รีวิว Central Intelligence (คู่สืบคู่แสบ) โหด มันส์ ฮาจนกรามค้าง!

Central Intelligence (คู่สืบคู่แสบ)  สองคู่หูสุดฮาของอดีตเด็กอ้วนสุดเฉิ่มในสมัยเรียนไฮสคูลแต่ปัจจุบันกลายมานังนักสืบคู่หูพาอารมณ์ดี  เป็นเจ้าหน้าที่ซีไอเอตัวใหญ่กล้ามโต เขากลับมาร่วมงานคืนสู่เหย้าของโรงเรียน โดยมีเป้าหมายคือมาขอให้อดีตนักเรียนสุดป็อปมาช่วยในคดีลับสุดยอดและช่วยกอบกู้โลก ที่นำแสดงโดยอดีตนักมวยปล้ำชื่อดังอย่าง “เดอะร็อค” หรือ ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson)

เรื่องราวของอดีตเด็กเฉิ่มอ้วนฉุชอบร้องเพลงชอบม้ายูนิคอร์นที่ชอบโดนรังแก บ็อบ (เดอะร็อค) ที่เติบโตมาเป็นเจ้าหน้าที่ซีไอเอ ที่กลับมาบ้านเพื่อร่วมงานเลี้ยงรุ่นเพื่อนเรียนไฮสกูล บ็อบที่อ้างว่าอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจลับสุดยอด ขอความช่วยเหลือจากคาลวิน (เควิน) อดีตหนุ่มป็อปไอดอลประจำโรงเรียน ซึ่งปัจจุบันเขากลายเป็นสมุหบัญชีที่ยังคงคิดถึงสมัยวัยรุ่นที่รุ่งเรืองสุดๆ แต่ก่อนที่หนุ่มนักบัญชีจะทันรู้ตัวว่าเขาเดินเข้าไปเจอกับอะไร มันก็สายเกินกว่าจะถอนตัวเสียแล้ว เมื่อเพื่อนใหม่ที่นับวันก็ยิ่งเดาใจไม่ถูก ได้ลากเขาไปเผชิญกับโลกที่จู่ๆ ก็ยิงถล่มกัน โกหกหักหลังสารพัด และงานจารกรรมที่อาจทำให้พวกเขาถูกฆ่าตายได้หลากหลายรูปแบบ

โดยรวมการผสมพระเอกสองสายพันธุ์นี้ ก็นับเข้าคู่กันดีไม่หยอก นับว่า เควิน ฮาร์ท มีแววปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ง่าย ประกอบดเวย์น จอห์นสัน เองก็เป็นนักมวยที่เล่นได้มากกว่าทำหน้าโหดๆ แล้วชกต่อย ทำให้สองคนนี้เล่นกันออกมาได้เข้าขากันพอสมควร บทหนังค่อนข้างมีความพยายามที่จะสร้างความซับซ้อนให้มากกว่าที่จะเป็นแค่หนังแอ็คชั่นตลกธรรมดาๆ อาจจะต้องใช้ความคิดในการปะติดปะต่อเรื่องราวอยู่บ้าง แต่ถ้าไม่ได้สนใจจุดนั้น ใส่ใจแต่ความสนุกในฉากบู๊และมุกตลก ก็คือว่าหนังพอจะทำหน้าที่ได้ดีอยู่

👉👉 ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังสารคดี ได้ที่นี่

รีวิวภาพยนตร์ More Than Family (นิยามรักฉบับครอบครัว)

More Than Family (นิยามรักฉบับครอบครัว)  มีเสน่ห์ความของความอินดี้หน่อย ๆ พร้อมแฝงเนื้อหาสาระที่ฟิลกู้ด และแทรกความฮาเบา ๆ ย่อยง่าย ดูได้เพลิน ๆ  เล่าถึงเด็กหญิงวิทยาลัยทำเครื่องหมายการตั้งครรภ์ห้าเดือนกับแฟนมัธยมปลายของเธอ ทั้งสองเตรียมการนำเสนอเพื่อแจ้งข่าวให้พ่อแม่ทราบ แต่ทุกอย่างกลับกลายเป็นตรงกันข้ามเมื่อเธอออกไปตามหาบิดาผู้ให้กำเนิด

