Monday, January 31, 2022

รีวิว Better A Lie Than A Truth (2022) ทุกอย่างเริ่มจากการโกหก

Better A Lie Than A Truth (2022) ซีรีย์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ ได้นักแสดงหนุ่มอย่างเฉินจวิ้นอวี่และเซวียนฮ่าวจากวงDREAM4 และนักแสดงสาวอย่างหนิวอวี่คุน ซีรีย์เรื่องนี้บอกเล่าเกี่ยวกับชายมาดขรึมที่มีพี่น้องฝาแฝดที่มีนิสัยต่างกัน เขาตื่นขึ้นมาหลังจากงานเลี้ยงค็อกเทลพบว่ากำลังอยู่ในห้องเดียวกันกับหญิงสาว เขาพยายามหลีกตัวหนีโดยการปลอมเป็นฝาแฝดของเขา แต่เรื่องราวก็ยิ่งกลับตาลปัตรจนเกิดเหตุบางอย่างที่ทำให้พวกเขาทั้งสองต้องแต่งงานกัน เพราะน้องชายของเขาได้คุยเรื่องแต่งงานไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ว่าจะจัดงานแต่งเพื่อแม่ของเขา 


เรื่องราวของเฉินหมู่เฉิงนักธุรกิจหนุ่มมาดเนี้ยบ เขาทั้งเงียบขรึมและดูเย็นชา และซูเหนียนนักบรรณาธิการนิตยสารเธอต้องการที่จะได้รับโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งเธอทำได้เพียงสัมภาษณ์หัวหนุ่มกลุ่มก่อน หัวหน้ากลุ่มที่เธอต้องไปสัมภาษณ์นั้นกลับเป็นเฉินมู่เฉิงที่เคยเป็นอดีตเพื่อนร่วมชั้นของเธอ ตอนนั้นที่งานรับปริญญา เฉินมู่เฉิงจากหนุ่มนิ่งเงียบไม่ค่อยพูด เขากำลังจะก้าวข้ามขีดจำกัดด้วยการสารภาพบางอย่างกับซูเหนียน แต่ดูเหมือนว่าตอนนั้นเธอเมาแล้ว บวกกับตอนนั้นเกิดการเข้าใจผิดกันเกิดขึ้น จึงต้องเลิกรากันไปก่อน หลังจากนั้นไม่กี่ปี เฉินมู่เฉิงก็ได้สยอดธุรกิจจากครอบครัวของเขา และกลายเป็นหัวหน้ากลุ่มที่ซูเหนียนได้รับหมอบหมายให้มาสัมภาษณ์ จากนั้นทั้งสองก็ได้พบกันที่งานเลี้ยงค็อกเทล ว่าด้วยเรื่องสุราแอลกอฮอล์ที่ทั้งสองนั้นไม่ค่อยถนัดสักเท่าไหร่ จึงทำให้เมาจนไม่รู้สติทั้งคู่ เฉินมู่เฉิงและซูเหนียนทั้งสองเข้าไปนอนในห้องเดียวกัน ทั้งสองตื่นมาพบว่ากำลังนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน เฉินหมู่เฉิงคิดได้จึงปลอมตัวเป็นลู่จิ่งเหนียนน้องชายฝาแฝดของเขาเพื่อที่จะหนีออกมาจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด แต่ใครจะรู้ว่าเรื่องราวยิ่งวุ่นวายไปอีกเมื่อน้องชายฝาแฝดของเขาเเละซูเหนียนได้ร่วมมือกันที่จะจัดงานแต่งวิววาอันหวานชื่นให้แม่ที่ความจำเสื่อมของเขาพอใจ เฉินมู่เฉิงแม้เขาจะไม่อยากแต่งงาน แต่ก็ไม่อาจเลี่ยงได้ ทั้งคู่แต่งงานกินอยู่ด้วยกันแบบหลอกๆเพื่อแม่ของเฉินมู่เฉิง



โดยรวมวิธีการดำเนินเรื่องปกติไม่ช้าไม่เร็วเกินไป มีทั้งฉากโรแมนติกและฉากเฮฮา พล็อตจากที่ดูจะดำเนินโดยที่ทุกอย่างเริ่มจากการโกหก โกหกว่าเป็นน้องชายฝาแฝด โกหกเรื่องที่แต่งงานกัน จากนั้นจึงให้พวกเขาได้เริ่มปรับความเข้าใจกันและเริ่มที่จะค่อยๆสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเป็นความรัก สำหรับเคมีพระนางเรื่องนี้ก็จัดว่าดีอยู่น้าาาาา ส่วนตัวชอบฉากที่ตอนนางเอกเมาแล้วพระเอกขี้เก๊กของเราก็มาช่วยเช็ดหน้าเช็ดตาล้างเครื่องสำอางออกให้ ยังไม่พอยังไปดูวิธีเช็ดหน้าผู้หญิงจากทีวีอีกด้วยน่ารักน่าเอ็นดูไปอีกกกกก  เรียกได้ว่าครบรสทั้งความสนุก ตลกเฮฮา ฉากหวานชวนจิ้น บอกเลยว่าเรื่องนี้สนุกจริง ไปติดตามชมความสนุกนี้ด้วยกันนะ




