Monday, May 30, 2022

รีวิว F*uck Love Too (2022) พาผู้ชมไปสัมผัสความรักในทุกแง่มุม

F*uck Love Too หนังรอมคอมผลงานออริจินัลจาก Netflix ที่เพิ่งปล่อยออกมาได้ไม่นาน เป็นผลงานของสองผู้กำกับ Appie Boudellah และ Aram van de Rest ว่าด้วยเรื่องราวความรักวุ่น ๆ ของตัวละครแต่ละคน บางคนก็ต้องการความรักที่มั่นคงและยั่งยืน บางคนก็อยากจะสนุกในการตามหาความรักไปเรื่อย ๆ หรือแม้กระทั่งบางคนที่ยังไม่แน่ใจกับความรักเท่าไหร่นัก



เรื่องราวของ ลิซ่า ที่กำลังอยู่ในช่วงสำรวจและตามหาความรักแบบที่ตัวเองต้องการผ่านการทดสอบของหนุ่มหล่อสองคนที่เข้ามาพร้อม ๆ กันในชีวิตของเธอ ทำให้ลิซ่าต้องตัดสินใจว่าจะเลือกไปต่อกับคนไหนดี และในขณะเดียวก็แทรกไปด้วยเรื่องราวความรักของกลุ่มเพื่อน ๆ ของเธอ ไม่ว่าจะเป็น แจ๊ค แฟนเก่าของลิซ่าที่ดันไปทำผู้หญิงท้องพร้อมกันสองคน ทำให้เกิดเรื่องราวสุดแสนจะวุ่นวายตามมาอีกเพียบ หรือจะเป็นเรื่องของ แซด ชายหนุ่มที่ทะเลาะกับแฟนอย่างหนักและพยายามจะหาทางกลับไปคืนดีให้ได้ด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่ชวนประหลาดใจ 



ภาพรวมถือว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียวไม่มากและไม่น้อยเกินไปสำหรับเนื้อหาประมาณนี้ ซึ่งเนื้อเรื่องดำเนินไปค่อนข้างเร็วถึงเร็วมาก เปิดมาก็ลุยเลยไม่ได้มีเวลาให้เราชินกับตัวะละครต่าง ๆ มากเท่าไหร่นัก อาจจะมีงง ๆ กันอยู่นิดหน่อยแต่ก็พอดูได้ไม่เป็นปัญหามากเท่าไหร่ ถือว่าดำเนินเรื่องได้กระชับดีเลยทีเดียว แต่ส่วนที่อาจจะเป็นปัญหาอยู่บ้างคือเนื้อเรื่อง เพราะเนื้อเรื่องไม่มีอะไรที่เข้ากันได้เลยสักอย่าง โดยหลัก ๆ จะแบ่งออกเป็นสองไทม์ไลน์ระหว่างเพื่อนสองกลุ่มที่มีปัญหาและอุปสรรคที่แตกต่างกันไป แต่เนื้อหามันค่อนข้างเบามาก ผิวเผินสุด ๆ มันไม่ได้ส่งพลังที่มากพอต่อมายังคนดู ก็เลยอาจจะทำให้เราไม่อินและไม่ได้เอ็นจอยกับหนังเรื่องนี้มากขนาดนั้น


แต่ในจุดที่ตลก ก็เรียกเสียงหัวเราะได้ดีเลยทีเดียว มันชวนเราขำได้ดีเลยกับการพยายามทำให้ตลกแบบลงทุน ตลกแบบทุ่มเททุกอย่างลงมาแล้วถ้าไม่ตลกก็คงจะไม่ได้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นจุดที่ดีของหนังเรื่องนี้ และประเด็นเรื่องความรักที่หนังพยายามจะสื่อสารออกมาก็ถือว่าทำออกมาได้ดีประมาณนึงเลย กับการพาคนดูไปสำรวจความรักในแบบต่าง ๆ มีคติสอนใจแทรกเข้ามาตลอดทั้งเรื่อง และวิธีการพยายามแก้ปัญหาของตัวละครที่เราดูแล้วก็สามารถจำเอาไว้ได้เลยว่านี่เป็นวิธีการที่ไม่ควรทำตามเด็ดขาด

👉👉 สามารถติดตามดูหนังใหม่ได้ที่นี่  หนังการ์ตูน

Sunday, May 29, 2022

รีวิวหนัง What To Do With the Dead Kaiju? ซากนรกไคจู

"What To Do With the Dead Kaiju?" (ซากนรกไคจู) หนังสัตว์ประหลาดบุกเมือง หรือ หนังไคจู เป็นหนังที่ใคร ๆ ก็คุ้นเคยกันมาเป็นอย่างดีเพราะมีมาตั้งหลายยุคหลายสมัย โดยต้นตำหรับของหนังแนวนี้ก็ต้องยกให้กับวงการหนังญี่ปุุ่น เราเคยเห็นแต่การบุกและคุมคามของเหล่าอสุรกายต่าง ๆ มาก็เยอะ แต่กลับไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นสักเท่าไหร่ และนั่นจึงกลายมาเป็นคอนเซ็ปต์ที่มาชูประเด็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากไคจูสิ้นฤทธิ์ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปอีก นับว่าเป็นไอเดียที่แจ่มว้าวไม่เบา