เรื่องราวได้เล่าถึง คิมโทอิล (รับบทโดย คริสตัล) นักศึกษามหาวิทยาลัยวัย 21 ที่แอบรักกับ โฮฮุน (รับบทโดย ชินแจฮวี) นักเรียนติวพิเศษของเธอเอง โฮฮุนอายุ 20 แล้ว แต่ยังอยู่มัธยม เพราะเสียเวลาดร็อปเรียน ตามพ่อไปทำงานต่างประเทศ บวกกับว่าโทอิลเป็นคนฉลาดมาก เรียนเก่ง จึงเป็นติวเตอร์ให้เขาได้ ความรักของทั้งคู่เกิดเลยเถิด ละเลยการป้องกันจนโทอิลท้อง โทอิลเพิ่งยอมเปิดเผยความจริงและสารภาพกับพ่อแม่ เมื่อท้องโตปาไป 5 เดือน กะว่าใครก็คงสั่งทำแท้งไม่ได้แล้ว เธอวาดหวังการมีครอบครัวของตัวเอง เลี้ยงลูกให้เติบโตอย่างดี มีแผนพร้อม ก็ประสาเด็กเก่ง well-planned (แต่ไม่แพลนคุมกำเนิด 555) นำเสนอเป็น PowerPoint ให้พ่อแม่ดูได้ว่า เธอพร้อมแต่งงาน เรียนไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วยได้พร้อมกับโฮฮุน และสามารถมั่นคงมีบ้านเป็นของตัวเองได้ในอนาคต เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ

แต่พ่อแม่ที่ไหนจะไม่ช็อกล่ะ และใครจะกล้ายอมรับแผนโลกสวยของเธอ…โทอิล ใช้ชีวิตอยู่กับ ซอนมยอง (รับบทโดย จางฮเยจิน) ผู้เป็นแม่ และ คิมแทฮโย (รับบทโดย ชเวด็อกมุน) ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของโทอิลมาตั้งแต่เธออายุได้ 5 ขวบ และนี่คือปมในจิตใจที่ซ่อนไว้ของโทอิล เธอไม่เคยเข้าใจว่าทำไมครอบครัวจะปกติสมบูรณ์ไม่ได้หรือ ไม่ต้องเลิกรากัน ไม่ต้องมีพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงมาเป็นบุคคลที่สามของครอบครัวไม่ได้หรือ

ภาพรวมหนังเลือกหยิบอีกด้านของปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยที่ยังไม่พร้อมมาเล่า ในมุมของการคลี่คลายได้ด้วยคนในครอบครัวที่เข้าใจ คิดบวก ให้ความรักต่อกันอย่างจริงใจ และตัวโทอิลเอง ก็เป็นตัวแทนของเด็กวัยรุ่นบางคนที่สามารถผ่านพ้นปัญหาไปได้ เพราะตัวเธอเองก็คิดเป็นและกล้าหาญ แม้จะมีเป้าหมายชัดเจนเป็นที่ตั้ง แต่ก็ยอมเปิดใจ เข้าใจโลกความเป็นจริง ชีวิตไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ก็จัดว่าเป็นการเรียนรู้ เติบโตทางความคิด เป็นหนังก้าวพ้นวัยอีกเรื่องที่มีมุมน่าสนใจเหมือนกัน

👉👉 ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ ข่าววงการบันเทิง ได้ที่นี่

เรื่องย่อภาพยนตร์แอนิเมชั่น Fireheart (2022) นักผจญเพลิงหญิงคนแรก

Fireheart (2022) ไฟฮาร์ต พนักงานดับเพลิงวัยเยาว์ จอร์เจีย โนแลน เด็กสาวที่ปลอมตัวเป็นพนักงานดับเพลิงเพื่อสืบหาเงื่อนงำบางอย่างในปฎิบัติการดับเพลิงครั้งใหญ่และอันตรายในนิวยอร์กซิดตี้ ก่อนที่เธอจะพบว่าการวางเพลิงในครั้งนี้มาจากแผนของกลุ่มนายกเทศมนตรี ซึ่งทำให้ ชอว์น พ่อของเธอหายตัวไปอย่างกระทันหัน