👉👉 นอกจากนี้ติดตาม รีวิวหนังมิวสิคัล เพลงดนตรี ได้ที่นี่


Tuesday, January 25, 2022

รีวิว The Royal Treatment (เดอะ รอยัล ทรีทเมนต์) สาวซ่าดัดสันดานราชวงศ์

The Royal Treatment ภาพยนตร์แนวโรแมนติกดราม่าชวนฟินหัวใจของความรักต่างชนชั้นของเจ้าชายรูปงามและสาวละตินสุดซ่าช่างตัดผมที่พบรักกัน แต่ต้องเผชิญหน้ากับกำแพงที่ขวางกั้น นำแสดงโดย มีนา มาซูด นักแสดงหนุ่มเจ้าของบทอะลาดินในภาพยนตร์ฉบับรีเมคของดิสนีย์ พร้อมด้วยลอร่า มาราโน 


เรื่องราวโชคชะตาพรหมลิขิตของชายหญิงสองคน คนนึง โทมัส เป็นเจ้าชายสง่างามแต่ขาดความเด็ดคาด กับ อีกคน อิซซี่ เป็นช่างเสริมสวยที่แสบซ่าแต่ขาดความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ทั้งคู่ได้พบกัน ณ นิวยอร์ก เมื่อคนรับใช้ของเจ้าชายติดต่อมายังร้านของเธอให้ช่วยแปลงโฉม แต่เมื่อเธอได้เจอกับเขา มันกับไม่ใช่ความประทับใจเท่าไหร่ กระทั่งทั้งคู่ได้ใช้เวลาเรียนรู้นิสัยกันและกันในไม่กี่ชั่วโมง ความรู้สึกดี ๆ จึงบังเกิดและมันควรจะกลายเป็นความรัก หากเจ้าชายนั้นไม่ได้มีคู่หมั้นที่เตรียมแต่งงานในอีกสองสัปดาห์ และเธอ รวมถึงผองเพื่อนถูกดึงเข้าสู่การเดินทางข้ามโลกยังลาเวเนีย ประเทศที่ผู้คนนั้นเห็นแก่ตัวและไม่เห็นอกเห็นใจใครในฉากหน้าอันสง่างาม และทอดทิ้งผู้คนให้จมอยู่กับความยากไร้ อิซซี่จึงคิดว่าภารกิจนี้ไม่ใช่แค่ดัดผมให้คนในราชวงศ์ แต่ยังต้องดัดนิสัยพวกผู้ดีที่ชอบมองข้ามคนอื่นให้หลาบจำ และความรักดั่งนิยายอันต่างชนชั้นก็ถือกำเนิด ท่ามกลางความขัดแย้งมากมายแต่หัวใจของทั้งคู่กับสื่อถึงกัน ทั้งคู่จะฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านี้ไปยังไง



เรียกได้ว่าเป็นมากกว่าหนังโรแมนติกคอเมดี้ มันเป็นหนังสอนชีวิตแบบผ่อนคลายและเจริญตา ทั้งความหมายของการใช้ชีวิตที่เรามีสิทธิ์เลือก ไม่จำเป็นต้องเป็นคนยศฐาบรรดาศักดิ์ใด เราสามารถเปลี่ยนแปลสังคมได้ ขอแค่กล้าเดินออกมาทำด้วยตัวเอง หรือการแคร์หัวอกหัวใจของคนอื่น 


โดยสรุปมันคือความสนุกและบันเทิงแบบหนังรักตลกเบา ๆ ฟินใจโดยไม่รู้สึกเสียเวลาเลย และทำให้ผมรู้สึกอมยิ้มตามได้ตลอดชั่วโมงครึ่ง มีทั้งบทเรียนชีวิตของการเป็นมนุษย์ที่ดีผสมกับความรักของพระนางในการฝ่าฝันอุปสรรค มันอาจจะไม่ได้ดีเด่มากกว่าหนังเรื่องอื่น แต่มันก็ดีในตัวของมันเอง ทั้งตัวละครที่น่าสนใจ ประเด็นสังคมที่ยอดเยี่ยม นักแสดงที่เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะแฟน ๆ ของมีนา มาซูดที่คิดถึงแสดงการแสดงของเขาในรอบสองปี หลังโดนดิสนีย์ดองจะต้องชอบเขามาก ๆ ในบทนี้ องค์ประกอบของภาพยนตร์ที่ครบถ้วนในการเป็นหนังรอมคอมที่อยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ ก็ทำให้มันเป็นภาพยนตร์ที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้ดูกัน

👉👉 นอกจากนี้ติดตาม รีวิวซีรีย์แนวสืบสวนสอบสวน แนวฆาตกรรม ไขปริศนา ได้ที่นี่

Monday, January 24, 2022

รีวิว 55:15 Never Too Late ซีวิตวัยเก๋า 55 ปี กับ ชีวิตวัย 15 ปี ความท้าทายครั้งใหม่ในชีวิต