เรื่องราวหลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นต้องเผชิญหน้ากับโคตรไคจูตัวใหญ่ยักษ์ที่ออกอาละวาดทำลายล้างมานานหลายทศวรรษ กระทั่งมันได้สิ้นใจนอนตายในสภาพขาชี้ฟ้า ทำให้งานนี้รัฐบาลจึงต้องหาทางกำจัดซากของมันให้ได้โดยด่วนที่สุด พร้อมกับแข่งกับเวลา ก่อนที่แก๊สจากภายในตัวมันจะระเบิดออกมาและสร้างหายนะที่อาจทำให้ทั้งเกาะญี่ปุ่นพังลงเป็นหน้ากอง



ภาพรวมหนังที่เต็มไปด้วยไอเดียที่แจ่มแจ้ง คอนเซ็ปต์ที่ดีและน่าสนใจไม่เบา แต่ผลลัพธ์ของหนังที่ออกมานั้น ต้องบอกอย่างตรงไปตรงมาว่า...น่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะความเจ๋งของแนวคิดต่าง ๆ ของหนังเรื่องนี้ ไม่สามารถเดินไปเคียงข้างกับความประหลาดในการเล่าเรื่องของหนังแม้แต่น้อย กลายออกมาเป็นหนังเกือบ 2 ชั่วโมงที่ทำให้รู้สึกทรมานในการดูตั้งแต่ผ่านไปไม่พ้นครึ่งชั่วโมงแรก คือถ้าหากว่าหนังไม่ได้มีเสียงโหวกเหวกโวยวายอะไรกันทั้งเรื่อง ก็คงจะหลับปุ๋ยคาโรงหนังไปแล้ว


แม้ว่าตัวหนังจะพยายามสอดแทรกความตลกโปกฮาเชิงเสียดสีสังคมและการเมืองอย่างแสบสันต์แล้วก็ตาม แต่องค์ประกอบที่ใส่เข้ามาเหล่านั้น ดันใส่เข้ามาแบบเป็นจุดที่ทำให้รู้สึกน่ารำคาญใจไปเปล่า ๆ โดยเฉพาะกลุ่มแก๊งนักแสดงรุ่นใหญ่ต่าง ๆ ที่มาร่วมเป็นคณะรัฐมนตรี กลุ่มบริหารระดับชาติของญี่ปุ่น ที่เข้าใจว่าผู้สร้างใส่เข้ามาเพื่อจะเป็นตัวโจ๊กและสร้างสีสัน แต่สิ่งที่ถ่ายทอดออกมาและบวกรวมกับความเป็นญี่ปุ่นนั้น ทำได้แค่หัวเราะ...หึหึ เบา ๆ แค่นั้น

👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ รีวิวหนังมิวสิคัล เพลงดนตรี

Saturday, May 28, 2022

รีวิวหนัง Sinkhole (2021) ฝ่าวิกฤต หลุมระทึก การันตีความฮาโดย อีกวางซู และ ชาซึงวอน

Sinkhole (2021) ฝ่าวิกฤต หลุมระทึก เป็นหนังแนวภัยพิบัติผสมผสานกับคอมเมดี้ Genre ผสมสูตรนี้นาน ๆ จะได้เจอที และคงเจอได้เฉพาะจากงานเกาหลีเท่านั้น หนังหายนะที่มาพร้อมกับอารมณ์ขันที่ถูกจับนำมาใส่ในเหตุการณ์ไม่น่าจะขำขันออก อีกทั้งยังได้ทีมนักแสดงระดับตัวท็อปๆ ของชาติมาการันตีความเบ๊อะบ๊ะได้ถึงกึ๋น


เรื่องราวของ พัคดงวอน หัวหน้าครอบครัวที่ใฝ่ฝันอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองในสักวัน เขาถึงได้ทุ่มเงินเก็บและเก็บกู้ที่สั่งสมเอาไว้ถึง 11 ปี ซื้อคอนโดมิเนียมเพิ่งสร้างเสร็จหมาดๆ ด้วยเงินก้อนนี้ เพื่อได้อยู่กับลูกเมีย แต่ปรากฏว่าเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อคอนโดฯ ทั้งหลังได้ถูกธรณีสูบลงไปต่อหน้าต่อตา ไถลลงไปในหลุมยุบกลางเมือง ลึกลงไปหลายร้อยเมตร และไม่ใช่แค่เขาที่ติดอยู่ในซากอาคารคาหลุมยุบ พวกเขาจึงต้องหาวิธีขึ้นไปให้ได้