เรื่องราวของจอร์เจีย โนแลน เด็กสาววัย 16 ปี ที่เฝ้าฝันอยากจะเป็นนักผจญเพลิงหญิงคนแรกของโลกให้จงได้ เมื่อมีผู้ไม่หวังดีลอบวางเพลิง ย่านบอร์ดเวย์ ใจกลางมหานครนิวยอร์ก ปรากฏว่าพวกพนักงานดับเพลิงได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ฌอห์น พ่อของจอร์เจียได้ถูกเรียกตัวกลับมาหลังจากเกษียณหน้าที่ จอร์เจียจึงได้ใช้โอกาสนี้ช่วยเหลือพ่อและช่วยกอบกู้เมืองของเธอ ด้วยการปลอมตัวเป็นชายหนุ่มที่ชื่อ โจ แฝงตัวเข้าไปมีส่วนร่วมในการระงับเหตุเพลิงไหม้ที่เสี่ยงอันตรายในครั้งนี้

เสียงพากย์โดย

โอลิเวีย คุก ให้เสียงเป็น จอร์เจีย

เคนเน็ธ บรานาห์ ให้เสียงเป็น ชอว์น

มารา จูน็อต ให้เสียงเป็น ลอร่า เดวีญ

ลอรี่ โฮลเดน ให้เสียงเป็น พอลลีน

ไรอัน การ์เซีย ให้เสียงเป็น ริชาร์โด

 

👉👉 ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรีย์แนวสืบสวนสอบสวน แนวฆาตกรรม ไขปริศนา ได้ที่นี่

รีวิว Dirty Line สายด่วน..คลายเหงา ซีรีย์ถ่ายทอดทั้งสาระและความสนุกที่อัดแน่นทั้งเรื่อง

Dirty Line สายด่วน..คลายเหงา ซีรีย์จาก Netflix สัญชาติเนเธอร์แลนด์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือ เรื่อง “06-Cowboys” ของ Fred Saueressig ด้วยการหยิบยกประเด็นของ "Sexphone" และ เรื่องเพศ ออกมาเล่าผ่านยุคที่อะไรๆก็ดูวินเทจไปหมด นวัฒกรรมที่ใหม่ล่าสุดตอนนั้นคือโทรศัพท์ที่พกได้ แต่มีความหนักถึงสามกิโลกรัม ก็ทำเอาเราแทบจินตนาการไม่ออกว่ากิจกรรมสุดแสนวาบหวิวที่จะเกิดขึ้นผ่านทางสายโทรศัพท์จะเป็นในรูปแบบใด

เรื่องราวในอัมสเตอร์ดัมช่วงยุค 90 ของ "มาร์ลี" นักศึกษาสาวผู้เหนียมอายแต่กลับต้องไปทำงานพากษ์เสียงให้กับบริษัทเทเลดัตช์ บริษัทของ "แฟรงค์" และ "ราโมน" ที่ให้บริการคลายเหงาผ่านทางโทรศัพท์ หรือที่เรียกว่า "Sexphone" ในยุคที่มีแต่โทรศัพท์บ้านกับสายต่อที่สุดแสนจะยืดยาว มาดูกันว่าธุรกิจนี้จะเติบโตได้อย่างไร และมาร์ลีต้องเจออุปสรรคอะไรบ้าง ต้องติดตามดูในซีรีย์

ภาพรวมการดำเนินเรื่องเรื่องนี้ก็เล่าออกมาได้ด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นธรรมชาติมาก ทำให้การพูดถึงเรื่องเพศ เรื่องที่ถูกรายล้อมด้วยเรื่องน่าอายก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างที่เราควรจะพูดถึงได้ ในช่วงตอนแรกๆเล่ามาได้ดีเลยทีเดียว ส่วนช่วงท้ายๆ กลับแอบดึงนานไปนิดหน่อย แต่ด้วยความที่เล่าเรื่องได้หลายมิติ มีเส้นเรื่องของหลายตัวละคร ก็ทำให้ไม่เบื่อเลย อีกทั้งยังใช้การบรรยายเสียงเข้ามาประกอบด้วยทำให้ดำเนินเรื่องได้เร็วขึ้น มีทั้งสาระและความสนุกที่อัดแน่นเข้ามาตลอดทั้งเรื่อง เป็นซีรีย์อีกเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆทั้งในด้านเนื้อหา ภาพก็สวยงามมาก ถ่ายทอดบรรยากาศของเนเธอร์แลนด์ออกมาได้อย่างคลาสิคมาก ค่อนข้างเซอร์ไพรส์มากเหมือนกัน ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะดีขนาดนี้ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรพลาดเลยจริงๆ

👉👉  ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ ดูหนัง Netflix ได้ที่นี่

