Tuesday, November 30, 2021

รีวิว The Witches แม่มด งานขายขำ ของเหล่าแม่มดสุดเกรียน

The Witches แม่มด ในปีนี้จะเป็นเรื่องราวที่บอกเล่าถึง ในช่วงปี 1967 ที่มีเด็กชายกำพร้าคนหนึ่ง (รับบทโดย จาห์ซีร์ คาดีม บรูโน่) เขาอาศัยอยู่กับคุณยายผู้เป็นที่รัก (รับบทโดย อ็อคเทเวีย สเปนเซอร์) แต่ชีวิตพวกเขากลับเปลี่ยนไปเมื่อเด็กน้อยถูกสาปโดยราชินีแม่มด (รับบทโดย แอนน์ แฮทธาเวย์) ให้กลายเป็นหนู เขาและคุณยายจึงต้องหาจัดการแม่มดตัวแสบนี้ให้จงได้




เรื่องราว เมื่อแม่มดเริ่มคืบคลานดั่งฝันร้ายในอดีต คุณยาย (ออคตาเวีย สเปนเซอร์) จำต้องหนีเหล่าแม่มดร้ายเพื่อความปลอดภัยของหลานรัก(จาห์เซีย คาดีม บรูโน) เธอจึงพาเขาหลบไปพักที่โรงแรมหรู แต่โดยไม่ทันตั้งตัวเหล่าแม่มดร้ายนำโดย ราชินีแม่มด (แอนน์ แฮททาเวย์) ก็พาเหล่าสมุนไปชุมนุมกัน ณ. โรงแรมดังกล่าวและขณะที่หนุ่มน้อยหลานยายลักลอบเข้าไปอยู่ท่ามกลางวงประชุมเขาก็โชคร้ายที่ต้องถูกสาปให้กลายเป็นหนูพร้อมกับบรูโน (โคดี ลี อีตสติก) หนุ่มอ้วนตะกละและได้ผูกมิตรกับ แมรี (คริสตีน เชโนเวธ) หนูที่คุณย่าหามาให้หลานรักเลี้ยงก่อนจะได้ทราบความจริงว่าเธอก็ถูกสาปเหมือนกัน งานนี้ 3 หนูและ 1 คุณย่าสุดเฟี้ยวต้องหาทางหยุดเหล่าแม่มดไม่ให้สาปเด็กทั้งโลกเป็นหนูให้จงได้




โดยรวม The Witches แม่มด เวอร์ชั่นนี้สนุกกว่าเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน ถึงเรื่องราวของทั้งสองเวอร์ชั่นจะไม่เหมือนกัน แต่รับประกันเวอร์ชั่นนี้ดีกว่าแน่นอน ชอบในการดำเนินเรื่องของหนังเรื่องนี้มาก ดูง่าย เพลินตลอดทั้งเรื่อง หนังมีทั้งความสนุก ตลก และ สิ่งที่ขาดไม่ได้ของหนังเรื่องนี้คือ ความน่ารักของเหล่าเด็กๆ ถึงจะถูกแม่มดสาปให้กลายเป็นหนูตัวเล็กๆ ไปแล้ว แต่ความน่ารักก็ยังอยู่ครบไม่มีขาดหายไปเลย ยอมรับตามตรงนี่นั่งยิ้ม นั่งหัวเราะตลอดทั้งเรื่อง  มาต่อกันที่นักแสดงของหนังเรื่องนี้ อ็อคเทเวีย สเปนเซอร์ ไม่ทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ ชอบนางมาก แสดงได้อย่างโดดเด่นเลยทีเดียว และ แอนน์ แฮทธาเวย์ เช่นกันที่เธอนั้นแสดงเป็นราชินีแม่มดได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีทั้งความโหด และความฮา เอาเป็นว่า เคมีของนักแสดงเรื่องนี้เข้ากันได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว

👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ ดูหนัง ซับไทย ได้ที่นี่

Monday, November 29, 2021

รีวิว มิสเตอร์แสบร้ายเกินพิกัด 3 (Despicable Me 3) แก๊งตัวเหลือง มินเนียน

มิสเตอร์แสบร้ายเกินพิกัด 3 (Despicable Me 3) ถ้าไม่เคยดูภาคอื่นมากก่อน จะรู้เรื่องไหม รู้เรื่องแน่นอนพันล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะว่ามันเป็นหนังที่ไม่ต้องคิดอะไรเวลาดูเลย เพราะว่าเรื่องราวไม่ได้ต่อเนื่องจากภาคก่อนๆ มากนัก เข้าไปดูความน่ารัก ความสดใส แล้วก็เจ้าเด๋อมินเนี่ยน มินเนี่ยนก็ยังคงเป็น มินเนี่ยน เหมาะเป็นลูกกระจ๊อกที่สุดในโลกละ ไม่มีอะไรมาแทนที่พวกเธอได้ เป็นกลุ่มตัวละครที่เด๋อมากอ่ะ คือทำทำอะไรก็ดูเด๋อไปหมด ทำหน้าเข้มๆยังเด๋อเล้ยยยย แล้วก็ภาคนี้มีเมลเป็นหัวโจกของเหล่า มินเนี่ยน เป็นตัวการที่ทำให้ต้องไประหกระเหิน จุดที่ชอบที่สุดคือมีช่วงเวลาที่มินเนี่ยนร้องเพลง ถึงจะฟังไม่รู้เรื่องว่าร้องว่าอะไร แต่อินเนอร์ นี่จัดเต็ม ที่รู้ๆ คือพวกเด๋อไม่ได้ร้องแค่บานาน่าแล้วนะฮะ โปรดักส์ชั่น ตอนร้องเพลงนี่ยิ่งใหญ่จริงๆ ใครที่อยากฟังเจ้าตัวเหลืองร้องเพลงละก็ อย่าได้พลาดเป็นอันขาด


