีได้เข้าไปที่สำนักงานอัยการ เธอก็ได้รู้ว่าชายคนที่เธอคิดว่าเป็นโรคจิตและช่วยเธอไว้นั่นแหละเป็นอัยการพี่เลี้ยงเธอ โดยเขาขึ้นชื่อว่าเป็นคนโหดร้ายและไร้ความเมตตา แล้วบงฮีจะไปรอดเหรอเนี่ย ทั้ง ๆ ที่เธอกำลังจะได้เป็นอัยการไม่ก็ทนายแล้วแท้ ๆ แต่กลับต้องมาตกอยู่ในฐานะคนร้ายฆ่าแฟนเก่าตายซะอีก แถมมินิมาร์ทที่เธอไปซื้อของเวลาเกิดเหตุก็ไฟดับเลยไม่มีอะไรยืนยันได้ จีอุคจะช่วยเธอได้หรือไม่ แล้วบงฮีจะรอดพ้นจากการเป็นผู้ต้องหาและทำอาชีพที่เธอฝันได้หรือไม่ คนร้ายจะลอยนวลไปถึงเมื่อไหร่

สรุปเรื่องนี้ดำเนินเรื่องผ่านตัวละครหลักที่ทำงานด้านกฎหมาย พระเอกเป็นอัยการผู้ยอมสละตำแหน่งตัวเองเพราะเข้ามาช่วยพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้นางเอกที่ดันตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมแฟนเก่าเมื่อคนร้ายตัวจริงยังไม่ถูกจับ และนางเอกยังตกอยู่ในอันตราย พระเอกจึงยอมแบ่งห้องว่างในบ้าน ที่เป็นทั้งสำนักทนายของเขา ให้เธออยู่ระหว่างช่วยกันสืบคดีอยากบอกเหลือเกินว่าตลกมากกกกกก แต่ต้องข้ามผ่านนางเอกช่วงแรกๆที่ดูเพิ้งๆซ๊กม๊กไปให้ได้นะคะ เอาจริงๆเธอน่ารักและตลกได้อย่างธรรมชาติ ส่วนพระเอกถึงจะชอบเขาในบทบู๊ พอกลับมาเล่นแนวนี้ ก็พาขำจนปวดท้องได้เหมือนกันค่ะ

👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังสารคดี ได้ที่นี่

รีวิว Strong Girl Bong-soon (สาวน้อยจอมพลัง โดบงซุน)

แนะนำซีรีย์คอมเมดี้  Strong Girl Bong-soon (สาวน้อยจอมพลัง โดบงซุน) นำเสนอเรื่องราวของ "โด บงซุน" หญิงสาวที่เกิดมาพร้อมพลังพิเศษ มีความแข็งแกร่งเหนือคนธรรมดา ซึ่งถ่ายทอดจากบรรพบุรุษสู่ทายาทที่เป็นผู้หญิงเท่านั้น เธอต้องการใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาจึงเก็บเรื่องพลังพิเศษเป็นความลับ นอกจากนี้เธอยังฝันเป็นนักสร้างเกมที่มีตัวเธอเป็นตัวละครหลักในเกม และอยากจะเป็นผู้หญิงที่ฉลาดเฉลียว อ่อนหวาน ได้รับการปกป้องดูแลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ  "อิน กุกดู" เพื่อนชายที่เธอแอบชอบมาตั้งแต่สมัยเรียน

เรื่องราวของ โดบงซุน (รับบทโดย พัคโบยอง) หญิงสาวที่เกิดมาพร้อมกับพลังวิเศษที่ทำให้เธอมีความแข็งแรงเกินมนุษย์ทั่วไป เป็นพลังที่เกิดขึ้นเฉพาะกับผู้หญิงในครอบครัวของเธอ แต่เมื่อใดที่เธอใช้พลังในทางที่ผิดหรือใช้พลังทำร้ายคนบริสุทธิ์ บทลงโทษก็คือการสูญเสียพลังวิเศษนี้ บงซุนจึงมักใช้พลังวิเศษของตนเพื่อช่วยเหลือผู้ที่กำลังเดือดร้อนเสมอ ชายในฝันผู้เป็นรักครั้งแรกของ บงซุนคือ อินกุกดู (รับบทโดย จีซู) เพื่อนในวัยเด็กของเธอที่มีอาชีพเป็นตำรวจ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันบงซุนต้องพยายามปิดบังไม่ให้เขารู้ว่าเธอมีพลังวิเศษ เพราะเธอรู้ดีว่าสเปคสาวที่กุกดูชอบต้องเป็นผู้หญิงเรียบร้อย อ่อนหวาน และบงซุนก็มีความสุขทุกครั้งที่กุกดูแสดงท่าทีว่าเขาเป็นห่วงเธอแม้จะเป็นในฐานะเพื่อนก็ตาม เธอจึงกลัวว่าหากเขารู้ความจริงเรื่องพลังวิเศษของเธอ เขาอาจจะไม่มาคอยอยู่เคียงข้างและปกป้องเธอเหมือนที่ผ่านมาความใฝ่ฝันของบงซุนคือการสร้างเกมที่มีตัวเองเป็นตัวละครหลัก และโชคชะตาก็ทำให้เธอได้พบกับ อันมินฮยอก (รับบทโดย พัคฮยองชิก) CEO บริษัทเกมแห่งหนึ่ง ประธานอันบังเอิญได้รู้ความลับเกี่ยวกับพลังวิเศษของบงซุน ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เขากำลังถูกคนร้ายตามฆ่า เขาจึงต้องการให้บงซุนมาเป็นบอดี้การ์ดให้กับเขา 

สรุปแล้วเรื่องนี้คือยิ้มจิกหมอนไปกับพระเอกจอมคลั่งรักและนางเอกจอมพลังสุดแบ๊วนางเอกมีพละกำลังวิเศษที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นในครอบครัว เธอถูกจ้างให้มาเป็นบอดี้การ์ดพระเอกผู้เป็นถึงประธานบริษัทผลิตเกมส์ที่เธออยากร่วมงานด้วย นางเอกยอมเป็นบอดี้การ์ดเพื่อจะหวังว่าจะได้ย้ายมาอยู่แผนกพัฒนาเกมส์ที่ใฝ่ฝันท่ามกลางบรรยากาศแก๊งนักเลงสุดฮา กับทีมแม่บ้านขี้เม้าท์ ก็ยังมีฆาตกรโรคจิตเข้ามาป่วน

 👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรี่ย์ฮิตติดกระแส ได้ที่นี่

รีวิว สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง เดอะ มูฟวี่ (2020) Love You My Arrogance