55:15 Never Too Late  เรื่องราวชีวิตของวัยเก๋า 5 คนในช่วงอายุไม้เกือบใกล้ฝั่งวัย 55 ปี ที่โชคชะตาเล่นตลก นำพาให้พวกเขาได้กลับไปรีสตาร์ตที่จุดเริ่มต้นอีกครั้งในวัย 15 ปี นำโดย “นก สินจัย เปล่งพานิช, คาร่า พลสิทธิ์, กบ ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี, จิ๊บ วสุ แสงสิงแก้ว, อ่ำ อัมรินทร์ นิติพน” ร่วมด้วยนักแสดงดาวรุ่งมากฝีมืออย่าง “นนน กรภัทร์ เกิดพันธุ์, เค เลิศสิทธิชัย, พิพลอย กัญญรัตน์ เรืองรุ่ง, วิว เบญญาภา จีนประสม, ข้าวตัง ธนวัฒน์ รัตนกิจไพศาล” มาประกบกับรุ่นใหญ่เพื่อเพิ่มสีสันและความน่าสนใจอีกด้วย 





เรื่องราวในเช้าวันธรรมดาวันหนึ่งของปี 2021 ที่กำลังจะไม่ธรรมดา เจณิญา นักร้อง Dancing Queen ในตํานาน ที่กําลังจะหมดชื่อเสียง เดินทางไปต่ออายุบัตรประชาชนใบรองสุดท้ายของชีวิต ก่อนจะถูกเปลี่ยนเป็นบัตรประชาชนตลอดชีพ เธอพบว่าสําเนาบัตรเก่าของตัวเองถูกถ่ายเอกสารออกมากลายเป็นบัตรประชาชนใบแรกในชีวิต และรุ่งเช้าวันต่อมา เจณิญาก็ได้พบว่าเธอได้กลายเป็นตัวเองในวัย 15 โดยไม่รู้สาเหตุ และไม่รู้ว่าจะเดินทางกลับมาที่จุดเดิมในชีวิตของตัวเองได้ยังไง โอกาสการเริ่มต้นใหม่กลับมาอีกครั้ง เจณิญาตัดสินใจไปเรียนโรงเรียนเก่าของเธอสมัยเด็ก ซึ่งตอนนี้มี เกรต้า ไอดอลสาววัย18 เจ้าของเพลงฮิต 55 ล้านวิว กลายมาเป็นรุ่นพี่ เจณิญาทำได้แค่เป็นรุ่นน้องที่ดีและหาทางเข้าใกล้เกรต้าเพื่อไต่เต้าและทวงความสำเร็จคืนอีกครั้ง และในวันที่เริ่มงงชีวิตวัย 15 เจณิญาได้พบกับแสงสว่าง เมื่อได้รู้ว่ายังมีมนุษย์ที่ฟ้าประทานสิ่งเดียวกันมาให้อีก 4 คน ที่มารวมตัวกันในโรงอาหารโรงเรียน ด้วยเหตุผลการมาเข้าเรียนที่ต่างกันไป เหล่าผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์บัตรประชาชนย้อนอายุได้แก่ ทรงพล เก้งรุ่นใหญ่ จารุณี อาจารย์สุดโหดของโรงเรียน สันต์ เพลย์บอยถังแตก และ อมรเทพ ผู้กำความฝันอยากจะกลับไปพิสูจน์ตัวเองในสังเวียนมวยอีกครั้ง แล้วเจณิญาก็ได้รู้ว่าปัญหาของเธอไม่ได้ใหญ่ที่สุดอยู่คนเดียว





ทั้ง 5 คนในวัย 55 ที่กลับต้องมาเผชิญความท้าทายครั้งใหม่ในชีวิต โดยไม่รู้ว่าการได้รับโอกาสอีกครั้งเป็นเรื่องดีหรือไม่ สำหรับพวกเขาบางคนอาจจะมีความสุขจนไม่อยากจะกลับไป ณ สถานะปัจจุบัน กับบางคนที่ดันมาสร้างปัญหาใหม่ไว้เพิ่ม พวกเขาไม่สามารถเดาได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้างหน้า รู้แต่ว่าวันนี้วัยทองต้องรอด !!   



โดยสรุปแล้วสำหรับเรื่องนี้เราชอบที่พล็อตของซีรีย์ที่เอาคนในวัย 55 ย้อนวัยเด็กกลับมาเป็นวัย 15 ปี มันน่าคิดนะว่าคนเราอ่ะ ถ้าเกิดโตไปแล้ว ผ่านเรื่องราวต่างๆในชีวิตไปแล้ว ถ้าเกิดมีโอกาสที่จะย้อนกลับมาแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองเคยทำ ในสิ่งที่ตัวเองทำพลาด หรือจะได้กลับมาทำอะไรที่ไม่เคยทำในวันนั้น มันจะมีความสุขแค่ไหน เรื่องนี้มีความกลิ่นอายของยุค 90 ยุค 80  มันก็เลยค่อนข้างน่าดู และคิดว่าน่าจะเป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มผู้ใหญ่ด้วย แบบนี้ต้องไปติดตามชมความสนุกครบรสของซีรีย์ 55:15 Never Too Late แล้วน่ะ