เรื่องราว โลกของกรู (Steve Carell) ดูเหมือนจะกลายเป็นบ้านคนดีไปแล้ว เมื่อเขากลายเป็นสายลับที่ทำงานให้กับหน่วย AVL (Anti-Villain League) แต่เพียงเพราะเขาไม่สามารถตามจับ บัลธาซาร์ แบร็ตต์ (Trey Parker) วายร้ายในจอทีวีที่กลายเป็นมาเป็นวายร้ายนอกจอผู้ขโมยเพชรเม็ดเป้งไปได้ ทำให้เขาถูกไล่ออกจากหน่วย และนั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับมาเป็นวายร้าย..อีกครั้ง พอดิบพอดีกับที่มีตาแก่คาบข่าวมาบอกกรูว่า เขายังมีน้องชายฝาแฝดที่เขาไม่เคยรู้อยู่อีกคน ดรู (ก็ Steve Carell อีกนั่นแหละ) น้องชายผู้ร่ำรวยอู้ฟู่ที่เฝ้าติดตามพี่ชายด้วยความภาคภูมิใจ หวังให้เขากลับมาร้ายอีกครั้ง ในที่สุดก็สมใจ เมื่อกรูรวมตัวกับดรูเพื่อก่อการชิงเพชรกลับคืน แต่ต้องแลกกับการเสียเหล่าลูกสมุนมินเนี่ยนคู่ใจ เพราะพวกมันหมดศรัทธาในกรูไปเสียแล้ว




สรุป Despicable me 3 มิสเตอร์แสบ ร้ายเกินพิกัด เป็นหนังที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัยมาก สร้างความสนุกและเสียงหัวเราะตลอดทั้งเรื่องจริงๆ ชอบอุปกรณ์ทุกอย่างในเรื่อง ไอเดียดีมาก สามารถดึงสิ่งของเล็กๆน้อยๆ มาใช้ได้อย่างที่เรานึกไม่ถึง ดำเนินเรื่องรวดเร็ว ตลอดเวลา 90 นาที คือไม่เบื่อเลย มุกตลกก็ใส่มาได้ตรงจังหวะ แบบขำทุกมุกอ่ะ ไปดูเถอะค่ะ เป็นหนังที่ไม่มีพิษมีภัยเลย ขำไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกที อ้าวจบแล้ว ดูจนลืมเวลาจริงๆ

👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังสารคดี ได้ที่นี่


Sunday, November 28, 2021

รีวิว Naughty Princess 2021 (องค์หญิง อย่าดื้อนะ )

องค์หญิง อย่าดื้อนะ ( Naughty Princess) ซึ่งเป็นซีรีส์แนวรักโรแมนติก คอมเมดี้ที่จะมาสร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคน โดยซีรีส์เรื่องนี้ได้พระนางงานดีเคมีน่ารักชวนฮาหนักมากอย่าง สวีเสี่ยวนั่ว นางเอกสาวสวยน่ารักรอยยิ้มสดใส ที่มารับบทเป็น ตานหลี องค์หญิงแสนซนจอมป่วนของเรื่อง ประกบคู่กับพระเอกหนุ่มหล่อมาดนิ่ง อย่าง จางซือฟาน ที่มารับบทเป็น จ้าวหยวนฉินยวี่ กษัตริย์หนุ่มหล่อมาดเข้ม


เรื่องราว องค์หญิงตานหลี กับจอมเวทย์ซูมู่ กำลังทดลองวิชาเวทย์กันในห้องของเธอ แต่ซูมู่ดันจำบทวิชาเวทย์ผิดทำให้องค์หญิงได้รับบาดเจ็บ และได้บังเอิญพบกับฮ่องเต้แห่งเมืองฉิน ต่อมาฮ่องเต้เมืองฉินได้ยึดครองเมืองตานแล้วได้นำตัวองค์หญิงตานเจียกับองค์หญิงตานหลีไปเป็นเชลยที่เมืองฉิน และฮ่องเต้เมืองฉินได้กักขังองค์หญิงตานหลีไว้ในตำหนักเย็นไม่ให้เธอออกไปไหนได้ แต่ด้วยความฉลาดไหวพริบดีของเธอจึงทำให้เธอสามารถหลบออกมาเที่ยวเล่นได้ ต่อมาเธอหลบออกจากตำหนักไปก่อกวนฮ่องเต้ จนทำให้ฮ่องเต้หนุ่มโมโหหนักมาก แล้วแบบนี้องค์หญิงน้อยแสนซนของเราจะเอาตัวรอดจากเหตุการนี้ไปได้หรือไม่




โดยสรุปเนื้อเรื่องความขัดแย้งระหว่างสองเมือง และความลี้ลับของวิชาเวทย์ ที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับองค์หญิงตานหลีกับฮ่องเต้แห่งเมืองฉิน ส่วนฮ่องเต้เมืองฉินที่มีความหลังเกี่ยวกับคนรักที่หายไปเพราะวิชาเวทย์จึงทำให้ฮ่องเต้ต้องตามจับคนที่รู้วิชาเวทย์เพื่อสืบหาอดีตคนรัก ซึ่งนอกจากความลี้ลับซับซ้อนแล้ว ยังมีความฮาขององค์หญิงน้อยตานหลีที่รับบทโดยสวีเสี่ยวนั่ว นางเอกสาวสวยมากความสามารถ แล้วยังมีฮ่องเต้สุดหล่อจอมเผด็จการ จ้าวหยวนฉินยวี่ ที่รับบทโดย จางซือฟาน พระเอกหนุ่มมาดเข้ม นอกจากเนื้อเรื่องตัวละครที่น่าดูน่าติดตามแล้ว การเดินเรื่องของซีรีส์ยังรวดเร็วแต่ไม่ซับซ้อนจึงทำให้ซีรีส์มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น


👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี ได้ที่นี่

Saturday, November 27, 2021

รีวิว Detective Chinatown 3 (แก๊งม่วนป่วนโตเกียว) เรียกเสียงฮากันอีกครั้งที่โตเกียว


Detective Chinatown 3 แก๊งม่วนป่วนโตเกียว หนังชุด Detective Chinatown ภาคที่ 3 หลังจากที่เคยไปซ่ามาแล้วทั้งกรุงเทพในภาคแรก และไปป่วนนิวยอร์กในภาคที่สอง และมาเรียกเสียงฮากันอีกครั้งที่โตเกียวในภาคที่สามอย่าง Detective Chinatown 3 แก๊งม่วนป่วนโตเกียว เป็นของผู้กำกับ Sicheng Chen โดยในภาคนี้มีนักแสดงอย่างซาโตชิ ซึมาบูกิ,หลิว ห่าวหราน,หวัง เป่าเชียง และ นักแสดงชาวไทยอย่าง จา พนม 