รีวิวภาพยนตร์ The In Between แนวรักโรแมนติกที่ผสมผสานความแฟนซี

The In Between หนังรักวัยรุ่นกึ่งแฟนตาซี ด้วยเรื่องราวความรักและการสูญเสียคนที่รักไปจากอุบัติเหตุ  แต่กลับพบว่ามีสัญญาณว่าเขากลับหาเธอในรูปแบบของวิญญาณ ที่เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะจิตใจจมทุกข์ไม่ปล่อยวางความรักนี้หรือไม่ แค่ปล่อยทีเซอร์ออกมาก็ต้องร้องว้าว! รวมถึงบทบาทของนักแสดงนำอย่างJoey King และ Kyle Allen ที่มีความเคมีเข้ากั๊นเข้ากัน แถมในเรื่องของการแสดงนี่การันตีว่าสุดยอดด้วยผลงานที่ผ่านมาของพวกเขา

เรื่องราวเกี่ยวกับสาวน้อย ‘เทสซ่า (แสดงโดย Joey King)’ ที่เธอนั้นเป็นสาวน้อยธรรมดาที่ชื่นชอบการถ่ายภาพฟิล์ม แต่เธอนั้นเป็นคนที่ขาดความมั่นใจในตัวเองมาก แถมยังมีปมทำให้ต่อต้านคนอื่น แม้กระทั่งครอบครัวบุญธรรมของเธอ จนวันหนึ่งเธอได้เจอกับ ‘สกายล่า (แสดงโดย Kyle Allen)’ หนุ่มหล่อร่างฟิตที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงและเติมเต็มความรักในหัวใจของเธอ ซึ่งความสัมพันธ์ของทั้งสองก็เหมือนกับวัยรุ่นกุ๊กกิ๊กทั่วไป จนกระทั่งวันหนึ่งก็ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อเทสซ่าและสกายล่าได้เกิดอุบัติเหตุและสกายล่าได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่พีคขึ้นไปอีก! เมื่อสกายล่าได้กลายเป็นวิญญาณมาสื่อสารบอกอะไรบางอย่างกับเทสซ่า

โดยรวมจุดที่เราชอบมาก ๆ เลยก็คือหนังมีการให้นางเอกเป็นนักถ่ายภาพฟิล์ม ทำให้บางฉากบางมุม คนดูก็จะได้เห็นภาพสวย ๆ มุมมองอาร์ต ๆ รวมถึงยังนำภาพฟิล์มมาลิ้งค์กับตัวเรื่องราวอีกด้วย นับได้ว่าสุดยอดมาก เรียกว่าหนังเรื่องนี้ก็เป็นหนังแนวรักโรแมนติกที่ผสมผสานความแฟนซี เรื่องของผีเข้ามาเล่นด้วย แม้จะเป็นพล็อตหนังที่ไม่แปลกใหม่มากยิ่งนักแต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าในบางฉากทำออกมาได้ดี แอบน้ำตาซึม แถมโปรดักชั่นของ Paramount+ คนไหนชื่นชอบหนังรักโรแมนติกสุดหักมุมเป็นฟิลแบบ tragic love story บอกเลยว่าห้ามพลาดหนังเรื่องนี้เด็ดขาดเลยค่ะ

👉👉 ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังมิวสิคัล เพลงดนตรี ได้ที่นี่

รีวิวหนัง สายสืบหน้าฮ่าน Groove Town Detectives (2022)

สายสืบหน้าฮ่าน Groove Town Detectives (2022) ภาพยนตร์ออริจินอลจากทาง MONOMAX ที่หยิบจับหนังแนว ‘ตำรวจคู่หู’ มาผสมกับความตลกคอมเมดี้แบบไทบ้าน พร้อมด้วยปมคดีชวนติดตาม จะเป็นอย่างไร? เมื่อคนร้ายที่อยู่ในงาน คือมือที่ไม่มีใครนั้นมองเห็น!