หนังเป็นผลงานใหม่ของผู้กำกับ "คิมจีฮุน" ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อหนังหายนะ แน่นอนว่างานสร้างหนังระดับนี้เป็นที่ช่ำชองมือของเขาเป็นอย่างดี จึงทำให้หลายๆ องค์ประกอบลื่นไหลไปด้วยดี บรรยากาศและโทนเรื่องดำเนินไปได้ค่อนข้างสนุก แม้ว่าช่วงเกริ่นเริ่มต้นเรื่องจะค่อนข้างเกินความจำเป็นไปนิดหน่อย แต่เมื่อเข้าลูปเรื่องราวและสถานการณ์แห่งความหายนะ เขาก็รู้จักที่จะใส่จังหวะและอารมณ์ที่ไปได้ด้วยดีระหว่างหนังกับตัวละคร


ภาพรวมแล้ว Sinkhole ก็เป็นหนังเกาหลีบ็อกซ์บัสเตอร์ที่มาด้วยสูตรสำเร็จ หัวเราะเอิ้กอ้ากได้เรื่อยๆ ตลอดทั้งเรื่อง ไม่ต้องไปเน้นถึงความสมเหตุสมผลใดๆ ดูหนังเอาความบันเทิงล้วนก็เพียงพอ เพราะหนังได้ทีมนักแสดงระดับดรีมทีมแห่งชาติมาประชันบทบาทกัน พวกเขาเป็นองค์ประกอบหลักเพียงอย่างเดียวที่ช่วยพยุงหนังทั้งเรื่องเอาไว้ให้ไปสู่ความสำเร็จระดับเปรี้ยงปร้างเช่นนี้

👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ รีวิวหนังสารคดี 

Friday, May 27, 2022

รีวิวหนัง Marry Me (2022) ไปแฟนมีต แต่พีคได้แต่งงาน

Marry Me (2022) ไปแฟนมีต แต่พีคได้แต่งงาน หนังโรแมนติกคอมเมดี้ ที่มีตัวแม่ "เจนนิเฟอร์ โลเปซ" กลับมาเล่นหนังแนวถนัดของเธออีกครั้ง ก็ยิ่งทำให้ตอกย้ำว่า...หนังแนวนี้แทบจะถูกกลืนกินหายไปกับยุคสมัยไปเสียแล้ว ทำให้เรารู้สึกคิดถึงถวิลหาย้อนกลับไปในช่วงยุครุ่งเรืองของหนังรอมคอม ช่วงยุคต้นๆ ปี 2000s อะไรทำนองนั้น มันทั้งซ้ำซากและน้ำเน่า แต่ไม่รู้ว่าทำไมกลับคิดถึง..


เรื่องราวของ แคท วาลเดซ และศิลปินดาวรุ่ง บาสเตียน คู่รักเซเล็บที่เซ็กซี่ที่สุดในโลก ด้วยกระแสแรงเกินต้านของเพลง Marry Me ซิงเกิลฮิตของทั้งคู่ที่พุ่งทยานในทุกชาร์ต พวกเขาตั้งใจจะประกาศแต่งงานกันต่อหน้าผู้ชมที่ไลฟ์ไปทั่วทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ ระหว่างงานนั้นเอง แคท รู้ความจริงว่าถูกแฟนหนุ่มนอกใจไปคบกับผู้ช่วยของเธอเอง ชีวิตเธอเหมือนจะพังทลายอยู่กลางเวที เธอถามหาความหมายของความรัก ความจริงใจ และความซื่อสัตย์ เมื่อโลกทั้งใบของเธอพังลง


เธอกวาดสายตาและจับจ้องไปที่ใครคนหนึ่งท่ามกลางผู้คนแปลกหน้า นั่นก็คือ ชาร์ลี กิลเบิร์ต ครูสอนคณิตศาสตร์มัธยม พ่วงด้วยสถานพ่อหม้ายถูกลากไปงานคอนเสิร์ตกับ ลู ลูกสาว และเพื่อนสนิทของเขา ถ้าสิ่งที่รู้ดีอยู่แล้วทำให้ผิดหวัง บางทีสิ่งที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนอาจจจะเป็นคำตอบ วินาทีนั้นเองที่แคททำบางสิ่งที่ไร้สติอย่างการเลือก ชาร์ลี มาเป็นคู่แต่งงาน สิ่งที่เริ่มต้นจากความหุนหันพลันแล่นกลับกลายเป็นเรื่องโรแมนติกที่คาดไม่ถึง