👉👉 นอกจากนี้ติดตาม รีวิวหนังสารคดี ได้ที่นี่

Sunday, January 23, 2022

รีวิว Stop! Miss Hua หยุดนะ! คุณหนูฮวา ซีรีย์แนวโรแมนติกคอมเมดี้

Stop! Miss Hua (2021) หยุดนะ! คุณหนูฮวา ใครที่กำลังรอซีรีย์จีนแนวโรแมนติกคอมเมดี้ดูสบาย ๆ เป็นเรื่องราวของฮัวหมิงเยว่(นำแสดงโดยจูดี้ฉี)คุณหนูผู้ร่ำรวย ชอบเอาแต่ใจและฉินตงไห่(นำแสดงโดยจางเฮ่อ) หนุ่มหล่ออดีตนักผจญเพลิงผู้เย็นชา ต้องมาปราบนิสัยความเอาแต่ใจของฮัวหมิงเยว่ 


เรื่องราวของฉินตงไห่ ชายหนุ่มอดีตหัวหน้านักดับเพลิงที่เกษียณจากอาชีพนักดับเพลิง เป็นผู้ชายที่เย็นชาแข็งแกร่ง มีไหวพริบ ด้วยความบังเอิญคุณปู่ของฮัวมิงเหว่ คิดว่าเขาต้องช่วยหลานสาวของเขาให้ดีขึ้นได้ จึงต้องการให้ฉินตงไห่ มาเป็นติวเตอร์ให้หลานสาวของเขาอย่างฮัวหมิงเหว่ คุณหนูร่ำรวย เอาแต่ใจ ไม่ฟังใคร เธอไม่อยากทำในสิ่งที่คนอื่นบังคับ


โดยรวมบอกเลยว่าชอบมากชอบในความแสบ ๆ ของนางเอก จังหวะมันได้มากบางครั้งก็สงสารนางเอกนะแต่มันตลกมากกว่า และชอบในความหน้านิ่งของพระเอกพูดเก่ง สอนเก่ง พูดยาวเหยียด แต่หน้านิ่งมาก เรียกได้ว่าเป็นซีรีย์ที่ดูได้เรื่อย ๆ ผ่อนคลาย ดูสบาย ๆ ถึงเนื้อเรื่องจะไม่ได้โดดเด่นหวือหวา หรือ แปลกใหม่ แต่ซีรีย์เรื่องนี้ทำออกมาได้ดีมาก มันเป็นความน่ารักของพระเอกนางเอกเหมือนทั้งสองคนจะเข้ากันไม่ได้ในตอนแรก ๆ นางเอกก็เถียงเก่งมาก พระเอกก็ตอกกลับเก่งเช่นกัน ไม่มีใครยอมกันเลยจริง ๆ  ดูแล้วติดเลยค่ะหยุดไม่ได้จริง ๆ เป็นซีรีย์ที่เบาสมองมาก เป็นอีกตัวเลือกที่เพิ่มความสุขให้กับชีวิตในช่วงนี้เลยค่ะ


โดยสรุปถือว่าเป็นซีรีย์น้ำดีที่ห้ามพลาดดูได้ไม่เครียดผ่อนคลาย สบาย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ดูได้ทั้งครอบครัวเลยค่ะ เนื้อเรื่องก็เข้าใจง่าย คอมเมดี้มาก ๆ เลยค่ะ มีหลากหลายอารมณ์ไม่ว่าจะเป็นโรแมนติก ตลก ดราม่าเล็กน้อย ครบรสมาก ๆ เลยค่ะ



👉👉 นอกจากนี้ติดตาม หนังการ์ตูน ได้ที่นี่

Friday, January 21, 2022

รีวิว Koi wa Tsuzuku yo Dokmade Mo คุณหมอขากับพยาบาลโขดหิน

Koi wa Tsuzuku yo Dokmade Mo คุณหมอขากับพยาบาลโขดหิน ซีรีย์ญี่ปุ่นที่มีจำนวนตอนไม่เยอะเลยจ้ามีทั้งหมดแค่ 10 ตอน เรื่องราวของสาวมัธยมคนนึง ซึ่งเธอเป็นสายมู หรือมูเตลู คือที่เกี่ยวกับความเชื่อ การบูชา การขอพร และเครื่องรางต่าง ๆ วันนึงเธอได้ไปที่ศาลเจ้า และเธอได้ขอพรให้ตัวเธอเองได้เจอกับโชคชะตาที่ดี