เรื่องราวของ ‘สายสืบหน้าฮ่าน’ เริ่มต้นเมื่อร้อยตำรวจตรี ปกรณ์ (ดิม แทททูคัลเลอร์) ตำรวจหนุ่มจากเมืองกรุง และ ร้อยตำรวจโท สืบศักดิ์ (อี๊ด โปงลางสะออน) นายตำรวจเลือดอีสาน ถูกสั่งย้าย ให้มาทำงานที่สภ.สูงเนินน้อย เพื่อร่วมมือกันสืบคดีการเสียชีวิตอย่างปริศนาในงานรถแห่ ซึ่งเป็นคดีที่มีพยานแวดล้อมอยู่ครบ แต่กลับจับคนร้ายไม่ได้ ทั้งคู่จึงต้องร่วมไขคดีเพื่อพิสูจน์ว่าอะไรกันแน่ที่เป็นคนฆ่าผู้ตาย คนร้ายหรือสิ่งที่มองไม่เห็น โดยมีศักดิ์ศรีของตำรวจเป็นเดิมพัน

ตั้งแต่เปิดดูครั้งแรก เอกลักษณ์หนึ่งที่ออกมาคือ การ ‘Proud to present ความเป็นอีสาน’ ที่เด่นชัดมาก ๆ หนังแสดงบรรยากาศไทบ้านออกมาได้ดี ตั้งแต่วิถีชีวิต ขนบธรรมเนียม ภาษา รวมไปถึงความเชื่อ ที่สะท้อนให้เห็นเลยว่าชาวบ้านนั้นใช้สิ่งใดในการยึดเหนี่ยวจิตใจ และการไปยุ่งกับความเชื่อก็คือการเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตรายในทุกทาง

โดยรวมแล้วสายสืบหน้าฮ่าน เป็นหนังที่มีไอเดียตั้งต้นดี มีความพยายามที่จะเอาหนังตำรวจคู่หูมาผสมกับเรื่องราวตำนานความเชื่อของไทบ้าน แม้จะยังขาดเสน่ห์ในฐานะหนังสืบสวน แต่ความตลกก็ไม่เป็นรองใครเลยล่ะ ถ้าหากหนังวางบทดีกว่านี้ ลดความคอมเมดี้ลงหน่อย แวะข้างทางน้อย ๆ โดยโฟกัสเพียงแค่ความสัมพันธ์ฉันท์คู่หูของปกรณ์กับสืบศักดิ์ หนังจะดูมีชั้นเชิงและดูดีขึ้นมาก ๆ แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะไม่ใช่หนังที่เพอร์เฟกต์ไปเสียทุกด้าน แต่ก็เหมาะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าดูช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ 

👉👉 ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังสารคดี ได้ที่นี่

รีวิวอนิเมะ Spy x Family เมื่อสายลับต้องมาสร้างครอบครัวสายลับปลอม ๆ

Spy x Family จากมังงะสู่อนิเมะมาแรงจากทางญี่ปุ่นที่ได้ลงจอทาง Netflix ไปกันแบบสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อไม่นานมานี้  โดยเป็นอนิเมะแนวแอคชั่นและคอมเมดี้ที่ต้องบอกเลยว่ามีพล็อตเรื่องที่มีความสนุกเข้มข้น มีการดำเนินเรื่องที่น่าสนใจสุดๆ เป็นหนึ่งในอนิเมะที่ถูกดัดแปลงมาจากมังงะชื่อดังในชื่อเดียวกันของ ‘ทัตสึยะ เอ็นโดะ’ ซึ่งในปี2019 ถูกเผยแพร่ Shounen Jump+ และได้ถูกการันตีความปังผ่านรางวัล มังงะยอดเยี่ยมจาก Tsutaya Comic Awards มาแล้ว

เรื่องราวของ ลอยด์ ฟอเจอร์ สปายหนุ่มหล่อหน้าตาดีแถมดีกรีโสด แต่มากด้วยฝีมือ รหัสประจำตัว สนธยา ต้องมารับบทคุณพ่อจำเป็น เพื่อให้ภารกิจลับลุล่วงไปได้ด้วยดี ลอยด์ได้รับ อาเนีย ฟอเจอร์ เด็กน้อยผู้น่ารัก ขี้สงสัย ดูเหมือนจะเป็นเด็กน้อยธรรมดา แต่เธอกลับเป็นเด็กที่ได้จากการทดลอง รหัสลับ 007 จากองค์กรลับแห่งหนึ่ง ซึ่งสามารถอ่านใจคนได้ แต่ยังไม่จบเท่านี้เพราะภารกิจลับนี้ต้องมีคุณแม่ด้วย ถึงจะสามารถทำภารกิจลับได้ลุล่วง จนเขาได้มาเจอ ยอร์ ไบรอาร์ หรือ ยอร์ ฟอเจอร์ ชื่อปัจจุบันของเขาหลังจากที่ได้แต่งงานกับ ลอยด์ ฟอเจอร์  ซึ่งเธอเป็นนักฆ่าสาว รหัสลับ เจ้าหญิงแห่งหนาม เธอได้อำพรางตัวมาเป็นข้าราชการสาววัย 27 ปี มีเหตุจำเป็นให้เธอต้องแต่งงาน ซึ่งทั้งคู่ได้ปกปิดตัวตนที่แท้จริง