ภาพรวมแล้ว Marry Me ก็่น่าจะเป็นหนังที่ถูกใจคอหนังรัก โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เติบโตมากับหนังรอมคอมในช่วงยุคปี 2000s เพราะเรื่องนี้คือตอบโจทย์ความคิดถึงเป็นอย่างยิ่ง และยิ่งในสมัยนี้หนังแนวๆ กลายเป็นหนังที่มักจะสร้างขึ้นและส่งตรงลงฉายสตรีมมิ่งกันหมดแล้ว เนื่องจากโอกาสที่จะประสบความสำเร็จบนบ็อกซ์ออฟฟิศช่างน้อยนิด แต่อย่างน้อยๆ เราก็ดีใจที่ได้มีโอกาสตีตั๋วดูหนังเรื่องนี้กับบรรยากาศที่คิดถึงในโรงหนังอีกครั้งเช่นนี้ ทั้งที่ตัวหนังไม่มีอะไรเลยก็ตาม

👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ ติดตามข่าวต่างประเทศทั่วโลก

Thursday, May 26, 2022

รีวิว Men in Black 3 (2012) สายลับปราบเอเลี่ยนสุดป่วน

‘หน่วยจารชน พิทักษ์จักรวาล 3’ กับผลงานของผู้กำกับฯ Barry Sonnenfeld (ผู้ที่กำกับฯ MIB ทั้งสามภาค) ที่พาพี่วิล กับลุงทอมมี่ กลับมาเป็นหน่วยสายลับจับเอเลี่ยนในจอยักษ์อีกครั้ง ทว่าคราวนี้คงเห็นว่าลุงจะแก่เกินไป ก็เลยหาพล็อตให้พี่วิลย้อนอดีตกลับไปลุงทอมมี่ในวัยหนุ่มเสียเลย


เรื่องราว ​เจ.(วิล สมิธ).และ.เค.(ทอมมี่ ลี โจนส์).กลับมา…แบบทันเวลา! ตลอด 15 ปีที่อยู่กับหน่วยจารชนพิทักษ์จักรวาล เจได้พบเห็นสิ่งประหลาดพิศดารมากมาย แต่ไม่มีอะไร หรือแม้แต่บรรดาเอเลี่ยนพิลึกพิลั่นที่จะทำให้เขางุนงงเท่ากับคู่หูหน้าตายและ.ช่างเหน็บแนมของเขาได้อีกแล้ว จนเมื่อชีวิตของเคและ.ชะตากรรมของโลกตกอยู่ในอันตราย สายลับเจจึงต้องเดินทางย้อนเวลาเพื่อแก้ไขทุกอย่างให้ถูกต้อง นั่นทำให้เจพบว่ายังมีความลึกลับอีกมากมาย ในจักรวาลที่เคไม่เคยบอกเขา ซึ่งมันจะถูกเปิดเผยออกมา เมื่อเขาร่วมทีมกับสายลับเคในวัยหนุ่ม.(จอช โบรลิน).เพื่อพิทักษ์ชีวิตคู่หูของเขา หน่วยงานเอ็มไอบี และ.อนาคตของมนุษยชาติ


ภาคนี้เป็นเหมือนบทสรุปของไตรภาค จึงมีแต่เรื่องเล่าเยอะหน่อย มุกตลกก็มีสอดแทรกอยู่บ้างเพื่อไม่ทำให้หนังดูน่าเบื่อจนเกินไป ใครที่ชอบ MIB จะต้องประทับใจในฉากจบของภาคนี้อย่างแน่นอน เพราะซึ้งกินใจดี ส่วนนักแสดงเล่นดีกันทุกคน โดยเฉพาะ วิล สมิธ ถ้าไม่มีเขาในเรื่องนี้ คงเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก


สรุปแล้วแฟนๆ บุรุษชุดดำ ที่ต้องรอคอยภาคนี้มาถึง 10 ปี ก็ไม่ได้ทำให้แฟนๆ MIB ผิดหวัง แม้ตัวหนังจะเป็นแบบดราม่ามากกว่า แอ็คชั่นกลางๆ ตลกพอสมควร แต่ถ้าว่าเรื่องนี้มันอาจจะไม่สนุกเหมือนหนังเรื่อง อเวนเจน แต่มันเป็นบทสรุปหนังที่ดีสำหรับคนที่ชอบ MIB เพราะมันเป็นภาคจบที่สมบูรณ์ที่สุดแล้ว

👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ รีวิวซีรีย์แนวสืบสวนสอบสวน แนวฆาตกรรม ไขปริศนา

