Thursday, December 30, 2021

รีวิว She Was Pretty รักโกลาหลของคนเคยสวย

She Was Pretty ซีรีย์สายฮา ที่ได้เล่าเกี่ยวกับคนรู้จักกันที่ดันโคจรกลับมาเจอกันอีกครั้งแต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปแบบสุดขั้ว คนเคยสวยกลับขี้เหร่ คนเคยขี้เหร่กลับหล่อไปซะงั้น โรแมนติกคอมมาดี้ที่สร้างจากเรื่องจริงเกี่ยวกับคนรู้จักสองคนที่พบกันอีกครั้งหลังจากที่พวกเขาได้ผ่านพ้นชะตากรรมและรูปลักษณ์ที่พลิกผัน ฉากหลังเป็นสำนักงานจัดพิมพ์นิตยสารแฟชั่น


เรื่องราวของเพื่อนสนิทคู่หนึ่ง ซึ่งทั้งสองสนิทกันตั้งแต่วัยเด็กเรียกว่าเป็นรักแรกของกันและกัน โดยพระเอกของเรา จีซองจุน แสดงโดย Park Seo Joon ตอนเด็กนั้นเป็นเด็กที่อ้วนและโดนเพื่อนแกล้งตลอด แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดี นางเอก คิมชเยจิน แสดงโดย Hwang Jung-Eum  ซึ่งในวัยเด็กนั้นเป็นเด็กที่สวยและน่ารักมาก โดยทั้งคู่เป็นทั้งเพื่อนร่วมชั้นเรียน และ เพื่อนบ้าน พระเอกนั้นอาศัยอยู่กับพ่อเพราะว่าเสียแม่ไปในอุบัติเหตุทางรถยนต์ในวันที่ฝนตก ทำให้พระเอกเรากลัวฝนอย่างมาก ในวันที่ฝนตกวันหนึ่งพระเอกกลัวมากเขาจึงไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ซึ่งนางเอกได้ช่วยพระเอกไว้ด้วยการช่วยกางเสื้อคลุมเป็นร่มและให้พระเอกฟังเพลงเพื่อจะได้สงบขึ้น ทำให้พระเอกเกิดความประทับใจในตัวนางเอกมาก ต้องบอกเลยว่าการแสดงของนางเอก Hwang Jung-Eum นั่นสร้างความขบขันให้กับผู้เขียนอย่างมาก เพราะนางเอกจะประหม่าตลอดเวลาโดยเฉพาะเวลาที่จะต้องอยู่ใกล้กับพระเอก ดูแล้วหัวเราะแทบจะทุกตอนเลย เรียกว่าเธอทุ่มสุดตัวไม่ห่วงสวยเลยทีเดียว พระเอกก็แสดงบทเข้มได้เข้มสมบทบาทเมื่อมาเจอกับนางเอกก็ทำให้เกิดเป็นตลกลงตัวทีเดียว 




โดยรวมเรื่องราวสนุกค่ะ หากใครชอบแนวลูกเป็ดขี้เหร่เปลี่ยนตัวเองเป็งหงส์นี่ต้องดูเลยค่ะ เรื่องนำเสนอได้ค่อนข้างสนุกและมีหลายมุมของแต่ละตัวละครมากๆ แต่ที่่หักไปหนึ่งงคะแนนเพราะมีดราม่าบางช่วงที่ไรต์ไม่ค่อยอินเท่าไหร่ แต่ก็เป็นส่วนน้อยอ่ะค่ะเพราะเนื้อหาแก่นหลักและบทสนุกมากจริงๆ ต่อให้ทั้งตอนจะเศร้าขนาดไหนก็จะมีฉากฮามาคั่นไม่ให้ดราม่าเกินไป ส่วนตอนจบทำออกมาได้ดีมากจริงๆ ชอบตอนจบมาก ดูน่ารักกรุ๊งกริ๊ง





👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรีย์แนวสืบสวนสอบสวน แนวฆาตกรรม ไขปริศนา ได้ที่นี่

Wednesday, December 29, 2021

รีวิว Mystic Pop-up Bar (มนตร์มายา ณ ร้านลับแล)

Mystic Pop-up Bar (มนตร์มายา ณ ร้านลับแล) เป็นเรื่องแนวคอมเมดี้-แฟนตาซี ที่ขนอารมณ์ต่าง ๆ มาครบรส และสอดแทรกปรัชญาในการใช้ชีวิตไปด้วยในตัว บาร์กลางแจ้งลึกลับที่เปิดเฉพาะช่วงดึกเท่านั้นที่สามารถเดินทางไปต่างโลกและเยียวยาลูกค้าผ่านความฝัน