เรื่องราวของคู่หูนักสืบ ถังเหริน กับ ฉินเฟิง ที่ต้องมาสืบไขคดีฆาตกรรมในห้องปิดตาย ร่วมด้วยนักสืบตัวท็อปของญี่ปุ่นอย่าง โนดะ ฮิโรชิ และ นักสืบชาวไทยที่รับบทโดยจาพนม ช่วยกันในการไขคดีในครั้งนี้ กลายมาเป็นมหกรรมการต่อสู้ของเหล่านักสืบที่โคตรบันเทิง บอกได้อย่างเต็มปากเลยว่าสนุกและฮามากก กับหนังเรื่องนี้ จา พนม คือ ที่สุดของความบ้าแล้ว แถมมีบทพูดเยอะขึ้นด้วยนะ ไม่เหมือนหนังเรื่องก่อนๆ ที่เขาแสดง โดยหนังจะเริ่มเรื่องต่อจากภาคสองเลยที่เหล่าคู่หูนักสืบไปไขคดีที่นิวยอร์กสำเร็จ ก็ได้นั่งเครื่องบิน บินมาโตเกียว แค่ฉากเปิดของหนังก็ว่าฮาแล้ว ยิ่งเจอ พี่จา พนม ใส่ชุดมารุโก๊ะ ยิ่งฮาหนักเลย และอีกฉากที่ชอบส่วนตัวคือฉากชิ่งศพ อันนี้คือกลั้นขำไม่ไหวจริงๆ






โดยรวมการปูเรื่องของหนังทำได้ดีมากเลยทีเดียว ค่อยๆแก้ปมต่างๆไปทีละข้อ เป็นหนังที่ค่อนข้างดูง่ายอีกหนึ่งเรื่องเลยล่ะ การไขคดีของ ถังเหริน หนังก็สามารถทำให้คนดูเข้าใจได้ง่ายๆด้วยฉากความคิดของ ถังเหริน รับรองดูแล้วเข้าใจอย่างแน่นอน อีกอย่างที่แอดรู้สึกประทับใจกับหนังเรื่องนี้ในเรื่องของการไขคดีมากพลิกไปพลิกมาตลอด ได้เปรียบเสียเปรียบ แต่ก็แทรกความตลกมาให้แบบจัดเต็ม ครบรสแบบสุดๆ รวมไปถึงฉากบู๊ที่ต้องยกให้ พี่จา พนม เลย ที่ได้โชว์สกิลแบบจัดเต็มจริงๆ และสิ่งที่ไม่ควรพลาดอีกอย่างในหนังเรื่องนี้นั้นก็คือฉาก End credits ที่เผยให้เห็นถึงการมีภาคต่อในภาคที่ 4 (จะแอบบอกว่า เบื้องหลังในฉากนั้นเป็น ลอนดอน) ใครที่อยากสัมผัสหนังจีนสุดฮาหนังเรื่องนี้ไม่ควรพลาด 


👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรีย์แนวสืบสวนสอบสวน แนวฆาตกรรม ไขปริศนา ได้ที่นี่





Thursday, November 25, 2021

รีวิว Dating in the Kitchen (ฝากรักไว้ที่ท้ายครัว) ฟิน ๆ ฮา ๆ ตีคู่กันไปแบบเนียน ๆ

ฝากรักไว้ที่ท้ายครัว Dating in the kitchen รีเมกมาจากภาพยนตร์เรื่อง This Is Not What I Expected (2017)  ทาเคชิ คาเนชิโร ประกบคู่กับ โจวตงหยู ในภาคซีรีย์ได้นางเอกที่กำลังฮอตติดลมบนอยู่ในขณะนี้ จ้าวลู่ซือ ประกบคู่กับนักแสดงหนุ่มรุ่นใหญ่สายอบอุ่น หลิวอวี่เซิน 


เรื่องราวของ กู้เชิ่งหนาน  (จ้าวลู่ซือ) เชฟสาววัย 29 ปี เป็นผู้ช่วยเชฟของโรงแรมจื่อจิง  กับบอสหนุ่มสุดเฮี้ยบ ลู่จิ้น (หลินอวี่เซิน) วัน ๆ นางก็ยืนปอกหัวหอม หั่นผัก ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยตามที่เชฟคนอื่น ๆ สั่ง แต่เธอมีฝีมือทำอาหารพอตัวชนิดที่ว่าเชฟด้วยกันยังติดใจในฝีมือในการทำ “ข้าวผัดตบหน้า” ของเธอ แต่อยู่ ๆ เธอก็ก่อเรื่องขึ้นมาซะได้จนทำให้ตัวเอง “ตกงาน” เหตุการณ์วันนั้นทำให้เธอได้พบกับ ลู่จิ้น (หลินอวี่เซิน) โดยบังเอิญและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะเป็นผู้นำความโชคร้ายและโชคดีมาให้เธอ นับครั้งไม่ถ้วน ลู่จิ้น เป็นผู้บริหารระดับ CEO ที่เดินทางมาประเมินเพื่อซื้อกิจการของโรงแรมจื่อจิง หนุ่มใหญ่จอมเฮี๊ยบที่เรื่องมากซะเหลือเกินกับรสชาติอาหาร นั่นก็ไม่ถูกปากนี่ก็ไม่โอเค แต่กลับมาติดใจรสชาติของข้าวผัดตบหน้าที่ผู้จัดการโรงแรมนำมาขัดตาทัพเป็นเมนูสุดท้าย ติดใจชนิดที่ว่าอยากรู้จักเชฟคนนี้ แต่เสียใจด้วยจ้ะ เธอโดนไล่ออกไปแล้ว


แต่บุพเพอาละวาดก็ทำให้สองคนโคจรมาพบกันอีกแบบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เมื่อเพื่อนสาวคนสนิทของกู้เซิ่งหนานบอกกับเธอว่า ถูกผู้ชายที่คบหากันอยู่หลอกลวง สองคนนัดแนะกันจะไปแก้แค้น แต่กู้เซิ่งหนานนี่แหละที่ไปแก้แค้นผิดที่ เพราะดันไปทำเอากับรถสปอร์ตคันงามของลู่จิ้นซะได้ ก็เพิ่มความซวยให้ตัวเองเข้าไปอีกเพราะทั้งตกงานและติดหนี้ค่าเสียหายของลู่จิ้น แต่ต่อมาไม่นานนางก็ได้กลับเข้าทำงานอีกครั้งในฐานะเชฟของห้อง 1123 ก็ห้องที่ลู่จิ้นพักอยู่นั่นแหละ และมารู้เพิ่มเติมอีกว่า เขาคือบอสใหญ่ที่มาซื้อโรงแรมแห่งนี้ ก็จะเป็นเรื่องวุ่น ๆ ฮามาก ๆ ของเชฟสาวกระทะเหล็ก กับบอสเจ้าของโรงแรมที่แสนจะเรื่องมาก แต่กลับมาติดใจรสชาติอาหารของเธอคนเดียวเท่านั้น