Tuesday, May 24, 2022

รีวิวภาพยนตร์ A Perfect Pairing (2022) คู่นี้…คือเพอร์เฟค

A Perfect Pairing คู่นี้...คือเพอร์เฟค จะเกิดอะไรขึ้นกับความรักของหญิงสาวคนเมืองที่ต้องกลายมาเป็นสาวบ้านไร่ ทำงานฟาร์มแบบสู้ชีวิต เหมือนชะตาพลิกผันอะไรทำนองนั้น พล็อตเรื่องฟังดูเหมือนละครไทย แต่มันกลับเป็นหนังโรแมนติกเรื่องล่าสุดที่เราได้ดู หนังรักสูตรสำเร็จ ฉบับที่ชวนให้เลี่ยน แต่ก็ยังให้รสชาติความหวานกลมกล่อมกำลังดี แค่พระนางสวยหล่อ...เคมีเป๊ะ! ก็ถูกใจแล้ว


เรื่องราวของ โลล่า สาวอเมริกันที่เป็นผู้เชี่ยวชาญไวน์และตัดสินใจลาออกจากบริษัทยักษ์ใหญ่ เพื่อตั้งใจจะตั้งบริษัทนำเข้าไวน์ของตัวเอง เธอจึงเดินทางข้ามทวีปมายังออสเตรเลีย มาจบลงด้วยฟาร์มเลี้ยงแกะของลูกค้าผลิตไวน์รายใหญ่ของที่นั่น จากนักชิมไวน์กลายมาเป็นสาวฝึกงานในฟาร์ม แล้วต้องมาเผชิญหน้ากับพ่อหนุ่มบ้านไร่ยียวนกวนประสาทชะมัด!


โดยรวม A Perfect Pairing เป็นหนังที่ย่อยง่าย กลืนง่าย เก็บเอาไว้ดูเวลาว่าง ๆ ได้สบาย แม้ว่าพล็อตจะซ้ำซากจำเจ บวกแพ็กเกจเสริมด้วยไดอะล็อกคำพูดของตัวละครที่ประดิษฐ์ประดอย แต่สิ่งเหล่านี้ก็คือเสน่ห์ในหนังรักประเภทนี้นั่นแหละ หนังแทบจะไม่มีอะไรให้รีวิวเลยด้วยซ้ำ แค่เปิดดูและปล่อยใจไปเรื่อย ๆ แบบไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น จังหวะและการเดินเรื่องก็ธรรมดาแสนธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษเลย


สรุปแล้วบอกเลยว่าเรื่องนี้เป็นหนังรอม-คอมแบบสูตรสำเร็จ แต่ก็ทำออกมาได้ดีพอตัว ดูได้สนุกเพลินๆ ไม่มีเบื่อ มาเริ่มกันที่เรื่องบทก่อน ซึ่งทำออกมาได้ในระดับมาตรฐานค่อนไปทางดี แต่ก็ยังไม่ถึงกับดีซะทีเดียว เพราะบทยังเป็นสูตรสำเร็จเดิมๆอยู่ แต่ก็เก็บรายละเอียดหลายอย่างได้ดี ต่อมาด้านการดำเนินเรื่อง ส่วนนี้สำหรับผม ผมว่าทำได้ดีเลย ดำเนินเรื่องดี กระชับ เข้าใจง่าย และที่สำคัญเลยคือ ไม่ค่อยน่าเบื่อเท่าไหร่ ส่วนตัวผมไม่มีช่วงไหนที่รู้สึกว่าอืดหรือช้าเลย หนังมีจังหวะการเล่าเรื่องที่พอเหมาะพอดี ไม่เร็วไปไม่ช้าไป ไปเรื่อยๆ เพลินๆ พร้อมกลับบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงาม คือมันเบาสมองอะ ดูแบบไม่ต้องคิดอะไร สนุกดี


👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ รีวิวหนังมิวสิคัล เพลงดนตรี

Monday, May 23, 2022

รีวิว Meow, the Secret Boy เมื่อแมวกลายเป็นชายหนุ่ม กับภารกิจเปลี่ยนเธอให้เป็นทาส

Meow, the Secret Boy หลังจากหยุดงาน ซลอา ก็กลับไปโรงเรียน เพราะต้องการหาที่อยู่คนเดียวเงียบๆ เธอเอาแมวที่ชื่อ ฮงโจ กลับมาบ้านเพราะเพื่อนขอให้ช่วย และเรื่องราวชีวิตของเพื่อนร่วมบ้านทั้งสองก็เกิดขึ้น แต่ซลอาไม่รู้ความจริงที่ว่าแมวฮงโจมีความสามารถในการกลายร่างเป็นมนุษย์ แน่นอนว่าเพื่อนๆ ของซลอาสังเกตเห็นสิ่งแปลกๆ เกี่ยวกับฮงโจ เวลาที่ฮงโจกลายเป็นมนุษย์ รอบบ้านเดี่ยวที่สงบกำลังจะเปลี่ยนไป ฮงโจพบว่ามันยากที่จะทนให้ตัวเองอยู่ในร่างแมวเฉย ๆ เวลาที่ซลอายุ่งอยู่กับงานเกินกว่าจะรักและเอ็นดูเขา ซลอาจะจำฮงโจในร่างมนุษย์ของเขาได้หรือไม่


เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างคนรอบตัวนางเอกอย่าง ซลอา (ชินเยอึน) ให้มีมิติขึ้น ทั้งเรื่องรักสมัยมัธยมที่เธอยังไม่เคยลืมกับ แจซอน (ซอจีฮุน) ที่แม้ปัจจุบันเขาจะเพิ่งกลับมาเป็นโสดได้ไม่นาน และดูมีท่าทีเฉยเมยกับเธอมาตลอด หรือจะเป็นเรื่องพ่อของเธอที่อยู่ดี ๆ ก็อยากแต่งงานและขายบ้าน ยังรวมถึงซับพลอตในที่ทำงานบริษัทออกแบบกราฟิกที่เธอทำงานอยู่ ที่มีคู่พระรองอย่าง ดูซิก (คิมคังฮุน) เพื่อนสมัยมัธยมจอมพูดมาก กับสาวขี้อายนาม จีอึน (ยุนเยจู) ที่เข้าสังคมไม่เก่งที่มีเหตุให้วุ่นวายเรื่อย ๆ


นอกจากเรื่องเลิฟคอเมดีย่อยง่ายที่ว่ามาแล้ว ซีรีย์ก็ยังมีปริศนาสร้างลูกล่าลูกชนให้คนสนใจติดตามด้วย ทั้งประเด็นที่ฮงโจทำไมกลายเป็นคน แจซอนที่ดูจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับอดีตของซลอากับฮงโจ เรียกว่ามีทั้งมุมน่ารักน่าหยิกฟินแตก ก็มีมุมซับซ้อนให้คอยติดตามด้วย


สรุปก็เป็นซีรีย์โรแมนติกคอเมดีดูง่าย ดัดแปลงจากเว็บตูนได้น่าติดตามขึ้น ดึงเสน่ห์เรื่องนิสัยแมวมาเล่นได้สนุก ภาพชวนฝัน มุกก็มุ้งมิ้งกิงก่องแก้วไม่เบา ผนวกกับชุดนักแสดงที่หน้าตาดีกันยกเซ็ตทั้งตัวหลักตัวรอง เรียกว่าดูเพลินอ่ะ แต่อาจดูธรรมดาไปนิดก็ว่าได้เหมือนกัน

👉👉 ติดตามรีวิวได้ที่นี่ รีวิวหนังสารคดี

Sunday, May 22, 2022

รีวิวแอนิเมชัน The Croods: A New Age (2020)

The Croods: A New Age (2020) แอนิเมชันที่จับไอเดียการสร้างคาแรกเตอร์ของมนุษย์ยุคดึกดำบรรพ์มาเล่าในมุมมองของครอบครัวที่ทั้งชีวิตคุ้นเคยแต่กับการอยู่ในถ้ำจนได้ชื่อว่าเป็นมนุษย์ถ้ำกระทั่งได้พบการเปลี่ยนแปลงหลังคนแปลกหน้าก้าวเข้ามาในครอบครัวของเขาและโลกที่กำลังเกิดปรากฎการณ์แผ่นดินแยกตัว แม้หนังจะไม่ได้ประสบความสำเร็จระดับปรากฎการณ์แต่ด้วยความดีงามของหนังก็ทำให้มันมีภาคต่อออกมาในวันนี้



เรื่องราว  หลังฝ่าอุปสรรคทั้งโลกแยกและรักแรกของลูกสาวครอบครัวครู้ดส์อดีตชาวถ้ำก็ได้เวลาออกเดินทางไปตามหาดินแดนแห่งวันพรุ่งนี้จนได้พบกับเผ่าเบตเทอร์แมนที่มี โฮป (พากย์โดย เลสลี มานน์) คุณแม่หัวสูง ฟิล (พากย์โดย ปีเตอร์ ดิงก์เลดจ์) และดอว์น (พากย์โดยเคลลี มารี ทราน) ซึ่งแม้ภายนอกจะดูเป็นเจ้าบ้านที่ต้อนรับขับสู้ครอบครัวครู้ดส์อย่างดีแต่ความจริงพวกเขาหวังจับคู่ กาย (พากย์โดย ไรอัน เรย์โนลด์) หวานใจของอีฟ (เอ็มมา สโตน) และในขณะที่พวกเขากำลังหลงระเริงกับบ้านเมืองภัยร้ายจากนอกกำแพงก็กำลังคืบคลานมาสู่พวกเขาทั้ง 2 ครอบครัว