เรื่องราวตั้งแต่สมัยโชซอน   วอลจู (พักซีอึน)มีแม่เป็นร่างทรงทำให้เธอได้รับพลังพิเศษมาอย่างหนึ่งคือ สามารถเข้าไปในฝันของผู้อื่นได้เพียงจับมือ ซึ่งความสามารถพิเศษนี้ทำให้เธอได้มีโอกาสช่วยเหลือผู้อื่นมาตลอด จนชื่อเสียงเลื่องลือเข้าไปถึงในวัง เมื่อความทราบถึงพระมเหสี วอลจู ก็ถูกเรียกเข้าวังในทันทีเพราะในขณะนั้น องค์รัชทายาทเป็นโรคหลับไม่ตื่น วอลจูก็เข้าไปรักษาองค์รัชทายาท ด้วยวิธีที่เธอใช้กับทุกคนคือ สัมผัสมือและเข้าไปในฝัน ปลอบประโลมวิญญาณที่บาดเจ็บจนรัชทายาทหายประชวร แต่ก็มีเหตุอันไม่คาดฝันเกิดขึ้นจนได้เมื่อชาวบ้านเกิดอิจฉาริษยาที่วอลจูได้ดิบได้ดี ก็เกิดเสียงลือเสียงเล่าอ้างต่าง ๆ นานา ว่า “รัชทายาทแอบมาหาวอลจูทุกคืน เธอถึงมีหน้ามีตาแบบนี้ไงเล่า” เมื่อปากคนยาวกว่าปากกาภัยก็มาถึงตัว ความทราบไปถึงพระมเหสี แม่บอกให้เธอหนีไปและมอบปิ่นปักผมให้เธอ ไอ้ปิ่นปักผมนี่ก็เหมือนจะเป็นสื่ออะไรสักอย่าง




หลังจากนั้นแม่เธอถูกฆ่า บ้านถูกเผา วอดเลยจ้ะไม่เหลืออะไรสักอย่าง เด็กสาววอลจูคับแค้นใจในโชคชะตาและเกลียดมนุษย์ด้วยกันทันที ครอบครัวต้องพังพินาศเพราะลมปากคน เธอก็เลยไปผูกคอตายใต้ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นที่เคารพกราบไหว้ของคนในเมือง ประมาณว่าเป็นต้นไม้คู่บ้านคู่เมืองก็เลยตั้งใจมาตายมันตรงนี้นี่แหละ เย้ยมันซะเลย พอตายไปแล้วที่ปรโลกวอลจูก็ถูกตัดสินโทษจาก เทพเจ้ายอม ให้มาอยู่ในโลกมนุษย์แบบไม่ตาย มีอายุยืนยาวแบบสวยสะพรั่ง เพื่อชดใช้ความผิดที่ไปผูกคอตายที่นั่นด้วยการให้ช่วยผู้คนที่ทุกข์ใจ 1 แสนคน ภายในเวลา 500 ปีให้ได้


โดยรวมซีรีย์ขายความเป็น คอมเมดี้-แฟนตาซี แต่เริ่มต้นมาแบบบางเบาไปสักหน่อย อารมณ์เหมือนชงเหล้าแก้วแรก ที่เริ่มจากบาง ๆ ไปก่อน ชิมลางพอชุ่มคอแล้วค่อยจัดหนัก เติมให้เข้มขึ้นเรื่อย ๆ เรื่องนี้ตัวละครจะเข้าไปอยู่ในความฝันของผู้คน จัดการสะสางสิ่งที่อยู่ในใจและจิตสำนึก ความโอเวอร์แอ็กติ้งบอกเลยว่ามาเต็มมาเยอะ จนดูล้น ๆ แต่ก็เข้าใจได้กับเส้นเรื่องที่ปูไว้ เป็นตลกร้ายแบบคอมเมดี้ที่มีเส้นเรื่องยืนอยู่เส้นเดียวคือ บาร์ลับแลที่เปิดมาเพื่อล่อแมงเม่าให้บินเข้ากองไฟ เพื่อภารกิจหนีนรกของวอลจู และแมงเม่าเหล่านั้นก็คือลูกค้าที่มีความทุกข์ใจ ไม่ได้รับความชอบธรรม มีเรื่องคับแค้น จนตรอกและสิ้นหวัง




สรุปถึงเนื้อเรื่องจะครอบคลุมความเป็นคอมเมดี้ แต่มีความดราม่าและเสียดสีสอดไส้อยู่ กำลังขำ ๆ อยู่ดี ๆ อารมณ์ดราม่าก็มาซะงั้นและมาแบบเนียน ๆ ไม่ฉึบฉับ ดูกลมกลืนไปกับเนื้อเรื่องหน้าตาเฉย แถมยังเป็นความจริงในสังคมโลกที่ไม่ว่าจะอยู่ซีกไหนของมุมโลกก็ล้วนแล้วแต่จะต้องพบเจอกับเรื่องราวเหล่านี้ ความอยุติธรรมที่แบ่งแยกชนชั้นที่ฉาบอยู่ในทุกยุคสมัย การถูกกดขี่ข่มเหงจากคนในสังคม

👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังสารคดี ได้ที่นี่


Tuesday, December 28, 2021

รีวิว Oh My Ghost (รักนี้ผีขอป่วน) รักวุ่นๆของคนถูกผีเข้า

 Oh My Ghost (รักนี้ผีขอป่วน) ที่เคยถูกนำมา remake ที่ไทยแล้วแต่บทความนี้ขอแนะนำฝั่งของเกาหลีก่อนนะคะเนื่องจากหลงพระเอกหัวปรักหัวปลำมาก ฮ่าๆๆ ขอบอกก่อนนะคะว่าซีรีย์เรื่องนี้ตลก ขายขำ แต่ที่ว่าสยองขวัญมีแค่พอใจหายนิดๆหน่อยค่ะ เอาเป็นว่าขนาดผียังน่าตลกดีกว่า