โดยรวมแล้ว ฟิน ๆ ฮา ๆ ตีคู่กันไปแบบเนียน ๆ ฮาตั้งแต่ฉากแรกเลยจ้ะเรื่องนี้ ซีรีส์คอมเมดี้นี่ทางถนัดของจ้าวลู่ซือเธอเลย เรียกว่าเข้ามือปั๊วะป๊ะเป็นธรรมชาติ กับคาแรกเตอร์ของเรื่องที่เป็นเชฟสาวน่ารักสดใส ก๋ากั่นนิด ๆ แสบหน่อย ๆ แต่มีฝีมือทำอาหารที่สุดยอดจนเป็นที่ติดอกติดใจของ ลู่จิ้น พระเอกของเรื่อง ที่เป็นบอสสายลุง เคร่งขรึม เรื่องมากแต่อบอุ่น หล่อไม่มากแต่เสน่ห์ล้นเหลือ จนกลายเป็นเคมีสาวน้อยกับลุงยักษ์ของฝั่งจีน เสียงกรี๊ดของเหล่าแฟนคลับทั้งเก่าและใหม่ 


👉👉  นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ หนังการ์ตูน ได้ที่นี่

Wednesday, November 24, 2021

รีวิว Yumi's cells (2021) 'เซลล์' สมองยูมี หลากหลายหน้าที่ด้วยกัน

Yumi's cells เรื่องราวชีวิตในแต่ละวัน ของ สาวออฟฟิศธรรมดา ๆ อายุ 32 ปีคนหนึ่ง ที่มีชื่อว่า 'คิมยูมี' (รับบทโดย คิมโกอึน) ที่เธอใช้ชีวิตตัวคนเดียวมาเป็นเวลากว่า 4 ปี และไม่มีแฟน หลังจากที่เจ็บปวดกับความรักครั้งล่าสุด เมื่อ 3 ปีก่อน อ่านมาถึงจุดนี้หลายคนอาจจะมองว่าธรรมดาใช่ไหมคะ แต่บอกเลยว่า ความที่ดูเหมือนจะธรรมดานี้ถูกถ่ายทอดออกมาให้ไม่ธรรมดา ด้วยการเล่าผ่าน 'เซลล์' ในสมองของยูมี ที่มีมากมายหลากหลายหน้าที่ด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น เซลล์เหตุผล เซลล์อารมณ์ เซลล์ความหิว เซลล์แฟชั่น เซลล์ลามก เซลล์กังวล ตลอดจน เซลล์ความรัก ซึ่งแต่ละเซลล์ต่างก็พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะช่วยให้ยูมีใช้ชีวิตอย่างมีความสุข






โดยในซีรีส์เล่าว่า คนเราทุกคนต่างมีเซลล์มากมายอยู่ในตัว แต่ว่าแต่ละคนจะมีสิ่งที่เรียกว่า 'ไพรม์เซลล์' (Prime Cell) แปลง่าย ๆ ว่าเป็นเซลล์ที่เป็นหลักของคน ๆ นั้น และมีอิทธิพลเหนือเซลล์อื่น ๆ ซึ่งไพรม์เซลล์ของยูมี คือ 'เซลล์ความรัก' แต่ทว่า เซลล์ความรักของยูมี กลับตกอยู่ในอาการโคม่าไปตั้งแต่ที่เจ็บปวดจากความรักเมื่อ 3 ปีก่อน จนกระทั่งล่าสุด เซลล์ความรักก็ได้ฟื้นขึ้นมา จากความรู้สึกดี ๆ ที่เริ่มมีต่อหนุ่มรุ่นน้องในบริษัท อย่าง อูกี (รับบทโดย มินโฮ SHINee) ดังนั้นหนึ่งในความปรารถนาของเหล่าบรรดาเซลล์ในตัวเธอ คือ การได้เห็นยูมีกลับมามีความรักอีกครั้ง และเอาใจช่วยไปกับความรักของเธอ จนกระทั่ง ยูมี ได้พบกับ กูอุง (รับบทโดย อันโบฮยอน) หนุ่มนักพัฒนาเกมที่ซื่อตรงต่อความรู้สึกของตัวเอง ดูเหมือนว่า 'ความรัก' ได้กลับมาเยือนชีวิตของเธออีกครั้งแล้วจริง ๆ




การดำเนินเรื่องของเรื่องนี้มาก ๆ ที่สามารถพาคนดูเพลินเพลินไปกับโลกของยูมี และทำให้คนดูรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับบรรดาน้องเซลล์มากมายที่พยายามที่จะทำเพื่อยูมี แถมคาแรคเตอร์ของเซลล์แต่ละตัวก็มีความนุบนิบ น่ารัก น่าเอ็นดู และเรื่องราวชีวิตของตัวละครสามารถผูกโยงเข้ากับแต่ละเซลล์ โดยที่รู้สึกว่าคนเล่าเรื่องช่างครีเอทความสัมพันธ์ได้เก่งมาก ทำให้ดูแล้วรู้สึกเพลินใจไปหมด ด้วยความที่ว่าซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงเรื่องราวมาจากเว็บตูนต้นฉบับ ก็เลยทำให้หลายคนรู้ว่ายังจะมีอีกตัวละครหนึ่งที่กำลังจะปรากฏตัวเข้ามาในชีวิตของยูมี เขาคนนั้น คือ ยูบาบี (รับบทโดย จินยอง GOT7) หนุ่มจากฝ่ายการตลาด ต้องมาลุ้นเอาใจช่วยกับความรักของยูมีว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป


👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังสารคดี ได้ที่นี่

Tuesday, November 23, 2021

รีวิว Set It Up (แผนแก้เผ็ดเผด็จเจ้านาย) หนังรักปนฮาสไตล์วัยทำงานที่ดูไปขำไป

Set It Up (แผนแก้เผ็ดเผด็จเจ้านาย) เมื่อเจ้านายจอมบงการทำให้เลขาฯส่วนตัวต้องหัวปั่น วิธีการแก้เผ็ดของพวกเขาและเธอคือการจับคู่หัวหน้าของพวกเขาไว้ด้วยกัน เพื่อเวลาที่ทั้งสองใช้เวลาเดตกัน พวกเขาจะได้เป็นอิสระและมีเวลาทำอะไรตามใจตัวเอง


