Thursday, May 27, 2021

รีวิวภาพยนตร์สุกน่ารัก เรื่อง The Kissing Booth

ด้วยความที่ช่วงนี้จะป่วยกายหนักหน่อย เลยต้องนอนซมอยู่บ้าน เลยกะว่าจะหาไรดูใน Netflix แก้เซ็งหลังจากพึ่งดู Dynasty จบไป ก็เลยลองเปิด “ The Kissing Booth “ ดู เพราะเห็นนักแสดงที่เราคุ้นตาอย่าง ‘ Joey King ‘ จาก Wish Upon และ The Conjuring มาแสดงนำนี่แหละ ซึ่งมันเป็นหนังวัยรุ่นไฮสคูลที่น่ารัก แบบน่ารักมากดูแล้วมีความสุข เพราะหนังมี moment ดีๆมากมายที่ชวนสนุกและอมยิ้มได้ตลอดเวลาจริงๆ
The Kissing Booth เล่าถึงชีวิตสาว “ แอล (Joey King) “ ที่ได้โตมาพร้อมกับเพื่อนชายสุดซี้ “ ลี ฟลินน์ (Joel Courtney) “ ตั้งแต่เด็กทั้งคู่มักเล่นด้วยกันอย่างสนุกสนาน และชอบไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ และได้ตั้งกฏของการเป็นเพื่อนซี้ขึ้นมา แต่แล้ว แอลก็ได้ตกหลุมรัก “ โนอาห์ ฟลินน์ (Jacob Elordi) “ พี่ชายของลี หนุ่มฮอตสำหรับสาวๆในโรงเรียน ซึ่งจริงๆแล้วลึกๆนั้นเธอรู้ว่าการตกหลุมรักญาติคนสนิท มันผิดหนึ่งในกฏของเพื่อนซี้ เธอจึงพยายามเก็บความรู้สึกนั้นเองไว้ และได้แต่แอบมองอยู่ใกล้ๆ แต่เธอไม่รู้เลยว่า “ โนอาห์ “ ก็แอบชอบเธอมาตั้งแต่เด็กแล้วเหมือนกัน แต่แล้วเมื่อเรื่องทั้งหมดที่เธอพยายามปิดบัง มันกำลังทำให้เธอและโนอาห์ได้ใกล้ชิดกัน เมื่อเหตุการณ์โดยบังเอิญที่ซุ้มขายจูบนั้น ทำให้ความรู้สึกลึกๆที่เก็บเอาไว้จึงไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป
เราชอบการดำเนินเรื่องของเรื่องนี้พอสมควรเลย มันรวดเร็ว แต่มีแต่ความสนุกสนาน และเบิกบานใจตลอดเวลา ถึงแม้หนังจะอัดเรื่องราวทั้งหมดไว้ใน 1 ชม.กว่า ทั้งที่หนังสือมันมีเนื้อหามากมายหลายอย่าง ซึ่งถือว่าทำได้ดีระดับนึงเลย เพราะหนังมีความเข้าใจดูง่าย และสนุก อีกครั้งมี moment ชวนน่ารัก ชวนกรี๊ดได้เสมอๆ ช่วงแรกหนังจะเล่าประเด็นมิตรภาพตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันแบบรวดเร็ว และชวนมีกิมมิคในการเล่า ซึ่งช่วงนี้เป็นการเปิดเรื่องที่โอเค ถึงแม้จะไม่ได้ขยายและลงลึกมากมาย แต่ก็พอจะเข้าถึงได้ว่า สองตัวละคร “ แอล “ และ “ ลี “ มีความสนิทสนมกันมาก และไม่นาน หนังก็เริ่มเจาะไปถึงตัวละครมากขึ้น ให้เราได้เห็นการใช้ชีวิต และคาแรคเตอร์ของแต่ละคนที่ชัดเจนมากขึ้น เห็นมุมมองความคิดและความรู้สึกมากขึ้น ทำให้เราเริ่มเข้าถึงตัวละครและมันจะส่งผลทำให้เราอินไปกับเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้ จากนั้นหนังก็เริ่มเข้าสู่โหมดความรักที่มีขีดจำกัด แต่หนังพยายามใส่บรรยากาศชวนโรแมนติคแบบวัยรุ่น กุ๊กกิ๊ก น่ารัก สดใส และเฮฮาได้ดี พูดได้เลยว่าถึงแม้หนังจะเล่าประเด็นนี้อย่างรวดเร็วแค่ไหน มันก็ทำให้เราอินได้ไม่มากก็น้อย แต่มันก็ชวนดิ้นไม่หยุดเลยจริงๆ ด้วยออร่าของพระ-นางที่ต่างกันสุดขั้ว แต่มีคารมที่ตรงเคมีกันนี่แหละ สร้างความน่ารักได้ดีมากเลยทีเดียว
จะว่าไปแล้ว The Kissing Booth มันเป็นหนัง Romance / Comedy / Drama ของวัย Teenage ที่มีประเด็นทุกอย่างที่หนังวัยรุ่นควรจะมี และเล่าออกมาได้สร้างสีสันไม่ชวนดาร์คและรุนแรง ซึ่งถือว่าทำให้คนดูได้รู้สึกเพลิดเพลินและคลายเครียดได้ดี ฟิลหนังให้อารมณ์ไม่เหมือนหนังยุคปัจจุบัน ทั้งๆที่มันก็น่าจะใช้อยู่พอสมควร ให้อารมณ์ร่วมสมัย โดยการใส่รายละเอียดต่างๆ เสื้อผ้า หน้าผม รวมถึงรถยนต์ที่ตัวละครใช้นั่น ให้อารมณ์ยุค 90s มากๆ มีเสน่ห์พอสมควร ด้านนักแสดงทั้งสาม มีคาแรคเตอร์ชัดเจน มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร และสร้างความประทับใจได้ตลอด ทำให้เข้าถึงตัวละครและบทบาทนั้นๆไม่มากก็น้อยเช่นเดียวกัน การส่งอารมณ์กันไม่ว่าจะเป็นรูปแบบเพื่อน พี่น้อง หรือคนรัก มันค่อนข้างดี รู้สึกว่าขาดใครคนใดคนหนึ่งไป หนังจะไม่มีความสนุกเลยก็เป็นได้อะ

No comments:

Post a Comment

รีวิวหนังโรแมนติก Royalteen (2022) รอยัลทีน

  รีวิวหนังโรแมนติก Royalteen (2022) รอยัลทีน จาก Netflix  ติดตามความรักจากนิวนิยายขายดีเกี่ยวกับ คาร์ล โยฮัน เจ้าชายที่พยายามสร้างความรักที...