เรื่องราว เหตุมันเกิดขึ้นในวันนั้น เมื่อ 5 ปีก่อน ซากุระ นานาเสะ (โมเนะ) เด็กสาวผู้ยังไม่รู้ว่าจะชีวิตนี้จะไปทางไหนดี เธอได้พบกับ หมอเทนโด ไคริ (ทาเครุ) ในวันที่ไปขอพรจากพระเจ้าพอดิบพอดี หมอเข้ามาในวันที่เธอร้องเรียกให้คนช่วยเมื่อคนแก่หมดสติ ความประทับใจอันนั้น ก่อเกิดความ(แอบ)รักในดวงใจของซากุระจังในทันที หัวใจเธอมองเห็นหนทางข้างหน้าโดยพลัน ในที่สุด เธอก็มุ่งมั่นเข้าเรียนและสอบจนจบมาเป็นพยาบาล ผลจากการแอบรักมา 5 ปี ในที่สุด เธอก็มาเป็นพยาบาลในโรงพยาบาลเดียวกับหมอเทนโด แต่เพราะการที่ดันไปสารภาพรักเอาแบบดื้อๆ ตั้งแต่วันแรกที่พบกัน ทำให้เธอได้รับฉายาเป็น "ผู้กล้า" เนื่องด้วยว่าในโรงพยาบาลแห่งนั้น หมอเทนโดมีชื่อในความเฮี้ยบ และได้รับฉายาจากใครๆ ว่า "ราชาปีศาจ" ด้วยเหตุบางอย่างในอดีตที่แปรเปลี่ยนหมอเทนโดไปเช่นนั้น สาวเด๋อที่แอบรักข้างเดียวมา 5 ปีจะพังกำแพงหัวใจที่แข็งกร้าวของหมอได้หรือเปล่าน้า?




โดยรวมเรื่องนี้คือน่ารักมาก คือนางเอกได้ฉายาว่าน้องผู้กล้า ในการกล้าที่จะไปสารภาพกับคุณหมอแบบตรงๆ ซึ่งๆหน้าในโรงพยาบาลเลยขอบอกไม่ธรรมดาจริงๆ เธอนั้นเป็นคนน่ารักสดใสอัธยาสัยดี เอาใจใส่คนอื่นมาก ๆ ที่สำคัญคือเธอมโนเก่งมากจ้า ชอบคิดมโนถึงความสัมพันธ์ของเธอกับคุณหมอแบบจินตานารเก่งมาก ฮ่า ๆ ส่วนพระเอกนั้นก็ได้รับฉายาเช่นกันจ้า ฉายานั้นก็คือ "ราชาปีศาจ" เป็นคุณหมอปากร้ายสายดุ ยิ้มยาก ขี้เก๊ก แต่จริงๆแล้วเขาเป็นคุณหมอที่เก่งมาก ฉลาดมาก ๆ เห็นเขาดูซึน ๆ แบบนี้เพระเขามีความรักนะคะทุกคน คุณหมอน่ารักมากเป็นเหมือนสายละมุนรักแบบแสดงออก ทำให้เราดูละเขินไปด้วยอ่ะ





👉👉  นอกจากนี้ติดตาม รีวิวหนังมิวสิคัล เพลงดนตรี ได้ที่นี่

Thursday, January 20, 2022

รีวิว สาวออฟฟิศ 2000 ปี GIRL2K ซีรีย์สุดฟินของสาวโสด

สาวออฟฟิศ 2000 ปี GIRL2K ทางช่อง GMM25 ซีรีย์แนวโรแมนติกคอมมาดี้ ดูซีรีย์เกาหลีกันเยอะแล้ว มาดูฝั่งไทยของเรากันบ้าง ดูแล้วไม่ลำไยเพราะคุณภาพคับจอทัดเทียมซีรีย์เกาหลี เนื้อหาน่าติดตาม แฝงความฮาและโรแมนติก ได้นักแสดงสาวน่ารัก ออม สุชาร์ ประกบคู่กับ ออฟ จุมพล และทอย ปฐมพงศ์


เรื่องราวของสาวโสดหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม “โมเม” (แสดงโดย ออม สุชาร์ มานะยิ่ง) ทำงานเป็นนักเขียนนิยายเรื่องสั้นอิงประวัติศาสตร์ ประจำนิตยสาร The Year นิตยสารออนไลน์ที่มียอดผู้ติดตามสูงที่สุดในประเทศ ด้วยความหน้าเด็กของเธอ ใครเห็นก็ต่างคิดกันว่าเธออายุเพียง 25 ปี แต่ความเป็นจริงแล้วเธอมีชีวิตอมตะ ไม่เคยเจ็บ ไม่เคยป่วย และไม่ตาย อยู่มาแล้วถึง 2000 ปี วิธีจะแก้คำสาปชีวิตอมตะให้เธอได้ คือต้องพบรักแท้ ซึ่งมีหนุ่มเข้ามาพร้อมกันถึง 4 คนเลย “ธาวิน” (แสดงโดย ออฟ จุมพล) เจ้านายสุดหล่อเพอร์เฟค สเปกสาวออฟฟิศ “คุณพร้อม” (แสดงโดย อั๊ต อัษฎา) ลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท เพลย์บอยสายเปย์ “กำปั้น” (แสดงโดยเฟียต พัทธดนย์) บาริสต้าหนุ่มร้านกาแฟใกล้บริษัท หรือ “หมูทอด” (แสดงโดย ทอย ปฐมพงศ์) หนุ่มหล่อนักข่าวน้องใหม่ไฟแรงของบริษัท