เรื่องราว ฮาร์เปอร์ (โซอี้ ดอยซ์) ทำงานเป็นเลขาให้กับ คริสเทน (ลูซี่ ลิว) ผู้สื่อข่าวชื่อดัง คริสเทนจัดอยู่ในกลุ่มคนบ้างานอันดับต้น ๆ เธอทำงานแทบจะ 24 ชั่วโมงจนทำให้ฮาร์เปอร์พลอยโดนจิกหัวใช้เช้ายันค่ำจนแทบจะไม่ได้ทำตามความฝันที่ตั้งเอาไว้ เมื่อเห็นว่าอนาคตการเป็นนักเขียนคนเก่งเริ่มริบหรี่ลงทุกวัน ๆ ฮาร์เปอร์จึงตกลงร่วมมือกับ ชาร์ลี (เกลน พาเวลล์) ชายหนุ่มที่ทำงานอยู่ในตึกเดียวกัน ชาร์ลีเป็นเลขาให้กับ ริก (เทย์ ดิกส์) นักธุรกิจไฟแนนซ์ที่บ้างานจนทำเขาหัวหมุนพอ ๆ กัน หลังจากทั้งคู่เห็นพ้องตรงกันแล้วว่า ในเมื่อเจ้านายของทั้งคู่บ้างานขนาดนี้ก็จับคู่ให้ทั้งสองคนไปเดตกันซะเลย พวกเขาจะได้มีเวลาไปพักหายใจหายคอได้มากขึ้น หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มแผนการต่าง ๆ ที่จะทำให้เจ้านายได้ใกล้ชิดและตกหลุมรักกัน โดยที่ไม่รู้เลยว่าพวกเขาเองก็ตกหลุมพรางที่ขุดไว้อย่างช้า ๆ ไม่ต่างกัน




โดยรวม เป็นหนังรักปนฮาสไตล์วัยทำงานที่ดูไปขำไป เนื้อเรื่องอาจจะไม่มีอะไรมากไปกว่าแผนการแสบ ๆ ที่ทั้งคู่คิดขึ้นมาเพื่อจับคู่เจ้านาย แต่ความน่ารักของโซอี้ ดอยซ์ และเสน่ห์เหลือล้นของเกลน พาเวลล์เป็นจุดขายทำให้หนังดูเพลิน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่ขยับใกล้กันทีละนิด ๆ แบบไม่รู้ตัวจะทำให้คุณคอยลุ้น และแอบอมยิ้มไปกับความแสบ ความน่ารักของทั้งคู่ค่ะ ด้วยเสน่ห์อันเหลือล้นของคู่พระนาง ทำให้เรารู้สึกว่าทั้งสองคนนี้เป็นตัวละครที่เคมีเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ดูเพลินตามแบบฉบับหนังรอมคอม ทำให้ Set It Up กลายเป็นหนังที่มีกลิ่นอายหนังโรแมนซ์ใสๆในยุค 90 ที่ไม่มีพิษไม่มีภัย ดูไปยิ้มไป


👉👉  นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรี่ย์ฮิตติดกระแส ได้ที่นี่

Monday, November 22, 2021

รีวิว มิสเตอร์แสบร้ายเกินพิกัด 2 (Despicable Me 2)


Despicable Me 2 มิสเตอร์แสบ ร้ายเกินพิกัด 2 การกลับมาอีกครั้งของภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวของวายร้ายจมูกแหล่มอย่างกรูที่เขาปรับตัวและหันหลังให้กับการเป็นจอมวายร้ายเพื่อมาเลี้ยงลูกทั้ง 3 แต่ก็ดันมีวายร้ายตัวใหม่ที่เกิดขึ้นมา ซึ่งมีเพียงกรูเท่านั้นที่สามารถจะหยุดเจ้าจอมวายร้ายตัวใหม่นี้ได้ ภาคนี้เป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของตัวละครอย่าง ลูซี่ ซึ่งเราชอบเธอมาก ในภาคนี้เนื้อเรื่องก็คือ กรู จากวายร้ายเดิมที่ร้ายขนาดขโมยดวงจันทร์มาแล้ว มาในภาคนี้ เขาเลิกทำอะไรร้ายๆและพยายามหันมาเป็นพ่อที่ดี แต่แล้วเขาก็ต้องไปพัวพันกับเรื่องร้ายๆอีก คราวนี้เขาไม่ได้เป็นคนทำ แต่ต้องเป็นคนสืบหาตัวคนร้ายโดยทำงานกับคู่หูอย่างลูซี่




เรื่องราว เมื่อกรู จอมวางแผน ได้ทิ้งชีวิตอาชญากรไว้เบื้องหลัง เพื่อเลี้ยงดูมาร์โก้ (มิแรนด้า คอสโกรฟจากซีรีส์ iCarly), อีดิธ (ดานา ไกเออร์จาก Bullied) และแอ็กเนส (เอลซีย์ ฟิชเชอร์จากซีรีส์ Masha and the Bear) กรู, ดร.เนฟาริโอ (รัสเซล แบรนด์จาก Get Him to the Greek, Hop) และพวกมินเนียนก็เลยมีเวลาว่างเป็นของตัวเองอย่างเหลือเฟือ แต่ขณะที่เขาเริ่มจะปรับตัวในฐานะแฟมิลีแมนในย่านชนบท องค์กรลับสุดยอดที่มุ่งมั่นกับการสู้กับปีศาจร้ายทั่วโลกก็ได้เดินเข้ามา ตอนนี้ เป็นหน้าที่ของกรูและลูซี่ ไวลด์ คู่หูใหม่ของเขา (คริสติน วิก แห่ง Bridesmaids, รายการ Saturday Night Live) ที่จะค้นหาว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังอาชญากรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจเพื่อจับตัวเขามาลงโทษให้ได้ เพราะคงต้องใช้อดีตสุดยอดวายร้ายของโลกเท่านั้นแหละถึงจะจับคนที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะมาแทนที่เขาได้