สปาร์คใจนายจอมหยิ่ง เดอะ มูฟวี่  วันนี้มาพร้อมความฟินแบบจัดเต็ม เพราะ “ซัน” ที่รับบทโดย “น้องนาย ณภัทร เสียงสมบุญ” เริ่มมีใจให้กับ “อันนา” ที่รับบทโดย “มายด์ ลภัสลัล จิรเวชสุนทรกุล” แต่ก็ดันมีเหตุให้เข้าใจผิดจนต้องหนีไปพักใจที่ เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี แทน แต่งานนี้อันนาสายลุย ที่กล้าทำผิดก็กล้ารับ เดินหน้าตามง้อซันทุกวิถีทาง เรียกว่าจะได้เห็นซีนใกล้ชิด จมูกชนจมูก ให้ได้ฟินกันหลายต่อหลายครั้งแน่นอน แล้วเรื่องราวทั้งหมด จะจบอย่างไร และพลังพิเศษที่อันนามีแท้จริงคืออะไรกันแน่

เรื่องราว ซัน หนุ่มหล่อ ยูทูปบอร์หนุ่มหล่อที่เกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษ คือ "การได้ยินเสียงในความคิดของคนอื่น" เสียงในความคิดของคนอื่นทำให้เขาเครียด ปวดหัว จนเป็นลมล้มตึงในบางครั้ง เค้าปกปิดพลังพิเศษนี้ไว้ ซันจึงชอบใส่หูฟังและไม่ชอบยุ่งกับคนอื่น จนทำให้มันส่งผลกระทบต่อยอด View และ Subscribe ของช่องยูทูปที่ลดฮวบ ๆ เพราะคนมองว่าเขาหยิ่ง เมื่อยอดวิวลด รายได้ก็ลดลง ซัน และ พีต ที่เป็นทั้งเพื่อนสนิทและทีมงานเลยต้องหาวิธีกู้ผู้ติดตามคืนมา โดยการคิดคอนเทนต์ไปลงพื้นที่พัฒนาชุมชน บริเวณเชื่อน เพื่อที่จะทำให้ภาพลักษณ์ อบอุ่นของซันกลับมาดีอีกครั้ง เขาจึงเดินทางไปหา เขื่อน เพื่อนรักอีกคนที่หมู่บ้านแม่ระวาน หมู่บ้านใกล้เขื่อนภูมิพลโดยทันที แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายแค่นั้นเมื่อซันต้องมาเจอกับ อันนา สาวสวย นักเขียนดาวรุ่งชื่อดัง สายเผือก ตุ้บตั้บ ผจก.ส่วนตัวของอันนา และ บราวนี่ แฟนคลับตัวยงของซัน ทั้งสามคนเดินทางมาที่หมู่บ้านนี้เช่นกัน แต่การพบกันครั้งแรกของอันนาและซันก็ไม่ค่อยดีนัก อันนาคิดว่าซันมีอะไรปิดบังอยู่แน่ๆ เลย อันนาจึงพยายามสืบเรื่องของซันมาทำเป็นงานเขียนใหม่ของเธอ และซันก็ต้องเจอกับปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความคิดจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ชุมชนแห่งนี้ และความวุ่นวายของอันนาที่พยายามจับผิด

สรุปแล้วอยากสะกิดเพื่อน สะกิดแฟน ไปเช็คอินเลยล่ะ ในบรรยากาศสุดฟินแบบพี่ซันและอันนา เตรียมแพ็คกระเป๋าตามรอยไปเที่ยวเขื่อนดีกว่า ซึ่งไม่ใช่แค่เขื่อนภูมิพลนะ ยังจะมีเที่ยวที่ไหนสวย ๆ ให้ได้ร้องว้าวกันอีกแน่นอน ต้องรอติดตาม รวมถึงเรื่องราวในตอนต่อไปจะเป็นอย่างไรนั้น พระเอกนางเอกเขาจะปิ๊งปั๊งกันเมื่อไหร่ จะมีฉากหวาน ๆ โผล่มาตอนไหนหรือจะมีเรื่องราวอะไรให้ลุ้นบ้าง ขอบอกว่าสายซีรีส์ห้ามพลาด 

👉👉  นอกจากนี้สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ ดูหนังใหม่ ได้ที่นี่

รีวิว Insatiable (ชิงรักหักมงกุฎ) วัยรุ่นไฮสคูลแสบๆ

แนะนำภาพยนต์คอมเมดี้  Insatiable ชิงรักหักมงกุฎ  ได้สตรีมมิ่งผ่าน Netflix ก็กลายเป็นที่พูดถึงและจอมตีว่าเป็นการเหยียดรูปร่างของตัวละครเสียอย่างนั้น ซึ่งเป็นเรื่องราวของ “แพตตี้” เด็กสาวไฮสคูลรูปร่างอ้วน ที่ดูเหมือนไขมันรอบตัวจะเป็นตัวดึงปัญหาเข้ามาซะอย่างนั้น เพราะไขมันของเธอดันจะไปหนักที่หัวของวัยรุ่นที่พบเห็นและพาลดูถูกเหยียดหยามจนเธอต้องมีชีวิตไฮสคูลที่แสนเลวร้าย

เรื่องราว แพตตี้ (เดบบี ไรอัน) สาวอ้วนที่เป็นเหยื่อของสังคมไฮสคูลอันโหดร้าย ที่ไขมันดูจะเป็นกรรมที่เบียดชีวิตนางไปทุกด้านทั้งเจอหนุ่มสุดฮอตเทแบบไม่เหลือเยื่อใย แถมนอกจากต้องเจ็บตัวหลังวางมวยกับขี้เมาหน้าเซเว่นเพื่อปกป้องขนมอันเป็นที่รักแล้วยังต้องมาเจ็บใจเจอตาขี้เมาฟ้องกลับฐานทำร้ายร่างกาย แต่ในโชคร้ายนางก็เหมือนถูกหวย ด้วยว่านางกินอะไรไม่ได้นอกจากอาหารเหลวตลอด 3 สัปดาห์ทำให้หุ่นนางผอมเพรียวจนหนุ่มๆต้องเหลียว อีกทั้งยังได้ บ็อบ อาร์มสตรอง (ดัลลาส โรเบิร์ตส์)ทนายหนุ่มหล่อสไตล์แด็ดดี้ที่มาช่วยเรื่องคดีแล้วยังคิดจะปั้นให้ แพตตี้ กลายเป็นนางงามสุดปังอีกต่างหาก งานนี้บรรดาชะนีและหนุ่มที่เคยร้ายกับนางเตรียมตัวให้ดี เพราะแพตตี้คนนี้จะกลายเป็นคนสวยแบบร้ายร้าย

สรุปแล้วเรื่องนี้ขาดตรรกะหลายอย่างมาก ไม่ค่อยมีความสมเหตุสมผล แต่ก็สามารถเสพได้ถึงความบันเทิงจากความสะใจที่ตัวแพตตี้ได้โอกาสแก้แค้นพวกผู้ชายและคนรอบตัวที่ทำไม่ดีกับตัวเองไว้ นอกจากนี้ยังมีประเด็นความรักของคนวัยทำงานหรือการค้นพบตัวเองเรื่องการสับสนทางเพศที่ไม่ค่อยเห็นในซีรีส์วัยรุ่นแนวนี้สักเท่าไร ถ้าเปรียบเป็นอาหารซีรีส์เรื่องนี้คงเป็นอาหารแซ่บที่ทานได้เรื่อย ๆ ร้อนรุนแรง แต่ก็ไม่ได้มีประโยชน์ต่อร่างกายมากนัก ใครเบื่อจากซีรีส์หวานแหววเรื่องนี้อาจจะเหมาะกับคุณค่ะ 