เรื่องราวสาวน้อยผู้แบกความฝันอันยิ่งใหญ่อย่างการเป็นเชฟมาพร้อมกับสัมผัสที่หกอย่างการเห็นผี 'บงซอน' ได้มีโอกาสทำงานในร้านอาหารอิตาเลี่ยนฟิวชันส์ชื่อดังของเชฟที่เธอแอบปลื้มอย่าง 'ซอนอู' แต่มีหน้าที่ล้างจานเท่านั้นนะ กันตกที่นั่งลำบากเมื่อจู่ๆก็ถูกไล่ออกจากห้องพักพร้อมกับเงินติดตัวเพียงไม่กี่บาท เธอไม่รู้จะไปพึ่งที่ไหนและด้วยความเหนื่อยปนจิตอ่อน จู่ๆผีสาวเวอร์จิ้นอย่าง 'ซุนแอ' ก็ใช้จังหวะทองสิงร่างเธอซะนี่ จากเด็กหัวอ่อนกลายเป็นสาวเปรี้ยวซ่าส์ไปในทันที  มากไปกว่านั้นดันได้มานอนบนชั้นดาดฟ้าของร้านอาหารชั่วคราวด้วยความเวทนาจากเชฟที่เธอชอบอย่างซอนอู แต่ในตอนนั้นดันเป็นซุนแอในร่างบงซอนนี่ล่ะสิ เรื่องมันเลยมันส์กระจาย เมื่อซุนแอ ผีหนีการบัญชาจากสวรรค์ไม่ไปเกิดสักทีเพราะมีห่วงเเละเธอคิดว่าห่วงที่รั้งเธอไว้นั่นก็การที่เธอยังไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายนี่แหละ และผู้ชายที่ว่าไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาแต่ต้องเป็นผู้ชายดวงแข็งที่มีหยินหยางแตกต่างจากเธอซึ่งนั่นก็คือเชฟผู้น่าสงสารนั่นเอง 




โดยรวมเรื่องมันก็ดูจะง่ายหรอกถ้าไม่ติดที่ว่าเชฟซอนอูค่อนข้างหัวโบราณและรักนวลสงวนตัวมากถึงมากที่สุด ทีนี้ซุนแอจะได้ไปเกิดมั้ย ห่วงที่เธอคิดมันใช่รึเปล่า แล้วมีเรื่องลึกลับซับซ้อนที่ว่าเธอตายได้ยังไงอีก เฮ้อ! พล็อตเรื่องปังขนาดนี้ไม่ดูไม่ได้แล้วนะ


สรุปเรื่องนี้ปมสนุกมากจริงๆ รับประกัน ชอบที่ต่อให้ปมจะจริงจังและน่าพิศวงขนาดไหน บทและนักแสดงก็ทำให้กลายเป็นซีรีย์ตลกโปกฮาได้อย่างง่ายดาย บทของแต่ละตัวละครมีที่มาที่ไปที่ดีมาก ลำดับเรื่องให้ค่อยๆคลายปมจนน่าลุ้นเป็นที่สุด แม้เรื่องจะดำเนินด้วยปมใหญ่ปมเดียวที่ว่า ซุนแอตายได้ยังไง แต่ก็ยังคงมีปมเล็กๆน้อยๆที่เข้ามาในแต่ละตอนแต่สมูทและเข้ากันได้ดีกับเรื่องมากๆค่ะ


👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรี่ย์ฮิตติดกระแส ได้ที่นี่

Monday, December 27, 2021

รีวิว 1000 Miles from Christmas (คริสต์มาส 1,000 กม.)

1000 Miles From Christmas  ภาพยนตร์ของ Tamar Novas เป็นภาพยนตร์ตลกคริสต์มาสที่คาดเดาได้ตลอด สัมผัสเรื่องเล่าแห่งวันคริสต์มาส เรื่องรักที่ชวนยิ้ม และเรื่องราวของชายวัย 30 กว่า ๆ ที่ต้องจำใจคล้อยตามไปกับความหฤหรรษ์ของเทศกาลคริสต์มาส


เรื่องราวของ ทามาร์ โนวัส รับบทเป็น ราอูล นักตรวจสอบผู้เหยียดหยามที่เกลียดคริสต์มาสและหลีกเลี่ยงเหมือนโรคระบาด ภาพยนตร์เรื่องนี้พยายามอย่างหนักที่จะกลับบ้านเกิด ว่าความเกลียดชังของราอูลในช่วงวันหยุดนั้นรุนแรงเพียงใด เขาไม่เพียงแต่ทำลายวันหยุดให้คนอื่นเท่านั้น แต่ยังพูดจาโผงผางเกี่ยวกับผู้ชายที่แต่งตัวเป็นซานต้าให้กับเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ในงานนี้ด้วย ตัวละครของราอูลมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็น 'กรินช์' แบบคลาสสิกหรือคิลจอยคริสต์มาสหากคุณต้องการ