โดยรวม Despicable Me มิสเตอร์แสบร้ายเกินพิกัด 2 ภาคนี้ยังคงความสนุก ภาพสวย เพลงดี อย่างเพลงที่โคตรดังไปเลยอย่าง Happy ก็ในเรื่องนี้นี่แหละ แล้วเรารู้สึกว่าองค์ประกอบหลายๆอย่างในเรื่องดีกว่าภาคแรกด้วย ถึงสเกลมันไม่ได้ใหญ่ขนาดขโมยดวงจันทร์ แต่เรารู้สึกฉากและสถานการณ์ที่ตัวละครต้องไปเจอมันดูแฟนตาซี เว่อวังดี ซึ่งพอมันเว่อวังอลังการอยู่เหนือเหตุผลก็ยิ่งทำให้เราเอนจอยมากขึ้นไปอีก5555 เราชอบภาคนี้หลายๆอย่างเลยแหละ ทั้งตัวละครหลายตัวที่อยู่ในเรื่องที่ดูดี ดูเด่น คือมีอิมแพคที่ทำให้คนจดจำได้ หรือเนื้อเรื่องที่ถึงแม้ไม่ได้มีอะไรมากแต่ก็สนุก แค่ได้ดูการพัฒนาความสัมพันธ์ของตัวละครก็แฮปปี้แล้ว ฉากในเรื่องหลายฉากสวยมาก เพลงนี่ไม่ต้องพูดถึง ดังระเบิดระเบ้อ ตัวละครที่ก็รักเลย สรุปแล้วดีค่ะ


👉👉  นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรีย์แนวสืบสวนสอบสวน แนวฆาตกรรม ไขปริศนา ได้ที่นี่

 

Sunday, November 21, 2021

รีวิว The Princess Switch 3 สลับร่างปล้นวุ่น ลุ้นรักวันคริสต์มาส

The Princess Switch 3: Romancing The Star คือภาคที่สามของภาพยนตร์ไตรภาคเดอะ พริ้นเซส สวิตซ์ของเน็ตฟลิกซ์ แฟรนไชน์นี้อยู่ในจักรวาลเดียวกันกับแฟรนไชน์ A Christmas Prince เจ้าชายคริสต์มาส ที่ฉายจนจบไปแล้วทั้งสามภาค รวมถึงอัศวินก่อนวันคริสต์มาส กับบทเจ้าหญิงจอมสลับตัวกับสาวสามัญชนที่นึกสนุกสลับร่างสร้างรักที่ดำเนินเรื่องวุ่นมาจนถึงภาคที่สาม พร้อมแผนจารกรรมสุดป่วนในสไตล์หนังสุดฮาที่ก๊วนสามสาวพร้อมจะเสิร์ฟให้ทุกคนได้ลิ้มรสชาติใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน 


เรื่องราว 1 ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคที่แล้ว ฟีโอน่า แพมบรูค ต้องบำเพ็ญประโยชน์เพื่อลดหย่อนโทษในการลักพาตัว ราชินีสเตซี่ หญิงสาวสามัญชนเพื่อนรักของราชินีมากาเร็ตผู้เป็นญาติ แต่แล้วก็ได้รับข้อเสนอจากทั้งสองราชินีให้ออกตามหาดาวแห่งสันติที่ได้รับมอบจากวาติกันเพื่อใช้ประดับในคืนวันคริสต์มาส ทว่าในคืนหนึ่งได้เกิดหายไปและแทบหาเบาะแสเชื่อมโยงคนร้ายไม่ได้ ทำให้ทั้งสองราชินีสาวจอมสลับต้องใช้ตัวช่วยแบบร้าย ๆ เริ่ด ๆ อย่างเธอมาเป็นผู้ช่วย ในการปล้นเอาดาวสันติกลับคืนมา ทำให้ฟีโอน่านำพาสมุนของเธอทั้งสองคนออกตามหาและสืบคดีว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง จนฟีโอน่าได้พบกับ ปีเตอร์ ชายหนุ่มปริศนาถ่านไฟรักและเพื่อนสมัยเด็กที่ห่างเหินกับเธอกับปมในใจที่เธอไม่เคยเปิดให้ใครได้เข้ามาทำให้หัวใจเธอหวั่นไหวซะงั้น สามสาวที่ใบหน้าเหมือนกันราวกับฝาแฝดจะสามารถตามหาดาวแห่งสันติได้ทันก่อนวันคริสต์มาสจะมาถึงได้มั้ยน๊าาา




โดยสรุปภาคสามที่ยกระดับแฟรนไชน์หนังเจ้าหญิงสลับตัวคริสต์มาสให้เป็นหนังจารกรรมแบบสายลับที่ดูได้แบบเพลิน ๆ และขยายจักรวาลให้กว้างมากขึ้น แม้จะไม่ได้ลงตัวกับคอนเซปต์เรื่อง เพิ่มด้วยดราม่าของตัวละครร้ายในภาคก่อนที่เป็นปมสำคัญของเรื่อง และการแสดงของวาเนสซ่า ฮัดเจนท์ที่ยอดเยี่ยม เพลงประกอบและเนื้อเรื่องที่ยกระดับขึ้นมาให้น่าสนใจขึ้นเล็กน้อย แต่ตัวละครอื่นนั้นขาดเสน่ห์จากภาคก่อน ๆ และบทบาทแทบไม่มีอะไรน่าสนใจ 


👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ  รีวิวหนังมิวสิคัล เพลงดนตรี ได้ที่นี่

Saturday, November 20, 2021

รีวิว หลัวหาย อย่าเผือกหา (Breaking News in Yuba County)

Breaking News in Yuba County หลัวหาย อย่าเผือกหา ภาพยนตร์ตลก อาชญากรรม ของผู้กำกับ เท้ด เทย์เลอร์ หนังตลกร้ายที่เสียดสีการทำงานของสื่อได้แบบเจ็บแสบ กับเรื่องไม่เป็นเรื่องของ ซู ที่ชอบให้คนสนใจในตัวเธอ จนเรื่องราวมันใหญ่โตเกินกว่าจะรับมือได้


เรื่องราวของ ซู บัตตันส์ (ที่รับบทโดย แอลลิสัน แจนนีย์) แม่บ้านผู้ถูกเมินไร้ตัวตน กลับดังเป็นพลุแตกชั่วข้ามคืน แจ้งเกิดเป็นเซเลบใหม่กิ๊งแค่เพราะสามีหายตัวไปอย่างปริศนา! ซู เลยคิดจะหาทางรักษาความดังของเธอไว้โดยอาศัย แนนซี่ (ที่รับบทโดย มิลา คูนิส) น้องสาวนักข่าวท้องถิ่นจอมจุ้น แต่เรื่องนี้ไม่ได้จบง่ายๆ เพราะทั้งเมืองให้ความสนใจกับ ซู เป็นพิเศษ ตั้งแต่เพื่อนบ้าน ยันคนทั่วเมือง ต่อมาน้องชายของสามีเธอที่พยายามจะหาคำตอบ และไหนจะแก๊งมาเฟียที่เข้ามาพัวพันจนยุ่งเหยิง ความบันเทิงทั้งหมดจึงเกิดขึ้น