 👉👉 นอกจากนี้สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังมิวสิคัล เพลงดนตรี ได้ที่นี่

รีวิว Rough Night (ปาร์ตี้ซะนีป่วน) หนังสายฮามุกติดเรท

แนะนำภาพยนตร์คอมเมดี้  Rough Night ปาร์ตี้ชะนีป่วน  หนังสายฮามุกติดเรทที่ได้ สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน ฉีกบทจากสาวเซ็กซี่ในหนังซุปเปอร์ฮีโร่มารับบทสาวที่กำลังจะสละโสดก่อนแต่งงาน แต่โชคร้าย เมื่อเธอชวนเพื่อนๆ มาปาร์ตี้จนเผลอไปทำผู้ชายที่มาร่วมงานตาย เดือดร้อนจนต้องหาทางเอาตัวรอดเพื่อปกปิดความผิดที่เกิดขึ้น ความสนุกยังไม่ได้หมดแค่นั้นเพราะหนังยังได้ จิลเลี่ยน เบลล์ นักแสดงสายคอมเมดี้ สุดจังงานนี้รับรองฮาท้องแข็งแน่นอน คืนหฤหรรษ์สุดป่วนจะลงเอยอย่างไร

โดยเรื่องก็คือสี่สาวที่เคยเรียนมาด้วยกันเมื่อ 10 ปีอย่าง เจสส์ (Scarlett Johansson) อลิซ (Jillian Bell) แบลร์ (Zoë Kravitz) และแฟรงกี้ (Ilana Glazer) แม้ปัจจุบันต่างก็แยกย้ายกันไปมีชีวิตของตัวเองแล้ว แต่เมื่อเจสส์กำลังจะแต่งงานกันแฟนหนุ่ม ปีเตอร์ (Paul W. Downs) ผลก็คือพวกเธอจะได้กลับมาเจอกันพร้อมหน้าอีกครั้ง ด้วยการนัดหมายของอลิซ ครั้งนี้จะเป็นปาร์ตี้สละโสด สาวนัดกันไปปาร์ตี้รั่วๆ กันที่ไมอามี่ ท่องราตรีไปทั่วจากผับโน้นที ไปผับนี้ที และได้เจอกับ พิปป้า (Kate McKinnon) เพื่อนอีกคนของเจสส์จากออสเตรเลีย กลายเป็นห้าสาวที่เข้ามาพักในคฤหาสน์หรูริมทะเล พฤติกรรมรั่วๆ ของพวกเธอชักพาเรื่องยุ่งมาจนได้ เมื่อหนึ่งในห้าชักชวนชายหนุ่มเข้ามาร่วมวง แต่เกิดพลาดพลั้งทำเขาเสียชีวิต ความวายป่วงของปาร์ตี้สละโสดครั้งนี้มันจึงบังเกิดขึ้น!

โดยเรื่องราวในหนังเรื่องนี้จะค่อนข้างหนักอยู่ไม่น้อย แต่กลับไม่ทำให้เรารู้สึกเครียดตามไปด้วย เพราะการถ่ายทอดเรื่องราวมีจังหวะจะโคนที่ดี พอเนื้อเรื่องเริ่มเข้มข้นเพิ่มมากขึ้น ก็มีการตัดสลับฉากไปให้ลุ้นตามอยู่บ่อยๆ แต่ที่เด็ดที่สุด ก็คงเป็นมุกตลกที่ทำออกมาได้เนียนมาก ไม่ดูเหมือนเป็นการยัดเยียดอารมณ์ขันให้กับผู้ชมเลยแม้แต่น้อย โดยฉากที่เราว่าขำที่สุด ก็ต้องยกให้ตอนที่พระเอกของเราออกเดินทาง เพื่อไปตามเจ้าสาวของเขาคืนนั่นเอง ใครจะไปเชื่อว่ามุกตลกบ้านๆ จะกลับทำให้ Rough Night ปาร์ตี้ชะนีป่วน เป็นภาพยนตร์คอมเมดี้ที่น่าติดตามไปได้

สรุปแล้วเป็นหนังทุนต่ำ แต่กลับสนุกเกินความคาดหมาย นักแสดงมีความสามารถ ทีมงานก็ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ดี ถ้าไม่รู้ว่าจะดูหนังเรื่องอะไรดี Rough Night ปาร์ตี้ชะนีป่วน ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกระดับต้นๆ ที่จะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของคุณได้เช่นเดียวกันค่ะ

 👉👉  นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังสารคดี ได้ที่นี่

รีวิว Oh My Baby (Oh My Baby คุณ บ.ก.ขอมีรักสักครั้ง)

แนะนำซีรีย์รักคอมเมดี้   Oh My Baby  ซีรีย์โรแมนติกคอเมดี้ที่ชวนให้ผู้ชมร่วมกันตามหาความสุขของชีวิตมากกว่าการพยายามทำตามกฎเกณฑ์ของสังคมกับ Oh My Baby ซีรีย์ใหม่ของผู้กำกับ The Beauty Inside และ Voice 3 ที่ได้นักแสดงหญิงมากความสามารถอย่าง จางนารา ประกบคู่กับภารกิจตามหา(น้ำเชื้อ)พ่อของลูก นับว่าเป็นซีรีย์ตลกย่อยง่าย แต่แฝงไปด้วยประเด็นการสร้างครอบครัวที่บางครั้งก็ดูจริงจัง บางครั้งดูเพ้อฝัน แต่โดยรวมออกมาได้อย่างน่าใจ ด้วยเคมีของนักแสดงหลักที่เข้ากันได้ดีแบบแปลกๆ

เรื่องราวของ จางฮารี (รับบทโดย จางนารา) รองหัวหน้าฝ่ายนิตยสาร The Baby สาวโสดวัย 39 ปี ผู้บ้างานและต้องการมีลูกโดยไม่ต้องแต่งงาน ที่อยู่ๆ ชีวิตรักที่เงียบเหงากว่า 10 ปีของเธอ กลับมีผู้ชายเดินเข้ามาถึง 3 คน คือ ฮันอีซัง (รับบทโดย โกจุน) ช่างภาพอิสระ ผู้รักชีวิตโสดและพยายามหางานอดิเรกใหม่ๆ อยู่เสมอ, ยุนแจยอง (รับบทโดย พัคบยองอึน) กุมารแพทย์ เพื่อนสนิทของ จางฮารี ที่ตื่นมาวันหนึ่งพบว่าตัวเองกลายเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว และ ชเวคังอือตึม (รับบทโดย จองกอนจู) พนักงานหนุ่มหน้าใหม่ของ The Baby ผู้มองโลกในแง่ดี ซึ่งการปรากฏตัวของพวกเขา 3 คน ทำให้ชีวิตของ จางฮารี ที่ยอมแพ้กับความรักมานานเริ่มเปลี่ยนไป