โดยรวมเราชอบความน่ารักของอาเนียมาก ชนิดที่ว่าหลงหนักมาก เด็กน้อยตาโต ผมสีชมพู ชอบกินถั่ว และเบคอนกรอบ ๆ เป็นคำฮิตติดปากของสาวกอนิเมะก็ว่าได้ ไม่ใช่แค่ความน่ารักของอาเนียเท่านั้นนะคะ แต่เนื้อเรื่องยังชวนให้เราน่าติดตามด้วย คุณพ่อเป็นสปาย คุณแม่เป็นนักฆ่าสาว และคุณลูกสามารถอ่านใจคนได้ แต่ทั้ง 3 คนต้องปกปิดความลับนี้ไว้ เพื่อทำภารกิจลับจากเบื้องบน แค่ 2 ตอนแรกก็สนุกแล้ว มาลุ้นกันค่ะว่าเรื่องราวจะอลวน วุ่นวายแค่ไหน แล้วความลับของทั้ง 3 คนจะเปิดเผยเมื่อไร

👉👉 ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ ข่าวต่างประเทศทั่วโลก ได้ที่นี่

ภาพยนตร์แอนิเมชั่น Smallfoot (สมอลล์ฟุต) มิตรภาพที่สนุกสนาน

Smallfoot (สมอลล์ฟุต) ภาพยนตร์อนิเมชั่นสำหรับทุกช่วงวัย ด้วยดนตรีต้นฉบับและดาราชั้นนำที่เข้ามาร่วมรับบทมากมาย “Smallfoot” จะเปลี่ยนตำนานที่คุณเคยรู้ชนิดกลับตาลปัตร เมื่อเยติหนุ่มตนหนึ่งได้พบกับสิ่งที่เขาไม่เคยคิดว่ามันจะมีตัวตนอยู่จริงมาก่อนก็คือ “มนุษย์” ข่าวของเจ้า “สมอลล์ฟุต” นี้นำพาเอาชื่อเสียงและโอกาสใกล้ชิดสาวในฝันมาให้เขา แต่ก็นำชุมชนเยติไปสู่ความบ้าคลั่งกับบางสิ่งที่อาจจะมีอยู่ในโลกอันกว้างใหญ่ ภายนอกหมู่บ้านที่ปกคลุมไปด้วยหิมะแห่งนี้

เรื่องราวของ เยติ หนุ่มตนหนึ่งได้พบกับสิ่งที่เขาไม่เคยคิดว่ามันจะมีตัวตนอยู่จริงมาก่อนก็คือ มนุษย์  ข่าวของเจ้า  สมอลล์ฟุต นี้นำพาเอาชื่อเสียงและโอกาสใกล้ชิดสาวในฝันมาให้เขา แต่ก็นำชุมชนเยติไปสู่ความบ้าคลั่งกับบางสิ่งที่อาจจะมีอยู่ในโลกอันกว้างใหญ่ ภายนอกหมู่บ้านที่ปกคลุมไปด้วยหิมะแห่งนี้ เรื่องราวของมิตรภาพที่สนุกสนาน ความกล้าหาญ และความสุขของการค้นพบสิ่งใหม่ๆ  “Smallfoot” ให้เสียงหลักโดย แชนนิ่ง เททั่ม ในบทเยติ และ มิโด, เจมส์ คอร์เดน ให้เสียง สมอลล์ฟุต และ เพอร์ซี่ นอกจากนี้ยังมี เซนดายา, คอมมอน, เลอบรอน เจมส์, จิน่า โรดิเกซ, แดนนี่ เดอวิโต้, ยาร่า ชาฮิดี, อีไล เฮนรี่ และ จิมมี่ ทาโทร กำกับโดย คาเรย์ เคิร์กแพททริก