ดังนั้นจึงเป็นการลงโทษที่เหมาะสมเท่านั้นที่การตรวจสอบครั้งต่อไปที่เขาต้องทำคือในเมืองเล็กๆ ในฤดูหนาวที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของคริสต์มาสในทุกแง่มุม ตั้งแต่ภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยหิมะไปจนถึงผู้อยู่อาศัยที่ครึกครื้น ไปจนถึงอุตสาหกรรมหลัก โรงงานที่ผลิตคริสต์มาส ลูกกวาดและขนมหวาน ซึ่งราอูลต้องตรวจสอบ นับจากนั้นเป็นต้นมาภาพยนตร์คริสต์มาสทุกเรื่องที่มีอยู่ดูเหมือนจะถูกโยนทิ้งไปเมื่อเรื่องราวดำเนินไป ทุกการแข่งขันที่คุณสามารถตั้งชื่อได้ ฉันสามารถเดิมพัน 1,000 ไมล์จากคริสต์มาสได้ และองค์ประกอบที่เหนือชั้นบางอย่างในภาพยนตร์ทำให้คุณสงสัยว่าแนวเพลงนั้นพยายามขยายตัวเองไปสู่จินตนาการในบางครั้งหรือไม่




สรุปหากคุณเป็นแฟนตัวยงของทุกสิ่งในวันคริสต์มาสและสนุกกับการชมภาพยนตร์ทั้งเรื่องที่เต็มไปด้วยความเบื่อหน่ายในภาพยนตร์วันหยุด 1000 Miles From Christmas จะสมบูรณ์แบบสำหรับคุณ นี่ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ควรดูสำหรับลัทธิปฏิบัตินิยมหรือความแตกต่างกันนิดหน่อยเพราะแนวคิดดังกล่าวไม่มีอยู่จริงในภาพยนตร์ตลกวันหยุดที่แปลกประหลาดนี้ และถ้าไม่ใช่อย่างอื่น การถ่ายภาพยนตร์อันน่าทึ่งของทิวทัศน์ฤดูหนาวก็มอบภาพที่ผู้ชมสามารถเพลิดเพลินได้


👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรีย์แนวสืบสวนสอบสวน แนวฆาตกรรม ไขปริศนา ได้ที่นี่




Sunday, December 26, 2021

รีวิว ออฟฟิศติดฮา ซิทคอมออฟฟิศน้องใหม่ ฮายกเครื่อง

ออฟฟิศติดฮา (Happy Working Club) เรื่องราวของชาวแก๊งประจำออฟฟิศที่วัน ๆ น่าจะได้ฮามากกว่าได้งานจากแผนกแอปหาคู่ของบริษัทแห่งหนึ่ง เล่าเรื่องแบบจบในตอนตามสไตส์ซิตคอม ซึ่งเปิดตัวตอนแรกก็ทำเอาฮาไม่ผิดหวัง เรียกว่าเป็นการเปิดตัวแก๊งชั่วแก๊งใหม่กันเลยก็ว่าได้ นำทีมโดย ว่าน ธนกฤต, ป๊อบ ปองกูล และโจ๊ก โซลคูล ตามมาด้วยสมัครพรรคพวกดีกรีแน่นอีกเพียบ แค่เห็นตัวแสดงนี่ก็เตรียมอ้าปากปล่อยเสียงหัวเราะรอกันได้แล้วละ


เรื่องราวของวีรกรรมของแก๊งหนุ่มแสบประจำออฟฟิศ เรื่องงานค่อยว่ากันเรียกว่าอู้มากกว่าทำกันซะอีกแต่เรื่องมัน ๆ ขอให้บอก คือ 3 หนุ่มตัวร้าย ‘วิทย์’ (ว่าน ธนกฤต) ฝ่ายการตลาดที่ได้งานเพราะความหล่อ ‘โป๊บ’ (ป๊อบ ปองกูล) โปรแกรมเมอร์ปากหมาน และ ‘อ๊อด’ (โจ๊ก โซคูล) ครีเอทีฟผู้มั่นหน้ามั่นโหนก ก็ตามสไตล์บร๊ะเจ้าโจ๊กเขาละ แก๊งนี้วัน ๆ ไม่ค่อยทำอะไรจ้ะนอกจากเหล่สาวบนตึก ป่วนเพื่อน ๆ ในออฟฟิศ หาเรื่องประจบ ‘บอสวิชัย’ (เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง) และเสริมทัพความชั่วของแก๊งด้วยการกินเบียร์แล้วชักดาบที่ร้าน ‘เฮียไนท์’ (จตุรงค์ มกจ๊ก) เป็นสูตรสำเร็จของซิตคอมหนุ่มออฟฟิศที่ต้องมีวีรกรรมในที่ทำงาน เหล่สาวและเมามายตามร้านเหล้า  ฟากฝั่งสาว ๆ ก็ไม่น้อยหน้า นำทีมโดย ‘เจ๊ระพี’ (ดาว ณัฐภัสสร) ฝ่ายบุคคลสาวสายแอ๊ว กับ ‘ส้มซ่า’ (ซาร่า นลิน) ฝ่ายขายขาใหญ่ และกำลังจะมี ‘มินต์’ (สไมล์ ภาลฎา) พนักงานใหม่สาวสวยมาเสริมทัพ ที่ยังไม่รู้ว่าความฮาของน้องมินต์จะออกมาอารมณ์ไหน จะเป็นสาวซื่อโก๊ะกังให้เราขำกับความน่ารักของน้องรึเปล่า อันนี้ก็เดาเอาล้วน ๆ แต่น่าจะมาป่วนตรงไหนสักที่ในออฟฟิศแน่ ๆ ไม่งั้นน้องจะมาเป็นตัวเด่นทำไมเล่า