สรุปซีรีย์น่าจะเหมาะเจาะกับคนที่อยู่ในช่วงวัยผู้ใหญ่สร้างครอบครัว วัย 30-40 เป็นอย่างดี เพราะเนื้อหาน่าจะตรงกับประเด็นที่หลายๆ คนเผชิญและถูกกดดันจากสังคมรอบข้าง เหมือนกับตัวนางเอกที่กำลังจะย่างเข้าสู่วัยหลักสี่ แต่ยังเป็นโสดอยู่เลย แม้เธออยากจะมีลูกมากๆ จึงเกิดความคิดที่มีลูกโดยไม่ต้องมีพ่อของลูกเธอจึงพยายามเสาะหาผู้ที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งให้ได้น้ำเชื้อมาทำผลผลิตให้ทันช่วงรถด่วนขบวนสุดท้าย แต่ว่าผู้ชายทั้ง 3 คนที่เป็นนอมีนีในครั้งนี้ ใครกันนะที่จะเป็นผู้โชคดี

 👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรี่ย์ฮิตติดกระแส ได้ที่นี่

รีวิว One The Woman (2021) การสลับตัวของอัยการสุดห้าวกับลูกสะใภ้ตระกูลดัง

แนะนำซีรีส์คอมเมดี้ One The Woman (2021) การสลับตัวของอัยการสุดห้าวกับลูกสะใภ้ตระกูลดังนำแสดงโดย อีฮานี, อีซังยุน, จินซอยอน และอีวอนกึน เล่าเรื่องราวชีวิตที่พลิกผันของอัยการสาวสุดห้าวกับลูกสะใภ้คนรองของตระกูลดัง บอกเลยว่าน่าดูตั้งแต่ตอนแรกเลยล่ะ ครบรสทั้งโรแมนติก คอมเมดี้ สืบสวน แถมยังมีแอ็กชันและการฟาดฟันกันในตระกูลอีกด้วย

เรื่องราวชีวิตของ โจยอนจู (อีฮานี) อัยการอันธพาลที่ชอบรับสินบนจากพวกคนเลว ชีวิตเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากตื่นจากอาการโคม่าและพบว่าเธอป่วยเป็นโรคความจำเสื่อมที่เกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคังมินา ผู้หญิงที่หน้าเหมือนเธอ  ขณะที่คังมีนา (อีฮานี) เป็นลูกสาวคนเล็กใช้ชีวิตโดยที่ครอบครัวและบ้านสามีต่างไม่แยแสเธอ โชคชะตาทำให้ทั้งคู่ได้เจอกันที่งานประมูลภาพศิลปะ ระหว่างที่ยอนจูกำลังสืบสวนคดีฉ้อโกง เธอได้บังเอิญเห็นมีนาและตกใจอย่างมากที่หน้าตาของทั้งคู่เหมือนกันราวกับแกะ หลังจากนั้นยอนจูก็ประสบอุบัติเหตุจนความจำเสื่อมและตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองกลายเป็นลูกสะใภ้ของฮันจูกรุ๊ป  มินา และลูกสะใภ้คนที่สองของตระกูล Han ซึ่งเป็นเจ้าของ Hanju Group Han อีซังยุน (ฮันซึงอุค) อดีตทายาทของฮันจูกรุ๊ปที่ถูกผลักออกจากครอบครัว เขากลับมาเกาหลีเพื่อตามหาสาเหตุการเสียชีวิตของพ่อ และนั่นทำให้เขาได้พบกับรักแรก 'คังมีนา' อีกครั้ง โดยที่ยังคงมีเธออยู่ในใจเสมอมา อีวอนกึน (อันยูจุน) อาจารย์ในสถาบันวิจัยและฝึกอบรมด้านตุลาการ เขาเป็นรุ่นน้องที่สนิทของยอนจู มีภาพลักษณ์ที่ดูดีและมีมารยาท จนถือเป็นหนึ่งในของลูกเขยที่ทุกคนใฝ่ฝัน

สรุปแล้วคือเป็นซีรีส์คอมเมดี้ที่ดูแล้วไม่เครียดแถมยังได้หัวเราะหนักมาก นักแสดงสาวอีฮานีในบทของโจยอนจูคือเล่นแบบไม่ห่วงสวยเลย ฮาแต่ก็ได้ลุ้นในเวลาเดียวกัน ในขณะที่ตัวละครอื่น ๆ ก็โดดเด่นไม่แพ้กันเลย รอดูว่านางเอกจะเอาคืนครอบครัวสามีของมีนายังไง แล้วจะฟื้นความทรงจำของตัวเองกลับมาได้เมื่อไร ไหนจะเรื่องความรักที่ดำเนินไปพร้อมกันอีก  ใครที่กำลังมองหาซีรีส์คอมเมดี้ที่มีหลากหลายอารมณ์ ขอแนะนำเรื่องนี้แบบสุด ๆ คือฮาจริงตั้งแต่ตอนแรก แถมยังมีสืบสวนให้ได้ลุ้นไปพร้อมกัน

 👉👉  นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรีย์แนวสืบสวนสอบสวน แนวฆาตกรรม ไขปริศนา ได้ที่นี่

รีวิว Happy New You (แฮปปี้นิวยู แสบสนั่น ยันหว่าง)

แนะนำหนังคอมเมดี้  Happy New You (แฮปปี้นิวยู แสบสนั่น ยันหว่าง) ก่อนจะถึงวันปีใหม่ ชายหนุ่มคนหนึ่งตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อหางาน แต่กลับเกิดเรื่องวุ่นๆ ขึ้นเมื่อแฟนสาวกับพี่ชายของเธอขอติดสอยห้อยตามมาด้วย นักแสดงนำ:ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข,ภัณฑิรา พิพิธยากร,พงศ์ทิวัตถ์ ตั้งวันเจริญ

เรื่องราวหลังอกหักจากน้อง นิ้งหน่อง (จ๊ะ อาร์สยาม) สาวสก๊อยสายคัน จนทำให้ สนั่น (โหน่ง ชะชะช่า) กลายเป็นพวกไม่เอาการเอางาน ใช้ชีวิตไปกับการเนียนกินฟรีตามงานต่าง ๆ และเอาเงินไปลงขวดเหล้า จนสร้างความระอาให้กับ ชบา (มินนี่ ภัณฑิรา) น้องสาวสนั่นที่กำลังหลงใหลกับคำสัญญาของ ตี๋ (บลู พงศ์ทิวัตถ์) แฟนหนุ่มที่หวังไปตามหาความฝันที่กรุงเทพ แต่กลับล้มเหลวจนต้องไปทำงานให้กับเสี่ยโจ้ เจ้าของเต้นท์รถที่เป็นกิจการบังหน้าค้ายาเสพติด เนื่องจากไม่อยากให้แฟนสาวผิดหวัง ตี๋จึงต้องเตรียมตัวต้อนรับ ชบา และแก๊งของสนั่นทั้ง แสบ (แจ๊ค แฟนฉัน) และ สิงห์ (ฝ้าย เมฆะ) พักที่คอนโดของเสี่ยโจ้ที่กรุงเทพ ฯ พร้อมอุปโลกชีวิตดี๊ดีของเขาให้แฟนสาวเชื่อให้ได้ แต่แล้วความป่วนของแก๊งสนั่น, แสบ, สิงห์ ก็อาจทำให้แผนของตี๋ไม่เป็นตามคาด มิหนำซ้ำกิจการค้ายาของเสี่ยโจ้ก็กำลังสั่นคลอนจนต้องไปขนยาจากคอนโดที่ตี๋อุปโลกน์ตัวเองเป็นเจ้าของ 