สรุปเป็นหนังอนิเมชั่นสำหรับทุกช่วงวัย ที่มีความคอมเมดี้บวกกับเพลงที่ยอดเยี่ยม ชอบข้อความเกี่ยวกับการกีดกันตนเองและการสร้างความคิดใหม่ด้วยความคิดที่เป็นต้นฉบับเพื่อให้สามารถโน้มน้าวความรู้และสื่อสารกับผู้อื่นที่แตกต่างของเราได้ สิ่งที่ชอบจริงๆ ที่ครีเอเตอร์ทำในการนำคนอื่นๆ มารวมกันมากกว่าจะระเบิดพวกเขาและทำให้เกิดเรื่องขึ้น การพัฒนาความหมายในภาพยนตร์ทำให้ผู้ชมคิดถึงสังคม ชีวิตส่วนตัว และอิทธิพลที่หล่อหลอมพวกเขามากค่ะ

👉👉  ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรีย์แนวสืบสวนสอบสวน แนวฆาตกรรม ไขปริศนา ได้ที่นี่

ภาพยนตร์ Okay! Madam (2020) อลเวงฮาวายกับสายลับกลางเวหา

Okay! Madam (2020) ภาพยนตร์แอคชันคอมมาดี้ สายลับที่เป็นจุดตั้งต้นของเรื่อง ในระหว่างปฏิบัติการลับของกองกำลังพิเศษเกาหลีเหนือครั้งหนึ่งในต่างแดนเมื่อปี 2009  สายลับสาวชเวกวีซุนผู้เก่งกาจได้รับซิกเตือนภัยจากพ่อว่าปฏิบัติการนี้คือกับดัก เธอจึงตัดสินใจยิงสหายร่วมทีมแล้วหลบหนีหายเข้ากลีบเมฆไปตั้งแต่นั้น

เรื่องราว ณ ปัจจุบัน ที่ร้านขนมแป้งทอดกรอบเกลียวเจ้าอร่อยของตลาดยองชอน ซึ่งมีเจ๊มียอง (รับบทโดย ออมจองฮวา) เป็นเจ้าของและแม่ครัวทอดขนมเอง สามีเธอคือ ช่างซอกฮวาน (รับบทโดย พัคซองอุง) เปิดร้านซ่อมอุปกรณ์อิเลคโทรนิคส์ในตลาดเช่นกัน แม้สองคนผัวเมียจะช่วยกันทำมาหากินยังไงก็ยังจน จนถึงขั้นเครื่องซักผ้าเจ๊งก็ยังไม่มีปัญญาซื้อใหม่ ได้แต่หวังโชคใต้ฝาจากเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งมีรางวัลที่ 2 เป็นเครื่องซักผ้า แล้วโชคก็มาจริง..แต่เป็นรางวัลที่ 1 แพคเกจเที่ยวฮาวาย ถึงจะดีใจ แต่ก็ใช่ว่าจะไปได้ ไหนจะเงินค่าภาษีหัก ณ ที่จ่ายของรางวัล ไหนจะต้องปิดสองร้านร่วมอาทิตย์เลย สู้ตัดใจเอาตั๋วไปขายต่อในอีเบย์ดีกว่า cash only ที่ต้องการ แต่ในที่สุด มนุษย์ลุงซอกฮวานก็ได้ควงมนุษย์ป้ามียองเมียสุดรัก พร้อมลูกสาวสุดเลิฟ ดี๊ด๊าขึ้นเครื่องเดินทางไปเที่ยวฮาวายจนได้ เพราะความสงสารเห็นแก่ลูกสาวตัวน้อยที่มีฝันอยากไปเที่ยวต่างประเทศกับเค้าบ้าง

โดยรวมพล็อตน่าติดตาม มุกฮาหลายรูปแบบที่หยอดมาเรื่อยๆ บทแอคชันที่จัดมางามพอหอมปากหอมคอ บวกเรื่องราวบนเครื่องที่คาดไม่ถึงมากมาย คนเขียนบทและผู้กำกับเค้าทยอยปล่อยของ สับขาหลอก หักมุมรัวๆให้เซอร์ไพรซ์แล้วเซอร์ไพรซ์อีกไม่ยอมหยุดมือ แม้กระทั่งตอนจบขึ้น end credit แล้ว ก็ยังไม่วายปล่อยมุกเซอร์ไพรซ์อีก ก็อย่าเพิ่งรีบปิดกันหละ เรียกว่าหยอกจนหยดสุดท้ายกันเลยเชียว

👉👉 ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังมิวสิคัล เพลงดนตรี ได้ที่นี่