สำหรับหนังภาคนี้มีการเปลี่ยนตัวทีมงานกำกับและเขียนบทใหม่โดย คริส แซนเดอร์ส์ และ เคิร์ก โดมิกโก ผู้กำกับที่ปั้นหนังภาคแรกมาอยู่ทีมโปรดิวเซอร์และให้ไอเดียของเรื่องราว และสำหรับหนังภายใต้การกำกับของโจเอล ครอว์ฟอร์ดที่มาประเดิมแอนิเมชันขนาดยาวครั้งแรกก็ทำให้สเกลงานของ The Croods คราวนี้ดูใหญ่โตขึ้นและมีความหลากหลายตามผลงานของเขาที่ผ่านแอนิเมชันหลากแนวหลายค่ายมาก ๆ ทำให้หลายฉากการผจญภัยของหนังดูน่าตื่นตาตื่นใจและเต็มไปด้วยสีสันแปลกตาซึ่งตรงนี้ถือว่าครอว์ฟอร์ดมารับหน้าที่กำกับหนังภาคต่อเรื่องนี้ได้อย่างไม่ขัดเขินและการดำเนินเรื่องก็ลื่นไหลสนุกสนานทีเดียว


โดยรวม The Croods A New Age กลับเป็นแอนิเมชันขายความบันเทิงที่มอบเสียงหัวเราะได้อย่างบ้าบอคอแตกมาก ๆทั้งจากเสียงพากย์ของนักแสดงจากภาคแรกผสมกับตัวละครใหม่และยังมีคาแรกเตอร์น่ารัก ๆ เพียบทั้งตัวเบลต์จากภาคแรกที่คราวนี้ได้เจอเบลต์สาว หรือจะเป็นหมาป่าแมงมุมที่ไม่เหลือความน่ากลัวใด ๆ รวมไปถึงเซอร์ไพร์สท้ายเรื่องกับเหล่าแก๊งสาวสลาตันที่ทำเอาคนดูหัวเราะไม่ได้หยุดหย่อนเลยทีเดียว


👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่  ข่าววงการบันเทิง แวดวงคนดัง

Saturday, May 21, 2022

รีวิวภาพยนตร์ Moonshot (2022) โรแมนติกคอมเมดี้ที่ดูเพลินๆ

Moonshot (2022) หนังรักโรแมนติกคอมเมดี้ที่นักแสดงนำวัยรุ่นอย่างโคล สเปราซ์และลาน่า คอนดอร์มาแสดงนำอีกด้วย โดยเล่าเรื่องของของดาวโลกและดาวอังคารที่เชื่อมโยงกันและกัน เมื่อโลกสามารถเดินทางไปนอกโลก โดยเฉพาะการย้ายไปตั้งหลักปักฐานในดาวเคราะห์อย่างดาวอังคารกันมากขึ้น ทำให้วอลต์ บาริสต้าร้านกาแฟในมหาวิทยาลัยได้มีความฝันที่อยากจะไปดาวอังคารสักครั้งในชีวิต โดยเขาได้พบกับโซฟี นักศึกษามหาวิทยาลัยเธอได้ช่วยเหลือให้วอลต์ได้ทำตามฝัน


เรื่องราวของวอลต์ บาริสต้าร้านกาแฟผู้มีความฝันอยากไปดาวอังคาร จนเขาได้สมัครโครงการไปดาวอังคารระดับนักศึกษาโควีอินดีสทรีส์ เขาเคยสมัครโครงการไปดาวอังคารมาถึง 37 ครั้ง แต่ก็ถูกปฏิเสธทุกครั้ง แต่ยังมีอีกหนึ่งหนทางที่จะทำให้เขาสามารถไปดาวอังคารนั่นก็คือการจ่ายเงินจำนวน 937,000 เหรียญ แต่นั่นเป็นเงินจำนวนมากกว่าที่เขาจะหามาได้ ทำให้วอลต์ต้องตัดสินใจหนีเข้าไปช่องระบายอากาศและสร้างแผนการบางอย่างเพื่อให้ตัวเองได้ไปดาวอังคารได้สำเร็จ และเขายังร่วมมือกับโซฟีนักศึกษาสาวที่คอยช่วยเหลือวอลต์ในตลอดการเดินทางไปสู่ดาวอังคาร แต่ทว่าการเดินทางไปยังดาวอังคารกลับไม่ได้อย่างที่คิด มันเสมือนกับว่าเป็นการผจญภัย และเสี่ยงชีวิต แต่ถึงอย่างนั้นการเดินทางไปดาวอังคารในครั้งนี้ยังนำพาให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาได้ใกล้ชิดกันจนค่อยๆ ก่อตัวเป็นความรักขึ้น