สรุปแล้วนอกจากนักแสดงแล้ว ตัวไอเดียของเรื่องมีจุดที่น่าสนใจหลักคือการเปลี่ยนแปลงตัวเองเนี่ยแหละ หากเราตัดความอีรุงตุงนัง ทั้งเรื่องตี๋ โกหก ชบา จนเกิดเรื่องวุ่นวายที่กรุงเทพ หรือ เสี่ยโจ้ ค้ายาที่ต้องเผชิญผีของเด็กนักศึกษาที่ตนเลี้ยงไว้ แล้วไปโฟกัสที่การเปลี่ยนแปลงตัวเองของตัวละครอย่าง สนั่น ก็นับว่ามีจุดให้เล่นไม่น้อย เพราะแต่ละงานที่สนั่นไปกินฟรีความจริงแทบจะบ่งบอกถึงสัจธรรมชีวิตและรากเหง้าวัฒนธรรมของคนไทยได้เลย ทั้งงานขึ้นบ้านใหม่ งานบวช หรืองานศพ เพราะทั้ง 3 งานที่สนั่นไปมันมีนัยยะของการเริ่มต้นใหม่ทั้งนั้น

 👉👉  นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังมิวสิคัล เพลงดนตรี ได้ที่นี่

รีวิว Thirty but Seventeen รักครั้งนี้ หัวใจ 17 (Still 17)

แนะนำซีรีส์คอมเมดี้  Thirty but Seventeen รักครั้งนี้ หัวใจ 17  เด็กสาววัย 17 ปี คนหนึ่งที่เป็นอัจฉริยะด้านไวโอลินและได้ทุนไปเรียนต่อเมืองนอก ดูเหมือนอนาคตของเธอกำลังจะไปได้สวย แต่จู่ๆเกิดอุบัติเหตุจนทำให้เธอกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรานานถึง 13 ปี และเมื่อฟื้นขึ้นมาอีกทีเธอกลับเป็นผู้หญิงวัย 30 ปีเสียแล้ว นักไวโอลินผู้ใฝ่ฝันต้องปรับตัวให้เข้ากับโลกใหม่ และได้รับความช่วยเหลือจากชายผู้มีปัญหาซึ่งถูกฉีกขาดระหว่างความรักที่เขามีต่อเธอกับความจริงที่ว่าเขาเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุที่ทำให้เธอโคม่า

โดยเรื่องราวของ กงอูจิน (รับบทโดย ยังเซจง) เขาเป็นนักออกแบบฉากบนเวที ชายหนุ่มที่รักสันโดษ ปิดกั้นตัวเอง ไม่เคยเปิดใจให้ใคร แม้เขาจะมีอายุถึง 30 ปี แล้วก็ตาม สาเหตุเพราะเมื่อตอนที่เขาอายุ 17 ปี เขาแอบรักอูซอรี (แต่เขาเข้าใจผิด คิดว่าเธอชื่อ โนซูมี) และหวังว่าสักวันเขาจะกล้าเปิดเผยความในใจกับเธอ แต่เขาก็ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า ในวันที่เขาตัดสินใจจะบอกความในใจกับเธอ จะเป็นวันที่ซูมีได้จากเขาไปตลอดกาล และเขาก็ยังโทษตัวเองมาโดยตลอดว่า เขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องตาย อูซอรี (รับบทโดย ชินฮเยซอน) หญิงสาวที่ตื่นจากการนอนเป็นเจ้าหญิงนิทรามาถึง 13 ปี แต่ก็ต้องพบว่า ตอนนี้ ตัวเธอได้กลายเป็นหญิงอายุถึง 30 ปีแล้ว แต่ความทรงจำ ความคิด ความรู้สึกของเธอ ยังคงเป็นเพียงสาวน้อยวัย 17 ปีเท่านั้น เมื่อเธอตื่นขึ้นมา เธอก็ได้รู้ว่า โนซูมี เพื่อนสนิทของเธอ ได้ตายในอุบัติเหตุครั้งนั้นไปแล้ว และก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด น้าของเธอถึงหายไป ไม่มาเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลเลย แถมบ้านของเธอก็ถูกขายให้กับคนอื่นไปแล้วด้วย ตอนนี้เธอไม่เหลืออะไรเลย แม้แต่บัตรประชาชนเธอก็ไม่มี

สรุปแล้วซีรีส์ถือว่าทำออกมาได้ลงตัวมาก มีครบรสพอดีไม่มากไม่น้อยเกินไป และขอชื่นชมฝีมือการแสดงของนางเอกที่เอาได้อยู่หมัดจริง ๆ เธอแสดงเป็นคนที่ยังมีใจเป็นเด็กอายุ 17 ปีได้เหมือนมาก สีหน้าท่าทางอารมณ์ทุกอย่างให้ผ่านไปแบบสวย ๆ เลย ดูไม่พยายาม เธอคือเด็กอายุ 17 ปีจริง ๆ และจากที่อ่านดูเหมือนเรื่องนี้จะดราม่ามากใช่ไหมคะ แต่จริง ๆ แล้วบทเขาใส่ดราม่ามาแบบพอดีไม่ทำให้หน่วงจนเกินไปเกลี่ยบทได้ดีค่ะ ดังนั้นอย่าได้พลาดชมเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดเลยนะคะ 

 👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังสารคดี ได้ที่นี่

รีวิว You Raise Me Up (2021) เพราะเธอฉุดฉันขึ้นมา

ขอแนะนำซีรีส์เรื่อง  You Raise Me Up (2021)  ซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่ไม่ค่อยจะคอมเมดี้สักเท่าไร เล่าเรื่องราวของการพบกันอีกครั้งกับรักแรก ที่ไม่พร้อมด้วยทั้ง สถานที่ การแต่งกาย และสถานะทางการเงิน ชายหนุ่มใที่อยู่ในช่วงขาดความมั่นใจและรู้สึกตกต่ำทั้งการสอบตกครั้งแล้วครั้งเล่าในการบรรจุข้าราชการประจำและทั้งอาการป่วยเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ เมื่อวันหนึ่งตัดสินใจไปพบแพทย์และแพทย์สาวคนนั้นกลายเป็นรักแรกของตัวเขา

 