โดยรวมในบรรดาซิตคอมทั้งหมดที่มีในบ้านเรา ถ้าพูดถึงซิตคอมที่เล่าเรื่องราวสไตล์ออฟฟิศ แล้วมีสามตัวชั่วที่ภูมิใจในความชั่วของตัวเองแน่นอนว่าต้องนึกถึง ซิตคอมเป็นต่อ จะบอกว่าเรื่องนี้ก็มีกลิ่นอายคล้าย ๆ กัน แต่เป็นการยกเครื่องครั้งใหม่ที่เป็นต่ออาจจะกลายเป็นรุ่นลายครามไปแล้วก็ได้ เพราะแผนกแอปหาคู่ของออฟฟิศนี้ได้อัปเกรดทุกอย่างให้ทันสมัยมากขึ้น ตั้งแต่หน้าที่การงานที่อยู่ในยุคคิทัล ฉากต่าง ๆ ที่เห็นความเป็นออฟฟิศมากขึ้น


บวกกันความฮาที่ลื่นไหลจนคิดว่า นี่เขาด้นสดกันรึเปล่าเนี่ย จะใช้ชื่อว่าน ป๊อป โจ๊กมาแสดงในบทนี้เลยก็ไม่ติดอะไรนะ บทเขียนแบบนี้หรือพี่แกใส่กันเองเพราะเล่นเป็นตัวเองกันเหลือเกิน ฮากระจายตั้งแต่ฉากแรกไปเลยจ้ะนี่ถ้ารวมเอาโอ๊ต ปราโมทย์ เข้ามาด้วยก็ครบเลยจ้ะแก๊งนี้การันตีที่ความฮาขี้แตก แต่ที่แน่ ๆ ก็คือการลดมุกบูลลี่ที่ยังไม่เห็นจะโผล่ออกมาเลยในตอนที่ 1 อันนี้คือส่วนที่ดีเอามาก ๆ ถือว่าเป็นซิตคอมที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย แบบไม่ต้องใช้วิจารณญาณให้มากมายนัก สอดแทรกตบท้ายไปด้วยคำสอนจากบอสวิชัยที่เป็นจริง แต่ยังมีความฮาเป็นเมนหลัก


👉👉นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ ดูหนัง Netflix ได้ที่นี่

Saturday, December 25, 2021

รีวิว Charlie’s Angels (นางฟ้าชาร์ลี) ฮอร์โมนหญิงพุ่งพล่าน กับแอ็กชันเบา ๆ

Charlie's Angels นางฟ้าชาร์ลี คือซีรีย์ที่ประสบความสำเร็จในยุค 70 ก่อนจะมาเป็นหนังที่หลายคนน่าจะยังจำกันได้ ถึง 2 ภาค เมื่อปี 2000 และ 2003 และกลับมาเป็นซีรีย์อีกครั้งในปี 2011 จนล่าสุด ปี 2019 ที่กลับมาเป็นหนังอีกรอบ ซึ่งครั้งนี้จัดเต็มด้วยทีมนักแสดงชั้นนำและผู้กำกับชื่อดัง กับความมุ่งมั่นในการพาเหล่านางฟ้าชาร์ลี ไปสู่เส้นทางของหนังแอ็กชั่นสายลับฉบับสตรีนิยมตามยุคสมัย


เรื่องราวหลังประดิษฐกรรมด้านพลังงานทดแทนกำลังจะถูกเปลี่ยนเป็นอาวุธมหาประลัย เอเลนา (นาโอมิ สก็อตต์) สาวเนิร์ดนักประดิษฐ์จึงขอความช่วยเหลือจากองค์กรต่อต้านอาชญากรรมระดับโลกที่มีเหล่านางฟ้ามหากาฬนาม ชาร์ลีแองเจิลส์ ออกปฏิบัติการณ์ จนเธอได้พบกับ ซาบีนา (คริสเตน สจ๊วร์ต) นางฟ้าเด็กแนวสุดเท่ และ เจน (เอลลา บาลินสกา) อดีตสายลับ MI6 ที่ผันตัวเองมาเป็นนางฟ้าชาร์ลี ทั้ง 3 ทำงานภายใต้การดูแลของ บอสลีย์ (เอลิซาเบธ แบงค์) อดีตนางฟ้าชาร์ลีที่ผันตัวมาเป็นผู้บัญชาการ แต่งานนี้ดันมีเกลือเป็นหนอนจากภายในองค์กรเอง และการซื้อขายอาวุธมหาประลัยกำลังใกล้เข้ามาทุกที พวกเธอจำต้องผนึกกำลังขยับปีกออกบู๊เพื่อความสงบสุขของโลก