โดยรวมปูเนื้อเรื่องมาดีน่าติดตาม แค่ตอนแรกก็เปิดเผยตัวละครเกือบครบทุกตัวแล้ว ฉาก CG รถไฟทำได้ดีเนียนสมจริง บวกกับปริศนาตอนท้ายที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการฆาตกรรม เป็นปมที่ทำให้น่าติดตามเข้าไปอีก อีกทั้งยังได้ฟินไปกับผู้หล่อ เพราะนักแสดงนำชายแต่ละคนก็พกความหล่อมาเต็ม นักแสดงหญิงก็ไม่น้อยหน้า ฟินไปกับความน่ารักของออม สุชาร์ ความตลกของใบเฟิร์น แจ๊คและพี่รัดเกล้า เรียกเสียงฮาได้ไม่น้อย ถึงแม้ส่วนตัวจะแอบคาดหวังว่าซีรีย์น่าจะออกแนวซีรีย์เกาหลี ที่ตัวละครแต่ละตัวค่อนข้างซับซ้อน แต่เอาเข้าจริงก็มีกลิ่นอายสไตล์ซีรีย์ไทยอยู่เยอะ แต่โดยรวมถือว่าสนุก



👉👉 ติดตามติดตาม ดูหนังใหม่ออนไลน์ฟรี ได้ที่นี่

Wednesday, January 19, 2022

รีวิว The Day of Becoming You จากวันนั้นที่ฉันเป็นเธอ

The day of becoming you จากวันนั้นที่ฉันเป็นเธอ ซึ่งเป็นซีรีย์แนวโรแมนติก คอมเมดี้ ดราม่า  เรื่องราวของหญิงสาวที่เป็นนักข่าวและชายหนุ่มหัวหน้าวงบอยแบนด์ชื่อดัง อุบัติเหตุนำพาให้ทั้งสองคนสลับร่างกัน เมื่อสองคนต่างนิสัยต่างบุคลิกต้องมาสลับร่างกันจึงทำให้เกิดเรื่องราววุ่น ๆ ของการสลับร่างครั้งนี้แล้วทั้งสองจะใช้ชีวิตยังไงต่อไปเมื่อต้องอยู่ในร่างของคนอื่น


เรื่องราว “อวี๋เซิงเซิง”นักข่าวบันเทิงต้องการจะสัมภาษณ์ “เจียงอี้” หัวหน้าวงและเป็นหนึ่งในสมาชิกวงบอยแบรนด์ Little Universe โดยเธอปลอมตัวเป็นแฟนคลับของเจียงอี้เข้าร่วมงานวันเกิดของเขา เมื่อพิธีกรได้ประกาศว่ามีแฟนคลับท่านหนึ่งที่มีวันเกิด วันเดือนปีเดียวกับเจียงอี้ ซึ่งเป็นก็เป็นเธอ อวี้เซิงเซิงรีบขึ้นไปบนเวที และบอกกับเจียงอี้ว่าเธอเป็นแฟนคลับตัวยงของเขา เจียงอี้พูดกับอวี๋เซิงเซิงว่าเขาจะทำตามคำขอของเธอให้สมปรารถนาหนึ่งอย่าง เธอจึงขอเลี้ยงข้าวจากเจียงอี้หนึ่งมื้อ หลังจากงานเลิกแล้วอวี๋เซิงเซิงดีใจมากเธอโทรไปคุยกับเพื่อนว่าเธอลงทุนปลอมตัวเป็นแฟนคลับเจียงอี้เพื่อจะหาโอกาสที่จะได้สัมภาษณ์เจียงอี้ ทั้ง ๆ ทีเธอเป็นแฟนคลับของเจียซู่หนึ่งในสมาชิกของวงอีกคน




อวี๋เซิงเซิงและเพื่อนสนิทของเธอถูกเพื่อนร่วมงานพูดจาถากถางเรื่องงาน อวี๋เซิงเซิงจึงบอกว่าเธอมีนัดสัมภาษณ์เจียงอี้ นักร้องหนุ่มสุดฮอต ในตอนค่ำอวี๋เซิงเซิงนั่งรอเจียงอี้ที่ร้านอาหารเป็นเวลานาน แต่เขาก็ไม่มาสักที เธอเลยโทรหาผู้จัดการของเขาและบอกว่าเจียงอี้ไม่ยอมมาทานข้าวกับเธอเมื่อได้รู้ข่าวนี้เขารีบไปหาเจียงอี้ที่บ้านและเจอเขานั่งแช่เท้าและคลึงวอลนัท สาเหตุที่เขาไม่ไปเพราะบังเอิญไปได้ยินอวี๋เซิงเซิงคุยโทรศัพท์ว่าเธอไม่ใช่แฟนคลับจริง ๆ ของเขา เมื่ออวี๋เซิงเซิงไม่สามารถสัมภาษณ์เจียงอี้ได้ทำให้เธอโดนหัวหน้าตำหนิและโดยเพื่อนร่วมงานพูดจาถากถางเธอ ทำให้เธอไม่พอใจมาก เธอปล่อยข่าวเรื่องเจียงอี้จนกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล จนผู้จัดการของเขาต้องรีบแก้ไขสถานการณ์ โดยให้เธอสัมภาษณ์เจียงอี้ได้ ในช่วงแรกของการสัมภาษณ์ เจียงอี้ไม่ยอมให้ความร่วมมือกับอวี๋เซิงเซิง เธอจึงพูดบางเรื่องจนทำให้เขายอมให้สัมภาษณ์แต่โดยดี