โดยเรื่องราวของ โดยงชิก หนุ่มอายุ 30 ปีที่ผิดหวังกับการสอบข้าราชการประจำ และยังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ สมรรถภาพทางเพศ ทำให้เขาตัดสินใจเข้ารับการรักษา และพบว่าแพทย์สาวที่ตนเองต้องเข้ารับการรักษาด้วยคือ อีรูดา รักแรกของตัวเอง เขาจึงปฏิเสธการเข้ารักษา แต่ทว่าเพื่อนคนเดียวของยงชิกที่เป็นร่างทรงได้บอกกับยงชิกไว้ว่า เขาจะได้พบกับคนที่สามารถช่วยรักษาอาการป่วยและทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ แต่ยงชิกกลับเข้าใจผิดคิดว่าหมอโดจีฮยอกอาจจะเป็นคนที่ช่วยเหลือตนเอง จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างยงชิกและรูดาทำให้ยงชิกหมดหวังจนเกือบคิดสั้น

สรุปแล้วนางเอกจะเป็นคนคลายปมทุกอย่างของพระเอกทำให้กลับมามีความมั่นใจอีกครั้งได้ค่ะ การดำเนินเรื่องไว สนุกสนานให้ข้อคิดและมุมมองเกี่ยวกับเรื่องปัญหาสุขภาพของพระเอกได้ดี และรวมถึงความน่ารักของพระเอกนางเอก  เนื้อเรื่องสนุกสนานปนเซ็กซี่ มีความน่าตื่นเต้น น่าลุ้นไปกับเรื่องราวรักแรกของพวกเขาจะหวานโรแมนติกหรือดราม่าน่าสงสารอันนี้น่าลุ้นค่ะ 

 👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรี่ย์ฮิตติดกระแส ได้ที่นี่

รีวิว Double Dad (พ่อคู่) สาววัย 18 ปี ตามล่าหาดับเบิ้ลแด้ด

แนะนำหนัง  Double Dad การที่คนเรานั้นได้มีโอกาสมาลืมตาดูโลกนั้นแน่นอนว่าเหตุผลที่เราเกิดมา คงยังไม่มีใครสามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่ามันเป็นเพราะอะไรกันแน่ที่ทำให้เป็นเช่นนั้น ทำไมเราถึงถือกำเนิด โดยบางคนบอกว่าเราจะได้รู้คำตอบเมื่อในที่สุดเราก็รู้ว่าตัวตนของเราคืออะไรกันแน่ เมื่อเราได้ขึ้นไปอยู่บนจุดยอดของความสำเร็จ นั่นทำให้ผู้คนในยุคสมัยนี้ต่างก็ให้ความมุ่งหวังกับการ “ค้นหาตัวตน” ของตัวเองเป็นอย่างมาก แม้ว่าความเป็นจริงมันจะเป็นคำถามที่ไร้คำตอบ ซึ่งหมายความว่าเราไม่มีทางรู้ว่าเราเกิดมาทำไม เราไม่จำเป็นต้องค้นหาความหมายของชีวิต เพียงแค่ว่าเราต้องทำชีวิตให้มีความหมาย

โดยเรื่องราวการออกตามหาคนที่ทำให้สาวน้อยคนหนึ่งได้ลืมตาขึ้นมาดูโลก สาวน้อยคนหนึ่งชื่อว่า Vicenza  เธอเป็นสาววัย 18 ปีที่เอาแต่สงสัยในตัวตนของตัวเอง นางเอกของเรานั้นเติบโตขึ้นมาท่ามกลางกลุ่มคนพเนจรที่เรียกตัวเองว่า ฮิปปี้ กับแม่เลี้ยงเดี่ยวของเธอ และเมื่อแม่ไม่ยอมเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับพ่อที่แท้จริง เธอก็จะขอออกไปตามหาผู้เป็นพ่อด้วยกำลังของเธอเอง โดยที่การตัดสินใจอันแสนเด็ดเดี่ยวและไร้ความกลัวของเด็กสาว

สรุปแล้วหนังพยายามให้ข้อคิดเกี่ยวกับเรื่องครอบครัว เพราะเป็นแกนหลักของเรื่องเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังทำให้เราเห็นว่า “ความรัก” นั้นเป็นสิ่งที่มีคุณค่าเสมอแม้ว่าผู้คนจะกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายนักแค่ไหน ขอแค่หัวใจมีพลังของความรู้สึกรักมันก็เหมือนอานุภาพบางอย่างผลักดันให้เราเติบโตและก้าวผ่านเรื่องราวร้าย ๆ เหล่านั้นไปได้ การเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ไม่มีอะไรหักมุมให้ได้ตกใจมากนัก เป็นการเล่าแบบตรง ๆ เลย เดาทางง่ายมาก แต่ว่าเรื่องความประทับใจน่าจะเป็นข้อคิดที่เราได้กลับไปมากกว่า

👉👉  นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรีย์แนวสืบสวนสอบสวน แนวฆาตกรรม ไขปริศนา ได้ที่นี่

รีวิว Meeting you 2020 (ขอบคุณที่ได้เจอเธอ) ความรักวัยรุ่นใสๆ สไตล์วัยนักเรียน

แนะนำซีรีส์  Meeting you 2020 (ขอบคุณที่ได้เจอเธอ)  เป็นซีรีส์แนวโรแมนติก คอมเมดี้ เล่าถึงชายหนุ่มที่มีความสามารถ แต่มีความวิตกกังวลในการเข้าสังคมจนได้พบกับหญิงสาวช่างพูดช่างกระตือรือร้น ทำให้ชายหนุ่มได้เปิดมุมมองในชีวิตมากขึ้น นำแสดงโดย กัวจวิ้นเฉิน(GuoJunchen , FictionGuo)รับบทหนานซิน , ว่านเผิง (WanPeng)รับบทเซี่ยรุ่ย

โดยเรื่องราวของ  Nan Xin เด็กนักเรียนชายที่เดินทางไปโรงเรียนใหม่ เขาเป็นคนพูดน้อย มีปัญหาในการเข้าสังคม แต่เขาได้พบกับเพื่อนในห้อง ผู้หญิงที่เป็นเพื่อนสนิทวัยเด็กของเขา Xia Rui นักเรียนหญิงที่มักจะมีบุคลิกสดใสร่าเริง ซึ่งต่างกับเขามาก ๆ ทั้งคู่จึงได้รู้จักกันและความสัมพันธ์พัฒนาขึ้นท่ามกลางชีวิตวัยเรียนที่เปลี่ยนไป การพบกับเธอจึงทำให้เขานั้นก้าวผ่านโรคกลัวสังคม กลายมาเป็นคนใหม่ที่สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนนักเรียนคนอื่น ๆ มีเพื่อนและความรัก ซีรีส์เรื่องนี้นอกจากจะโฟกัสไปที่เรื่องความรักวัยเรียน ชีวิตวัยรุ่น ยังเปิดมุมมองเรื่องราวของคนที่กลัวการเข้าสังคม หรือที่เรียกกันว่า โรคกลัวสังคม ( Social anxiety disorder ) 