โดยภาพรวมแล้วก็ต้องบอกว่า อย่าไปสนเสียงวิจารณ์ Charlie’s Angels  จากคะแนนมะเขือเน่า หรือเว็บเมืองนอกมากนัก เพราะเอาเข้าจริง ๆ ตัวหนังก็ยังมีอะไรดี ๆ ให้ดู ทั้งการปรับภาพลักษณ์ของสาว ๆ นางฟ้าชาร์ลี ให้ดูทันสมัยเข้ากับโลกยุคปัจจุบัน ความฮา ความสนุกจากการกำกับของ เอลิซาเบธ แบงค์ และที่สำคัญคือเสน่ห์ของนักแสดงนำและเพลงประกอบภาพยนตร์แบบดูเสร็จแทบโหลดอัลบั้มซาวด์แทร็กมาฟังกันไม่ทันเลยแหละ อ้อ..ฉากท้ายเรื่องตรงกลางเอนด์เครดิตมีบรรดาผู้หญิงแกร่งแห่งยุคแบบไม่จำกัดเพศสภาพมาเป็นแขกรับเชิญให้หนังด้วยนะ อย่ารีบลุกล่ะ


นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรีย์แนวสืบสวนสอบสวน แนวฆาตกรรม ไขปริศนา ได้ที่นี่

Friday, December 24, 2021

รีวิว Ron’s Gone Wrong (2021) รอน หุ่นเพี้ยนเพื่อนรัก

Ron’s Gone Wrong (2021) เรื่องราวของหนุ่มน้อย “บาร์นี่ย์” เด็กมัธยมต้นที่ดูงุ่มง่ามและรอน หุ่นยนต์ที่สามารถพูดได้เดินได้ และเชื่อมต่อแบบดิจิทัล วันหนึ่งการทำงานผิดพลาดของรอนเป็นฉากหลังของยุคโซเชียลมีเดียทำให้พวกเขาต้องเดินทางเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับมิตรภาพที่แท้จริง




เรื่องราวของโลกอนาคตที่หุ่นยนต์มีการพัฒนาไปจนถึงขั้นเดินและพูดได้แบบมนุษย์ จนกลายมาเป็นเพื่อนที่แสนดีของเหล่าเด็กๆ ตัวเอกคือหนุ่มน้อยวัย 11 ปี เขาได้ค้นพบว่าหุ่นยนต์เพื่อนรักของเขานั้นมีความแตกต่างจากหุ่นยนต์ทั่วๆไป เขาจึงทำการศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับเพื่อนหุ่นยนต์ของเขามากยิ่งขึ้น และนี่คือจุดเริ่มต้นของการเกิดมิตรภาพท่ามกลางโลกแห่งอัลกอริทึมและโซเชียลมีเดีย




โดยรวม Ron's Gone Wrong มีเนื้อหาที่สามรถให้ความรู้เกี่ยวกับโซเชียลเน็ตเวิร์กได้เป็นอย่างดี ในภาพยนตร์มักใช้โทรศัพท์มือถือที่ตอบสนองต่อทุกสิ่งและสตรีมแบบสดอย่างต่อเนื่อง การเล่าเรื่องทำออกมาได้ดีมีสิ่งให้คิดตามมากมายกับเรื่องราวใหม่ๆ การเกิดมิตรภาพ ความหมายของมิตรภาพ เหมาะสำหรับเด็กๆ ดูพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว


👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังสารคดี ได้ที่นี่

Thursday, December 23, 2021

รีวิว The Christmas Chronicles 2 (ผจญภัยพิทักษ์คริสต์มาส ภาค 2)

The Christmas Chronicles 2 หลังจากเรื่องความวุ่นวายในวันคริสมาสต์ ผ่านไปนานถึง 2 ปี สองพี่น้องเคท (ดาร์บี้ แคมป์) และเท็ดดี้ เพียร์ซ (จูดาห์ ลูอิส) ก็ได้เติบโตและมีเรื่องราวเปลี่ยนไปมากมาย เคทที่ตอนนี้ได้กลายเป็นเด็กขี้ประชด และต้องไปเที่ยวกับแฟนใหม่ของแม่ พร้อมกับแจ็ค ลูกชายของแฟนใหม่แม่อย่างไม่เต็มใจนัก ในช่วงวันคริสมาสต์พอดี


เรื่องราวของ เคท ที่กำลังประสบกับปัญหากับการที่แม่ของเธอนั้นกำลังจะมีความสัมพันธฺกับคนที่มีลูกติดมา โลกของเธอเริ่มจะไปสวยงามอีกต่อไป เธอเลยพยายามขอพรให้เธอได้หลุดพ้นจากทริปที่น่าอึดอัดจนพวกเธอนั้นได้มาเจอกับซานต้นอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้เธอก็ต้องปกป้องวันคริสต์มาสไว้ให้ได้อีกครั้ง เพราะว่าที่ขั้วโลกเหนือเองก็เกิดเรื่องราวที่จะทำให้วันคริสต์มาสหายไปตลอดกาล งานนี้เคท พร้อมกับ แจ็ค ต้องปกป้องจากสิ่งที่จะมาทำลายวันคริสต์มาสไว้ให้ได้