โดยรวมเป็นหนังที่สะท้อนการทำงานของสื่อได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว การปูเรื่องของหนังเรื่องนี้ค่อนข้างน่าสนใจ หนังพยายามสร้างปมต่างๆให้กับตัวละครอย่าง ซู ผ่านวิธีที่เธอนั่นไม่มีตัวตนในสังคม จนต้องปกปิดข้อเท็จจริงของการตายของสามีเธอเพื่อทำให้ตัวเองนั้นเป็นจุดสนใจของเหล่าสื่อ และสื่อที่ไร้จริยธรรมก็เล่นข่าวของ ซู จนกลายเป็นความบันเทิงกันไปเลยทีเดียว ในหนังเรื่องนี้มันได้สะท้อนหลายๆการทำงานของสื่อออกมาที่ไม่มีใครสนใจหรืออยากค้นหาความจริงเกี่ยวกับการหายตัวไปของสามีเธอเลยนอกเสียจากเรตติ้งรายการ ใครที่อยากรู้ว่าทั้งหมดของหนังเรื่องนี้เป็นอย่างไร กับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นของหนังเรื่องนี้ก็ไม่ควรพลาด


👉👉  นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ หนังใหม่ชนโรง ได้ที่นี่

Thursday, November 18, 2021

รีวิว Despicable Me มิสเตอร์แสบร้ายเกินพิกัด 1

Despicable Me 1 มิสเตอร์แสบ ร้ายเกินพิกัด 1 เรื่องนี้เป็นเรื่องของเหล่าวายร้าย มินเนี่ยน ภาคแรกเลยเริ่มต้นเปิดฉากที่เด็กคนหนึ่งไปเที่ยวพีระมิดแต่ปรากฏว่าพีระมิดถูกขโมยไปและได้ทำพีระมิดปลอมมาวางก๊อปปี้ไว้ จึงสร้างความโมโหให้ชาวอียิปต์เป็นอย่างมากตัวละครนำโดยกรูเป็นเหล่าวายร้ายที่ต้องการขโมยดวงกันซึ่งภาคนี้ตัวละครไม่มากนัก กรูคิดแผนรับ เด็กกำพร้าที่ขายคุกกี้ตามบ้านต่างๆ รับอุปการะไว้เพื่อเป็นแผนการที่จะเข้าบ้านเหล่าวายร้ายคู่แข่งเรื่องราวสนุกๆและเฮฮาก็ได้เกิดขึ้นความผูกพันที่เกิดขึ้นกับกรูและเด็กๆ


เรื่องราว หลังจากที่เกิดการประชุมด่วนกรูเรียกเหล่าสมุนมินเนี่ยนเพื่อคิดวิธีหาแผนกำจัดวายร้ายคู่แข่ง ผลิตอาวุธที่จะสามารถทำลายคู่แข่งได้ กรูได้สาทะยายถึงฝีมือการขโมย ของกรูและตอนนี้กรูต้องการขโมยดวงจันทร์รังสีย่อส่วนที่ถูกเก็บไว้ในห้องเลปแต่เพราะงบประมาณที่ยังกู้เงินไม่พอ กรูจึงไปติดต่อขอกู้กับธนาคารคนรู้จัก แต่ต้องมีรังสีย่อส่วน แต่ตอนนี้กรูยังไม่มีอะไรเลยทั้งรังสีย่อส่วน และแผนการขโมยดวงจันทร์อย่างแน่ชัด และแล้วกรูวางแผนขโมยรังสีย่อส่วน แต่ก็มีวายร้ายตามประกบขโมยไปอีกทอดหนึ่ง กรูหาทางคิดเอารังสีย่อส่วนกลับคืนมาและรู้สึกเสียหน้าที่แพ้ กรูแอบเข้าไปสำรวจป้อมปราการของวิดเตอร์แต่มี เครื่องมือและเทคโนโลยีป้องกันเอาไว้มาก และแล้วเด็กหญิงสามคนมาขายคุกกี้ และสามารถเข้าไปบ้านอย่างง่ายดาย เมื่อกรูเห็นอย่างนั้นแล้วจึงคิดแผนสร้างหุ่นยนต์คุกกี้เพื่อที่จะเข้าไปในบ้านหลังนั้นได้ และแล้วกรูหาแผนสร้างเด็กกำพร้ามาเลี้ยง เมื่อเด็กทั้งสามคนจำได้ว่ากรูเคยโกหกว่าเป็นคุณเครื่องบันทึกเสียงแต่ก็ยอมรับที่จะไปอยู่กับกรู ทั้งสามเริ่มมีความผูกพันกันมากขึ้นโดยไม่รู้ตัวกรูหาวิธีใช้เด็กขายคุกกี้และเจาะข้อมูลวิกเตอร์ได้ในที่สุด พองานสำเร็จกรูหาวิธีจะเอาเด็กไปทิ้งแต่ด้วยพอถึงเวลาจริงๆกรูกลับมีความสุขในช่วงเวลาที่ได้อยู่กับเด็กๆ ความผูกพัน กรูทิ้งเด็กๆไม่ลงและพากลับบ้านกับตุ๊กตายูนิคอนร์ที่เล่นได้ กรูได้เห็นความสุขของเด็กๆในอีกด้านหนึ่ง





โดยรวมทำได้ดีมากเรื่องการวางคาแรคเตอร์หรือออกแบบตัวละคร แต่ละตัวน่าสนใจดึงดูด ทั้งกรูที่หัวล้าน จมูกแหลม มินเนี่ยน ตัวเหลืองตาเดียว/สองตา เป็นแอนิเมชั่นอีกเรื่องที่ดูสนุกในแบบเด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูฮา ภาคแรกนี่ผมว่าเป็นหนังที่ดีมากเลย เนื้อเรื่องเล่าได้น่าติดตามไม่หละหลวมเกินไปแม้จะมาอยู่ในรูปแบบแอนิเมชั่น ความฮามีตลอด ภาพสีสันสวยงาม ซึ่งนั่นต้องยกความดีให้กับค่าย illumination entertainment ที่โดดเด่นไม่แพ้ค่ายรุ่นพี่อย่าง Pixas, Disney, BlueSky หรือ Dreamworks


👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ  หนังเกาหลี ได้ที่นี่

Wednesday, November 17, 2021

รีวิว Be Melodramatic เมื่อย่างก้าวสู่วัย 30 ปี ทุกอย่างจะดีเอง?