สรุปแล้วเป็นซีรีส์แนวโรแมนติก คอมเมดี้ ให้อารมณ์และความอบอุ่นกับหัวใจมาก พระเอกนางเอกสื่ออารมณ์ได้ดีแต่ดูแลแล้วก็อบอุ่นหัวใจก็จริงอยู่ แต่ก็แอบออกเศร้าในท่วงทำนองของดนตรี หรือจะมีดราม่าอะไรไหมนะ  ไม่น่าจะมีดราม่าหนักๆ ก็ต้องรอติดตามกันนะ ซีรีส์ออกแนวความรักวัยรุ่นใสๆ สไตล์วัยนักเรียน เป็นซีรีส์ที่น่าติดตามมากเลยทีเดียวค่ะ  พระเอกนางเอกก็น่ารักสมวัย 

👉👉  นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ หนังเกาหลี ได้ที่นี่

รีวิว Reply 1988 (วันวานอันหวานชื่น) ติดตามชีวิตของ 5 ครอบครัวที่อาศัยอยู่บนถนนสายเดียวกัน

แนะนำซีรีส์แนวรักคอมเมดี้   Reply 1988 (วันวานอันหวานชื่น)  ของ ชินวอนโฮ มักจะเล่าเรื่องของกลุ่มแก๊งผองเพื่อน ครั้งนี้เป็นเรื่องกลุ่มเพื่อนสนิททั้งห้าที่บ้านอยู่ในละแวกซอยเดียวกัน เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่ยังเด็ก ลองไล่เรียงกันดูสักหน่อยว่าแต่ละคนมีคาแรกเตอร์ มีที่มา มีนิสัยใจคอแตกต่างกันอย่างไรกันบ้าง

โดยเรื่องราว ย้อนเวลากลับไปยังวันวานของเกาหลีใต้ในปี 1988 ปีที่พวกเขาได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ทุกอย่างในวันนั้นมันดูเก่าและเต็มไปด้วยความทรงจำ เรื่องราวของเด็กกลุ่มเล็กที่เติบโตขึ้นมาในซอยเดียวกัน ผองเพื่อนทั้งห้าที่แตกต่างกันไป บางคนมีฐานะยากจนเพราะไปค้ำประกันจนต้องอาศัยอยู่ในชั้นใต้ดินในบ้านของอีกคน บางคนก็โชคดีถูกหวยจนกลายเป็นคนร่ำรวย บางบ้านก็มีลูกที่ไม่ค่อยคุยกับแม่ บางบ้านก็มีแต่เด็กที่เติบโตอย่างโดดเดี่ยว ห้าบ้านก็ห้าแบบห้าสไตล์ แต่สิ่งที่ยอดเยี่ยมคือทั้งห้าบ้านต่างรักกัน เอื้อเฟื้อกัน ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ไปยันรุ่นลูก มิตรภาพที่ซอยเล็กๆ ที่เติบโตผ่านกาลเวลา ผ่านเรื่องเล่าที่พานึกทบทวนเรื่องวันเก่าวันที่เรายังเรียนอยู่มัธยมฯ

อย่างไรก็ตามด้วยการเล่าสลับไปสลับมาระหว่างปัจจุบันและอดีต โดยเน้นเล่าเหตุการณ์ในอดีต การพาคนดูที่มีอายุมาก ได้ดึงความทรงจำในอดีตให้กลับคืนมามีชีวิตในปัจจุบันอีกครั้ง ทั้งเหตุการณ์บ้านเมือง เพลงและหนัง แม้ว่าเรื่องราวนั่นจะเป็นเรื่องราวที่น่าจะกระเทาะโดนใจคนเกาหลีที่สุด ก็ยังนับว่าพอซึมซับและอินไปด้วยกันได้ เพราะบางสิ่งก็เป็นอะไรที่เราเคยผ่านมาด้วยเหมือนๆ กัน

👉👉  นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังมิวสิคัล เพลงดนตรี ได้ที่นี่

รีวิว Start-Up (สตาร์ทอัพ) อาณาจักรธุรกิจที่เกิดขึ้นในสถานที่ที่เรียกว่า Sandbox

วันนี้ขอแนะนำซีรีส์เรื่อง   Start-Up (สตาร์ทอัพ)  แสดงโดยแบซูจี นัมจูฮยอก คิมซอนโฮและคังฮันนา ผ่านการกำกับโดยผู้กำกับของโอซองวาน ที่เคยกำกับเรื่อง Hotel Del Luna มาแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้จะบอกเล่าเรื่องราวของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทสตาร์ทอัพ  ซีรีส์ที่ไม่ได้มีแต่ความโรแมนติกแต่เป็นซีรีส์ที่ติดตามชีวิตของนักแสดงหลักทั้ง 4 ในขณะที่พวกเขาวางแผนให้กับชีวิตตัวเอง ที่ต้องผ่านความท้าทายของธุรกิจสตาร์ทอัพและอาณาจักรธุรกิจที่เกิดขึ้นในสถานที่ที่เรียกว่า Sandbox  แสดงให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของผู้ประกอบการและวิธีการทำงานที่มีแต่ความมุ่งมั่นเพื่อให้ก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จ ซีรีส์จะแสดงให้เห็นว่าความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ หากคุณสงสัยว่าทำไมต้องดูซีรีส์เรื่องนี้วันนี้เราจะมาบอกกันค่ะ

โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบริษัทแซนด์บ็อกซ์ เป็นเรื่องราวการเดินทางของคน 4 คนที่ไม่เหมือนใครของซอดัลมี (แบซูจี), นัมโดซาน (นัมจูฮยอก), ฮันจีพยอง (คิมซอนโฮ) และวอนอินแจ (คังฮานา) ซอดัลมีเป็นหญิงสาวที่มีความฝันที่จะกลายเป็นซีอีโอเพื่อทำให้ความฝันของพ่อเป็นจริง ชีวิตในวัยเด็กของเธอนั้นน่าเศร้ามาก แม่ของเธอก็ได้แต่งงานใหม่กับเศรษฐีและได้พาวอนอินแจพี่สาวของเธอไปด้วยแต่เธอเลือกที่จะอยู่กับพ่อของเธอ ไม่นานหลังจากนั้นพ่อของเธอก็เสียชีวิตทำให้เธอต้องอาศัยอยู่กับย่าเพียงลำพัง ซอดัลมีได้รับจดหมายปลอมจากฮันจีพยองเพราะย่าของซอดัลมีให้ฮันจีพยองเขียนให้ ซึ่งจดหมายนี้ก็ช่วยให้ซอดัลมีแรงฮึดที่จะสู้ชีวิตต่อไป แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ใช้ชื่อของเขาในการเขียนจดหมายปลอบประโลมเธอ แต่ใช้ชื่อของ “นัมโดซาน” แทนเพราะเป็นชื่อที่เขาเห็นมาจากหนังสือพิมพ์