โดยรวมปมปัญหาสำคัญตัวร้ายของภาคนี้ ค่อนข้างธรรมดาและคาดเดาง่ายมาก ซึ่งมองว่ามันทำให้หนังขาดความสดใหม่จากที่พยายามปูมา เพราะแม้จะให้ความสำคัญกับพื้นที่ดินแดนและจุดกำเนิดของซานต้าและเอลฟ์มากขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ทำให้หนังดูแปลกใหม่อะไร การเปิดเผยปมคำตอบต่าง ๆ ก็ดูเป็นสูตรสำเร็จ ดูเป็นหนังคริสต์มาสแฟนตาซีวันหยุดทั่วไปของเน็ตฟลิกซ์ ในขณะที่ภาคแรกหยิบซานต้าไปโลดแล่นในเมืองอย่างสุดเจ๋ง และมีหลายฉากให้ลุ้นไปกับตัวละคร คาดเดายากว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ภาคนี้แม้จะมีฉากคล้าย ๆ กัน แต่ก็ไม่ได้น่าจดจำเท่าเลย ฉากซึ้งต่าง ๆ ที่ภาคแรกทำได้ดี แต่ภาคนี้มันกลับเฉย ๆ มาก ความที่มันดูง่ายไปหมดคือจุดอ่อนของภาคนี้เลย




สรุปในภาคแรกเราอาจจะไม่ได้เห็นหมู่บ้านซานต้าครอส หรือความอลังการของซีจีมากนัก แต่ของบอกเลยว่าในภาคนี้ ทั้งภาพทั้งเสียง ทำให้เราทึ่งในคุณภาพของซีจีจากเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ บอกเลยว่าเกินความคาดหมายมาก ๆ เพราะความน่ารักจากบรรดาเอลฟ์ทั้งหลาย ขนกันมาทั้งหมู่บ้าน แถมยังมีความสมจริงอย่างน่าเหลือเชื่อ เพราะฉะนั้นแล้วในช่วงวันหยุดนี้หากคุณกำลังมองหา หนังครอบครัว หนังคริสต์มาส ดี ๆ สักเรื่อง ขอแนะนำเลยว่าให้ดูเรื่องนี้ แล้วคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน แล้ววันหยุดของคุณจะเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความสุขส่งท้ายปี


👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี ได้ที่นี่

Tuesday, December 21, 2021

รีวิว So I Married an Anti-fan (2021) 'ซุป'ตาร์มาดแมน กับแอนตี้แฟนจอมยุ่ง'

So I Married an Anti-fan ซีรีย์โรแมนติก คอมเมดี้ ด้วยพล็อตเรื่องที่แปลกใหม่ โมเมนต์ต่าง ๆ ที่เราอาจไม่เคยเห็นระหว่างศิลปินและแอนตี้แฟน และยังเสริมทัพด้วยเหล่านักแสดงมากความสามารถอย่าง ชเว ซู-ย็อง นักแสดงสาวอดีตไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป Girls' Generation หรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า SNSD และ ชเว แท-จุน นักแสดงหนุ่มที่มีผลงานการแสดงมาแล้วหลายเรื่อง และเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทั้งสองคนจะได้แสดงฝีมือการแสดงอีกครั้ง


เรื่องราวของ อีกึนยอง (รับบทโดย Choi Soo-young) นักข่าวสาวผู้ที่ถูกแฟนนอกใจเพราะแฟนเธอเป็นเกย์ เธอเสียใจและมุ่งมั่นกับงานแทน วันหนึ่งเธอได้ไปทำข่าวเกี่ยวนักร้องหนุ่ม ฮูจุน (รับบทโดย Choi Tae-joon) แต่เธอได้ไปเห็นว่าฮูจุนอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเธอเข้าใจผิดคิดว่าฮูจุนทำร้ายผู้หญิงคนนั้น ฮูจุนที่เห็นเธอแอบดูอยู่และมีกล้องห้อยที่คอ เขาจึงคิดว่ากึนยองแอบถ่ายจึงเข้าไปคุย แต่เกิดการทะเลาะจนทำให้กึนยองโยนรองเท้าใส่ฮูจุนและมีคนถ่ายภาพได้ ภาพนี้ทำให้กึนยองถูกไล่ออกจากงานและถูกลุมด่าจากกลุ่มแฟนคลับของฮูจุน เธอจึงกลายเป็นแอนตี้แฟนอย่างเต็มตัว จากการที่เธอประกาศตัวเป็นแอนตี้แฟนออกสื่อ เธอจึงถูกทาบทามให้มาถ่ายรายการวาไรตี้คู่กับฮูจุน 




โดยรวมการดำเนินเรื่องเข้าใจง่าย มีที่มาที่ไปหมดเลยว่าทำไมเหตุการณ์ในเรื่องถึงเป็นแบบนี้ อะไรที่ทำให้ทั้งสองคนที่ไม่ถูกกันต้องมาทำรายการวาไรตี้ร่วมกัน ด้านนักแสดง นางเอกของเรื่องอย่าง ชเว ซูย็อง รับบทนี้แล้วเล่นได้น่ารักน่าเอ็นดูมาก เธอถ่ายทอดตัวละครนี้ให้เราเห็นว่าเธอเป็นคนอย่างไร นึกคิดยังไง ซึ่งเธอทำออกมาได้ดีมาก ส่วนพระเอกก็เล่นได้ดูเหมาะมาก เล่นดีมากโดยเฉพาะการแสดงอารมณ์เพราะตัวพระเอกนั้นจะมีอารมณ์ที่ค่อนข้างหลากหลาย ชเว แทจุน พระเอกของเราก็เอาอยู่ ส่วนนักแสดงคนอื่นก็แสดงได้ดี เป็นสีสันของเรื่องได้อย่างดีเยี่ยม และฉากตลกต่าง ๆ แต่ละคนใส่เต็มไม่มีกั๊กเลยค่ะ ใครที่ชอบแนวเลิฟคอมเมดี้ ไม่ควรพลาดครับ คุณจะได้รับทุกอรรถรสในเรื่องนี้อย่างแน่นอนค่ะ



👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังมิวสิคัล เพลงดนตรี ได้ที่นี่


Monday, December 20, 2021

รีวิว ยิ้มให้รัก จากหัวใจ Make My Heart Smile (2021) ซีรีย์โรแมนติกรอมคอมสุดฟิน

ยิ้มให้รัก จากหัวใจ Make My Heart Smile ซีรีย์รอมคอมสุดฟิน ได้นักแสดงนำสุดหล่อ หลัวเจิ้ง รับบทเป็น กู้เหยียนลั่ว เทพบุตรผู้เพียบพร้อมทุกด้าน ประกบคู่กับ จี้เหม่ยหาน รับบทเป็น เย่เว่ยเหมียน สาวน้อยน่ารักเปี่ยมไปด้วยพลัง โชคชะตาทำให้ทั้งคู่ต้องมาเจอกัน แล้วความรักอันยุ่งเหยิงของทั้งคู่ก็เกิดขึ้น


เรื่องราวของสามคู่รักวัยรุ่น นักศึกษามหาวิทยาลัยเซี่ยลั่ว "เย่เว่ยเหมียน" (รับบทโดย จี้เหม่ยหาน) พี่สาวฝาแฝดของ เย่เจิ่นหาน สาวน้อยที่ประสบอุบัติเหตุถูกรถชนหมดสติ เพื่อรักษาความฝันของน้องสาวไว้ เย่เว่ยเหมียนเลยแสดงละครตบตา แฝงตัวเข้าเรียนคณะพาณิชย์และบัญชี คณะของน้องสาว และเรียนคณะศิลปะ ด้านการออกแบบเสื้อผ้าของตนเองควบคู่กันไป แถมต้องทำงานพาร์ทไทม์เพื่อหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลน้องด้วย ระหว่างทำงานพาร์ทไทม์เป็นพนักงานส่งของ ดันต้องไปส่งพัสดุให้ "กู้เหยียนลั่ว" (รับบทโดย หลัวเจิ้ง) หนุ่มหล่อคณะพาณิชย์และบัญชี เดือนมหาวิทยาลัย หนุ่มแสนเพอร์เฟ็ค สเปกสาว ๆ แต่ดันทำพัสดุเสียหาย จึงต้องชดใช้ด้วยการปลอมตัวเป็นแฟนเขาหนึ่งวัน แต่เพราะได้เรียนคณะเดียวกันจึงได้เจอกันบ่อย บวกกับความน่ารัก แสนซนของเธอ ทำให้กู้เหยียนลั่วตกหลุมรัก เย่เว่ยเหมียน ที่ปลอมตัวเป็นเย่เจิ่นหาน อย่างไม่รู้ตัว จนคอยช่วยเหลือเธอทุกอย่าง พร้อมทั้งเสนอให้เธอมาทำงานเป็นแม่บ้านที่บ้านและอยู่บ้านเดียวกัน แต่ความรักของทั้งคู่ไม่ได้ราบรื่นซะทีเดียว เพราะก้างขวางคออย่าง  “จั่วซือเฉิน” (รับบทโดย เหวินเยวียน) จิตรกรอัจฉริยะ ที่เพิ่งกลับมาจากเรียนแลกเปลี่ยน แอบชอบเย่เว่ยเหมียนมาตั้งแต่เด็ก




โดยรวม Make My Heart Smile ยิ้มให้รักจากหัวใจ เป็นซีรีย์แนวรอมคอม รักในวัยเรียนระดับมหาวิทยาลัย พระเอกเป็นคนเย็นชา เป็นเทพบุตร สุดเพอร์เฟ็ค นางเอกน่ารักใส ๆ อดทนขยัน สู้ชีวิตหน่อย ๆ กำแพงน้ำแข็งของพระเอกละลายด้วยความสดใสน่ารักของนางเอก เคมีพระนางดีงาม ทำฟินเกินต้าน  แอบอิจฉานางเอก หนุ่ม ๆ รุมรัก แถมแต่ละคนยังหล่อ ๆ ทั้งนั้น เป็นซีรีย์รักวัยเรียนใส ๆ ดราม่าเล็ก ๆ ไม่ปวดตับ แต่เสิร์ฟความโรแมนซ์แน่น ๆ หวานเยิ้ม ดูแล้วฟิน มีคู่รักถึงสามคู่  


👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรีย์แนวสืบสวนสอบสวน แนวฆาตกรรม ไขปริศนา ได้ที่นี่

รีวิวหนังโรแมนติก Royalteen (2022) รอยัลทีน

  รีวิวหนังโรแมนติก Royalteen (2022) รอยัลทีน จาก Netflix  ติดตามความรักจากนิวนิยายขายดีเกี่ยวกับ คาร์ล โยฮัน เจ้าชายที่พยายามสร้างความรักที...