โดยรวมความน่าติดตาม ซีรีย์เรื่องนี้น่าติดตามมากเพราะเป็นเนื้อเรื่องที่สลับร่างกันเราจะลุ้นอยู่ตลอดเวลาว่าเค้าทั้งสองคนจะทำยังไงต่อไป จะถูกจับได้หรือป่าวเพราะทั้งสองคนนิสัยต่างกันสุดขั้วคนนึงก็เย็นชาพูดน้อย อีกคนก็สดใสพูดเยอะ พระเอกคือหล่อมากจากผู้ชายเย็นชาเป็นคนน่ารัก คือเล่นได้น่ารักมาก และมีเรื่องราวมากมายที่เปลี่ยนไปจากตัวละครเดิมทำให้เรื่องน่าติดตามมากค่ะ เคมีของนักแสดง แค่เห็นตัวอย่างซีรีย์ก็เขินมากค่ะทั้งคู่แสดงได้เข้ากันมากพอได้มาดูซีรีย์เต็ม ๆ ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่เลยค่ะ


👉👉 นอกจากนี้ติดตาม รีวิวหนังสารคดี ได้ที่นี่

Tuesday, January 18, 2022

รีวิว Be Melodramatic ความตลกร้าย เสียดสี ที่มันสะท้อนบางแง่มุมของชีวิต

Be Melodramatic ซึ่งเป็นสามสาวเพื่อนกันในวัย 30 ที่มองว่าการผ่านโลกในวัย 20 มาโชกโชนแล้ว เชื่อในทางข้างหน้าว่าวัย 30 แล้วต้องดีแน่  ความตลกร้าย เสียดสี ที่มันสะท้อนบางแง่มุมของชีวิตคนเราได้ตรงใจ ไม่ว่าจะเรื่องความรักครั้งเก่า มิตรภาพระหว่างเพื่อน การอยู่เคียงข้างคนสำคัญในช่วงเวลาที่เขาหรือเธอต้องการ หนังสะท้อนแง่มุมเหล่านี้ออกมาได้เฉียบคม มันทั้งจุกอยู่ข้างในแล้วก็ซึ้งจนน้ำตาไหลในคราวเดียวกัน


ตัวละครหลักเป็นผู้หญิง เพศที่มีทั้ง ‘จริต’ และความซับซ้อนทางความคิดหรือการแสดงออก  การพาดพิงถึงความเป็นละครรักประโลมโลกแฮปปี้เอ็นดิ้ง แน่นอนว่าผู้หญิงทั่วไปใครๆก็ต้องชอบอยู่แล้ว ดังนั้น เรื่องราวความรักในแบบฉบับของพวกเธอ ก็เลยถูกเล่ามาอย่างเรียลๆ ควบเส้นเรื่องคู่ไปกับชีวิตการงาน ที่ต่างก็มีอุปสรรคไว้ให้ฟันฝ่าอย่างฮาๆ แล้วก็ยังมีความสัมพันธ์ของคู่อื่นๆอีกหลายคู่ ที่ดูสนุกชวนเชียร์ไปหมด ถึงตัวละครหลักเรื่องนี้จะเป็นผู้หญิง แต่รวมๆเรื่องก็เกลี่ยบทไปหาคนรอบตัวได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ ไม่ทำให้รู้สึกว่าเป็นงาน Female-centric จ๋าเกินไป




เรื่องราวของแก๊งเพื่อนสาวสามคนที่เพิ่งจะ 30 แต่ก็ยังไม่หยุดฝัน ชีวิตของพวกเธอมีทั้งขาขึ้นและขาลงแต่ก็ พยายามจะอยู่กับปัจจุบัน อิมจินจู รับบทโดย ซอนอูฮี เป็นนักเขียนที่กำลังเรียนรู้จากนักเขียนชื่อดัง, อึนจอง รับบทโดย จอนยอบิน เป็นผู้กำกับสารคดีที่ประสบความสำเร็จ และฮันจู รับบทโดย ฮันจีอึน เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่พยายามรักษาสมดุลของงานและลูกชายอย่างอินกุก พวกเธอทั้งสามต้องพบกับเรื่องราวไม่คาดฝันในการทำงานมากมาย และพวกเธอจะเติบโตขึ้นผ่านประสบการณ์เหล่านี้




โดยสรุปแล้วนตอนแรกของซีรีย์อาจจะดูมีความสวยหรู เนื้อหาน่ารักสดใส แต่พอเจาะลึกในการใช้ชีวิตของทั้ง 3 สาวนี้กลับพบว่าพวกเขาต้องเผชิญความยากลำบาก และความกดดันเพราะมีคำว่าอายุ 30 ปีมันค้ำคออยู่ บทบาทที่น่าสนใจคงเป็น ฮวังฮันจู รับบทโดย ฮันจีอึน คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว สะท้อนถึงสังคมว่าก็มีคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอยู่มากมายและต้องทำงานอย่างหนักเพื่อนำเงินมาเลี้ยงลูก