ถ้าใครเคยชมเรื่อง Twenty มาแล้ว ที่เล่าถึงสามหนุ่มเพื่อนกันในวัยจะแตะ 20 พวกเขาไม่รู้หรอกว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ก็เตรียมตัวก้าวไปอย่างมั่นๆ แต่ได้ผลลัพธ์ที่ลุ่มๆดอนๆเกรียนฮาน่าเอ็นดู ส่งต่อมาถึงงานฉบับที่โตขึ้นมาอีกหน่อย คือ Be Melodramatic ซึ่งเป็นสามสาวเพื่อนกันในวัย 30 ที่มองว่าการผ่านโลกในวัย 20 มาโชกโชนแล้ว เชื่อในทางข้างหน้าว่าวัย 30 แล้วต้องดีแน่ ประหนึ่งได้เห็นความคืบหน้าของ Coming of Age (การก้าวพ้นวัย) ในอีกสเต็ปช่วงอายุ ในมุมมองของอีกเพศ ซึ่งมีความสนุกสนานอีกแบบ ไม่แพ้กันเลยเชียว


เรื่องราวอิมจินจู (รับบทโดย ชอนอูฮี) เป็นนักเขียนบทละคร ที่มีอารมณ์แกว่งนิดเพี้ยนหน่อย ชอบสร้างตรรกะเป็นของตัวเอง บ่อยครั้งต้องหาแรงบันดาลใจ เช่นกระเป๋าแบรนด์เนม มาล่อตัวเองให้ฮึดงาน เมื่อเธอถูกไล่ออกจากงานผู้ช่วยนักเขียน ในระหว่างที่ต้องหางานใหม่ อิมจินจูก็ส่งงานไปเข้าประกวดนักเขียนหน้าใหม่ เรื่อง 'ทุกอย่างจะดีเมื่ออายุ 30' ด้วยพลอต inspire มาจากตัวเอง แต่ความดิบแปลกใหม่ก็โดนใจหนึ่งในกรรมการที่เป็นผู้กำกับ เขาเห็นว่าน่าจะเอาไปบิวท์ไฟให้ผู้กำกับรุ่นน้อง ซนบอมซู (รับบทโดย อันแจฮง) ดาวเด่นของวงการที่กำลังหงอยเบื่อกับงานซ้ำซากเดิมๆ ซึ่งก็เข้าตาผู้กำกับซนจริงๆด้วย นั่นคือจุดเริ่มต้นของการได้งานใหม่ในฐานะนักเขียนหลักตัวจริงของอิมจินจู


อีอึนจอง (รับบทโดย จอนยอบิน) เป็นผู้กำกับสารคดี ที่จับพลัดจับผลูทำหนังสารคดีเรื่องหนึ่งประสบความสำเร็จ จนเธอมีชื่อเสียง มีเงิน และในระหว่างการทำงานนั้นเธอก็ได้แฟนมาด้วย แต่ด้วยเหตุบางอย่างในชีวิตทำให้ความสุขของเธอสลายหายไป กลายเป็นคนซึมเศร้าและติดอยู่ในโลกที่จิตสร้างมาหลอกตัวเอง ปัญหาชีวิตและจิตใจของเธอจะค่อยๆถูกจัดการแก้ไขเยียวยาไปด้วยงาน และเรื่องราวของดาราสาวที่เป็นเพื่อนเก่าซึ่งเคยไม่กินเส้นกันมาก่อน แต่ต้องมาร่วมงานกันใกล้ชิดในโปรเจ็คท์หนึ่ง จนต่างทำให้ชีวิตติดขัดของทั้งคู่ลื่นไหลได้ถูกทาง และทำให้อีอึนจองได้เจอคนที่จะจุดไฟโรแมนติกครั้งใหม่ให้เธอ


ฮวังฮันจู (รับบทโดย ฮันจีอึน) ทำงานเป็นหัวหน้าทีมการตลาดของบริษัทผลิตงานบันเทิง งานหลักของเธอคือการบริหาร tie-in สินค้าของลูกค้าเข้าไปอยู่ในหนังละคร ที่เราๆเห็นของวางหราแล้วบ่นกันบ่อยๆก็คือผลงานของพนักงานเหล่านี้แหละ การรับมือกับทั้งผู้กำกับหรือดาราที่อาจงอแงไม่ยอมให้ความร่วมมือง่ายๆในกองถ่าย เธอมีผู้ช่วยหนุ่มน้องใหม่ที่เชื่อมั่นในตัวเธอ คือ ชูแจฮุน (รับบทโดย กงมยอง) มาช่วยกันจับมือสู้กับงานหินๆ


โดยรวมเนื้อหาในเรื่องนี้หลายๆอย่างก็น่าจะมาจากประสบการณ์จริงที่ผู้กำกับเจอมา เพราะท้องเรื่องคืองานอาชีพที่ใกล้ตัวเขามาก ดีไม่ดีบางอย่างอาจเป็นเรื่องของตัวเองด้วยซ้ำนะ 555 งานอาชีพในเรื่อง คือแวดวงการบันเทิงที่สร้างความบันเทิงให้ผู้ชมจริงๆ เราจะได้เห็นกระบวนการทำงานของหลายอาชีพในสายบันเทิงที่เกี่ยวโยงกัน ได้แก่ นักเขียนบทละคร ผู้กำกับ ฝ่ายการผลิต บริษัทผลิตละคร นักแสดง ผู้จัดการส่วนตัวของนักแสดง ที่ล้วนมีเรื่องยุ่งวุ่นวายสมจริงมาก


👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรี่ย์ฮิตติดกระแส ได้ที่นี่


รีวิวหนังโรแมนติก Royalteen (2022) รอยัลทีน

  รีวิวหนังโรแมนติก Royalteen (2022) รอยัลทีน จาก Netflix  ติดตามความรักจากนิวนิยายขายดีเกี่ยวกับ คาร์ล โยฮัน เจ้าชายที่พยายามสร้างความรักที...