ภาพรวมเป็นหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้ที่ดูเพลินๆ ดูเรื่อยๆ การดำเนินเรื่องจึงมีความค่อยเป็นค่อยไป โดยเล่าถึงความฝันของชีวิตวอลต์และโซฟีเป็นตัวละครหลัก สำหรับภาพบรรยากาศ แสงสีแสงจะมีความเป็นโทนสีมืดเพื่อเข้ากับเรื่องราวในอวกาศ โดยเฉพาะกับฉากที่วอลต์และโซฟีทะยานสู่อวกาศ ทำให้เราได้เห็นภาพอวกาศนอกโลกที่สวยตระการตามากๆ ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่เหมาะกับการดูเพลินๆ คลายเครียด เพราะเรื่องราวที่นำเสนอเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของคนที่เดินทางไปดาวอังคาร เนื้อเรื่องดูแล้วใจง่ายไม่ซับซ้อน ใครกำลังมองหาภาพยนตร์คลายเครียดเรื่องนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกไว้ดูเพลินๆ ได้นะคะ

👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่  รีวิวซีรีย์แนวสืบสวนสอบสวน แนวฆาตกรรม ไขปริศนา

Friday, May 20, 2022

รีวิวภาพยนตร์แอนิเมชั่นสุดฮา หลุยส์ตัวแสบ กับแก๊งเอเลี่ยนตัวป่วน


หลุยส์ตัวแสบ กับแก๊งเอเลี่ยนตัวป่วน ภาพยนตร์แอนิเมชั่นสุดฮาที่จะมาเติมเต็มรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความอบอุ่นให้กับทุกคนในครอบครัว เมื่อหลุยส์ เด็กชายวัย12 ขวบ ได้พบเจอเพื่อนใหม่ชาวต่างดาวที่บังเอิญขับยานอวกาศมาตกบริเวณบ้านของเขา ภารกิจพาเหล่าเอเลี่ยนสุดป่วนกลับบ้านจึงเริ่มขึ้น กับการผจญภัยที่จะทำให้เด็กชายเรียนรู้ความหมายที่แท้จริงของ มิตรภาพ


เรื่องราวของ “หลุยส์” เด็กชายวัย 12 ขวบผู้อยู่อย่างโดดเดี่ยว เขาไม่มีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียว หลุยส์อาศัยอยู่กับพ่อผู้เป็นนักศึกษาเกี่ยวกับยูเอฟโอ อาร์มิน ซอนแทค ผู้ยุ่งอยู่กับการหาหลักฐานพิสูจน์การมีตัวตนของสิ่งมีชีวิตจากต่างโลกอยู่ตลอดเวลา เขามักจะหลับในช่วงกลางวัน และหมกมุ่นอยู่กับกล้องส่องดูดาวในช่วงกลางคืน แต่วันหนึ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อหลุยส์ได้พบกับเอเลี่ยน 3 ตัว ที่ยานอวกาศของพวกเขาบังเอิญมาตกบริเวณบ้านของหลุยส์ เด็กชายได้ผูกมิตรกับเหล่าเอเลี่ยนและคอยปกปิดไม่ให้พ่อของเขาที่คิดว่าเอเลี่ยนคือสิ่งมีชีวิตที่อันตรายรู้ว่ามีเอเลี่ยนอยู่ในบ้าน ขณะที่ผู้อำนวยการของโรงเรียนประจำต้องการพาตัวหลุยส์ไป เขาและสหายเอเลี่ยนต้องร่วมมือกันคิดแผนการที่จะติดต่อยานแม่ของเอเลี่ยนเพื่อกลับบ้าน ซึ่งมันทำให้หลุยส์ต้องตัดสินใจว่าเขาจะจากดาวบ้านเกิดไปพร้อมกับเหล่าสหายต่างดาวของเขาไปดีหรือไม่


โดยรวม Luis and the Aliens หลุยส์ตัวแสบกับแก๊งเอเลี่ยนตัวป่วน สนุกจ้า ดูได้ทุกเพศทุกวัยดูไปไม่ต้องคิดไรมาก เหล่าเอเลี่ยนตลกโปกฮา ภาพสวย เนื้อเรื่องดี มีซึ้งๆบ้างตามธรรมเนียม ดูเถอะสนุก เรื่องตลกแม้ว่าจะค่อนข้างหยาบ แต่ก็เฮฮาและโครงเรื่องวุ่นวายที่น่าขันก็เชื่อมโยงเข้าด้วยกันอย่างสวยงามในตอนท้ายด้วยฉากที่ประทับใจ ขอแนะนำภาพยนตร์เรื่องนี้ให้กับผู้ที่ชื่นชอบการหัวเราะที่ดีและพล็อตที่ดีค่ะ


👉👉 ติดตามสนับสนุนเพิ่มเติมได้ที่นี่ ดูหนังออนไลน์เต็มเรื่อง

รีวิวหนังโรแมนติก Royalteen (2022) รอยัลทีน

  รีวิวหนังโรแมนติก Royalteen (2022) รอยัลทีน จาก Netflix  ติดตามความรักจากนิวนิยายขายดีเกี่ยวกับ คาร์ล โยฮัน เจ้าชายที่พยายามสร้างความรักที...