 

👉👉 นอกจากนี้ติดตาม รีวิวซีรี่ย์ฮิตติดกระแส ได้ที่นี่

Monday, January 17, 2022

รีวิว ยางลบสื่อรัก My Love Mix Up 2021 เคมีพุ่งฟุ้งกระจาย

ยางลบสื่อรัก "My Love Mix Up 2021" ซีรีย์วายญี่ปุ่น เรื่องราวเกี่ยวกับการแอบชอบเพื่อนโดยการใช้ทริคเขียนชื่อคนที่ชอบลงยางลบและใช้ให้หมดความรักก็จะสมหวัง เป็นพล็อตเรื่องที่น่าดูมาก พระเอกและนายเอกก็เคมีเข้ากันมากประกบคู่กันได้อย่างลงตัว


เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในคาบเรียนหนึ่ง เมื่อ อาโอกิ ( รับบทโดย มิจิเอดะ ชุนสุเกะ ) เพิ่งรู้ว่าตัวเองไม่มี ‘ยางลบ’ ในตอนที่เขาจำเป็นต้องใช้มันอย่างที่สุด ทำให้ได้รับการช่วยเหลือจาก ฮาชิโมโตะซัง เพื่อนสาวร่วมห้องที่อาโอกิแอบรัก แต่ยังไม่ทันได้สารภาพ เขาก็รู้ตัวทันทีว่าหมดหวัง เพราะบนยางลบของฮาชิโมโตะซัง มีข้อความเขียนด้วยลายมือแสนน่ารักว่า ‘อิดะคุง ’ ซึ่งเป็นการทำเครื่องรางตามความเชื่อที่ว่า หากเขียนชื่อคนที่ชอบลงไปบนยางลบแล้วใช้จนหมด ความรักจะสมหวัง เรื่องราวซับซ้อนมากขึ้นเมื่อเจ้าของชื่อบนยางลบอย่าง อิดะ ( รับบทโดย เมะกุโระ เรน ) เข้าใจผิดคิดว่าเจ้าของยางลบที่เขียนชื่อตัวเอง คือ อาโอกิ ในขณะที่ อาโอกิ พยายามเป็นตัวกลางสื่อรัก หวังเพื่อให้คนที่ตัวเองแอบรักได้สมหวัง อิดะ ก็ต้องพยายามตั้งสติรับมือกับเพื่อนผู้ชายหน้าตาน่ารักที่ (เข้าใจผิดไปเองว่า) แอบรักตัวเอง




โดยรวมสำหรับซีรีย์เรื่องนี้จะบอกก่อนนะคะว่าจบบริบูรณ์แล้วที่ประเทศญี่ปุ่น และตอนนี้ก็จะมีซับไทยถูกลิขสิทธิ์ที่ทาง Netflix นำเข้ามาให้ได้รับชมกันนะ พล็อตเรื่องก็น่ารักนะ เล่าเรื่องราวการแอบชอบเพื่อนร่วมห้องของตัวเองโดยการใช้ทริคที่ว่า "ถ้าเราแอบชอบใคร ให้เขียนชื่อคนที่เราแอบชอบลงไปในยางลบ และถ้าใช้ยางลบก้อนนี้หมดก็จะสมหวังกับรักในครั้งนี้" เป็นไงล่ะจะบอกว่าตัวเราเองก็เคยทำนะทริคนี้เขียนชื่อคนที่เราชอบลงบนยางลบแล้วใช้ให้หมดแต่ก็ไม่สมหวังนะเพราะว่ากว่าจะใช้ยางลบหมดเขาก็มีแฟนแล้ว โอ๊ย.. กลับมาเข้าเรื่องซีรีย์ของเราดีกว่า โทนสีของเรื่องอบอุ่นและละมุนใครที่เคยดูเมจิกเชอรี่มาก่อนก็จะรู้สึกถึงโทนสีภาพที่ใกล้เคียงกันมาก แสงก็ดีลงตัวไปหมด และที่สำคัญเรารอซับไทยมานานมาก เพราะว่าอยากสนับสนุนของที่ถูกลิขสิทธิ์ และในที่สุดเราก็จะได้ดูแล้ว อย่าลืมมาดูกันเยอะๆนะ



👉👉 นอกจากนี้ติดตาม รีวิวซีรีย์แนวสืบสวนสอบสวน แนวฆาตกรรม ไขปริศนา ได้ที่นี่

รีวิวหนังโรแมนติก Royalteen (2022) รอยัลทีน

  รีวิวหนังโรแมนติก Royalteen (2022) รอยัลทีน จาก Netflix  ติดตามความรักจากนิวนิยายขายดีเกี่ยวกับ คาร์ล โยฮัน เจ้าชายที่พยายามสร้างความรักที...