สำหรับเราชอบมาก คือ ความหมายของ sandbox ที่เป็นสถานที่หลักของซีรี่สเรื่องนี้ที่หลายๆคนอยากเข้ามาทำงานที่นี่ ความหมายที่เปรียบเหมือนสนามเด็กเล่นที่มีกระบะทรายรองรับ ถ้าเราล้มลงก็ไม่เจ็บ และลุกขึ้นใหม่ได้ เป็นการเปรียบเทียบเหมือนให้เห็นว่าการทำสตาร์ทอัพอาจมีล้มได้ แต่เราก็ลุกได้ทุกเมื่อ ความสัมพันธ์ของตัวละคร ในซีรี่ส์บอกเล่าเรื่องราวมาให้เราเข้าใจได้ดี ใครมีที่มาจากไหน รู้จัก และ มาเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร

 👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังสารคดี ได้ทีนี่

รีวิว May-December Romance (2021) พฤษภา-ธันวา รักแท้แค่เกิดก่อน

แนะนำซีรีส์ May-December Romance (2021) ความรักที่ไร้ขีดจำกัดของอายุในละครเรื่อง ‘พฤษภา-ธันวา รักแท้แค่เกิดก่อน’ เป็นละครโรแมนติกคอมเมดี้ ที่จะพาเราไปทำความรู้จักกับความรักที่ไม่มีวันแก่ เมื่อซิสอรผิดหวังกับความรักจนต้องหันไปพึงมีดหมอจนกลับมาเป็นสาววัย 25 ปี และหวังที่จะกลับไปง้อแฟนเก่าอย่าง ‘ดนัย’ ด้วยความสาวความสวยของเธออีกครั้ง แต่ดนัยกลับเปลี่ยนใจหันไปสนใจสาวมหาลัยสุดเซ็กซี่

โดยเรื่องราวของซิสอร สาวอายุ 52 ปีที่อกหักจากดนัยแฟนหนุ่มที่ครบกันมา 10 ปี จนทำให้ซิสอรหันไปพึ่งศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลี จนกลับมาเป็นสาววัย 25 ปีอีกครั้ง หลังจากที่ซิสอรกลับไปง้อแฟนเก่าอย่างดนัยแต่ไม่สำเร็จ ทำให้ซิสอรได้พบกับเด็กหนุ่มนักกีฬาปิงปองอายุ 25 ปี ซึ่งมีอายุน้อยกว่าซิสรมาก   ย้อนไปเมื่อ 3 เดือนก่อนที่ประเทศเกาหลี เป็นการบอกเล่าสาเหตุของการเลิกกันระหว่างดนัยกับซิสอร และเป็นจุดเริ่มต้นของ ตั้ม ที่ถูกยึดเหรียญทองจากการแข่งขันกีฬาปิงปอง โดยมี ต๊ะ ที่เป็นคุณหมอประจำทีมและยังเป็นพี่ชายของตั้มตกเป็นผู้ต้องสงสัย เรื่องราวความเจ็บปวดของซิสอรและตั้ม ทำให้พวกเขาทั้งคู่ได้กลับมาพบกันอีกครั้งแต่เรื่องราวก็ไม่ได้ง่ายแบบโรยกลีบกุหลาบ หลังจากที่ดนัยได้เห็นซิสอรที่สวยและสาวขึ้นก็ได้ขอกลับมาคบกันต่อเหมือนเดิม

อย่างไรก็ตามด้วยในความสัมพันธ์ของทุกตัวละครเกี่ยวข้องกันหมด เป็นทั้งครอบครัว พี่น้อง และศิษย์กับอาจารย์ ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาน่าค้นหาว่าจะลงเอยแบบใด ละครเป็นแนวคอมเมดี้โรแมนติกในตอนกแรกก็มีขายขำออกมาบ้างกรุบกริบ บอกเลยว่าคู่ของซิสอรปั่นป่วนมาก ๆ จะต้องติดตามต่อไปนะคะว่าจะโรแมนติกกันขนาดไหน

 👉👉  นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรีย์แนวสืบสวนสอบสวน แนวฆาตกรรม ไขปริศนา ได้ที่นี่

รีวิว Mad For Each Other (พบรักไว้พักใจ) ผู้ป่วยจิตสองคนที่ต้องมาช่วยเยียวยาซึ่งกันและกัน

แนะนำซีรีส์  Mad For Each Other พบรักไว้พักใจ ซีรีส์เกาหลี Original Netflix เรื่องราวของเพื่อนบ้านชายหญิงสองคนได้รู้ว่ามีจิตแพทย์คนเดียวกัน ทั้งคู่เขม่นขี้หน้ากัน แต่หนีกันไม่พ้นจนต้องตกอยู่ในสถานการณ์สุดกระอักกระอ่วน จนกลายมาเป็นพบรักเยียวยาใจกันและกัน

โดยเรื่องราวของ  อีมินกยอง (รับบทโดย Oh Yeon-Seo) กับ โนฮวีโอ (รับบทโดย Jung Woo) ทั้งคู่มาเจอกันโดยบังเอิญหลายครั้งในสถานการณ์เพี้ยนๆ ที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ แต่ที่มันเพี้ยนแล้วเป็นได้แบบนั้นเพราะทั้งคู่กำลังมีอาการทางจิตคนละแบบ ในรายของโนฮวีโอ พระเอกของเรื่องคืออาการควบคุมอารมณ์โกรธไม่ได้ เรียกว่าปรี๊ดง่ายของขึ้นสติแตกบ่อยครั้ง แต่ดันมาเจอกับเพื่อนบ้านสาว อีมินกยอง นางเอกของเรื่องที่เป็นโรคตื่นตกใจง่าย ขี้ระแวง ขี้มโน ชอบคิดว่าคนที่มาเจอกับเธอเป็นนั่นเป็นนี่ในแง่ร้ายเสมอ แล้วทั้งคู่ก็ต้องไปหาหมอคนเดียวกัน ทางเดียวกัน กลับบ้านก็เจอกัน ทำอะไรก็มีเหตุบังเอิญให้เจอกันหมด คนหนึ่งชอบยั่วโมโหคนอื่นแบบไม่ตั้งใจ มาเจอกับคนปรี๊ดแตกกับอะไรง่ายๆ มันก็เลยกลายเป็นซีรีส์ที่เต็มไปด้วยการทะเลาะเบาะแว้งแผดเสียงแสบแก้วหูใส่กันทั้งเรื่อง ซึ่งรับประกันความฮาได้เลยกับพล็อตที่ครีเอทให้คนบ้ามาเจอคนบ้าแบบนี้

สำหรับเรื่องนี้เป็นซีรีส์แนวผู้ป่วยจิตสองคนที่ต้องมาช่วยเยียวยาซึ่งกันและกัน ความป่วยจิตของทั้งคู่เวลาเจอกันทั้งตลกและฮา ออกแนวเพี้ยนๆบ้าๆ มีความสนุกสนานแบบบ้าๆแต่แอบซ่อนความสะเทือนใจไว้ด้วย แต่โดยรวมทั้งเรื่องสนุกครบรสดีค่ะ มีเสน่ห์แบบบ้านๆ ชวนให้ลุ้นทุกตอน อยากให้ลองดูนะคะ

 👉👉  นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ดูหนังเอเชีย ได้ที่นี่