The Princess Switch 3: Romancing The Star คือภาคที่สามของภาพยนตร์ไตรภาคเดอะ พริ้นเซส สวิตซ์ของเน็ตฟลิกซ์ แฟรนไชน์นี้อยู่ในจักรวาลเดียวกันกับแฟรนไชน์ A Christmas Prince เจ้าชายคริสต์มาส ที่ฉายจนจบไปแล้วทั้งสามภาค รวมถึงอัศวินก่อนวันคริสต์มาส กับบทเจ้าหญิงจอมสลับตัวกับสาวสามัญชนที่นึกสนุกสลับร่างสร้างรักที่ดำเนินเรื่องวุ่นมาจนถึงภาคที่สาม พร้อมแผนจารกรรมสุดป่วนในสไตล์หนังสุดฮาที่ก๊วนสามสาวพร้อมจะเสิร์ฟให้ทุกคนได้ลิ้มรสชาติใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
เรื่องราว 1 ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคที่แล้ว ฟีโอน่า แพมบรูค ต้องบำเพ็ญประโยชน์เพื่อลดหย่อนโทษในการลักพาตัว ราชินีสเตซี่ หญิงสาวสามัญชนเพื่อนรักของราชินีมากาเร็ตผู้เป็นญาติ แต่แล้วก็ได้รับข้อเสนอจากทั้งสองราชินีให้ออกตามหาดาวแห่งสันติที่ได้รับมอบจากวาติกันเพื่อใช้ประดับในคืนวันคริสต์มาส ทว่าในคืนหนึ่งได้เกิดหายไปและแทบหาเบาะแสเชื่อมโยงคนร้ายไม่ได้ ทำให้ทั้งสองราชินีสาวจอมสลับต้องใช้ตัวช่วยแบบร้าย ๆ เริ่ด ๆ อย่างเธอมาเป็นผู้ช่วย ในการปล้นเอาดาวสันติกลับคืนมา ทำให้ฟีโอน่านำพาสมุนของเธอทั้งสองคนออกตามหาและสืบคดีว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง จนฟีโอน่าได้พบกับ ปีเตอร์ ชายหนุ่มปริศนาถ่านไฟรักและเพื่อนสมัยเด็กที่ห่างเหินกับเธอกับปมในใจที่เธอไม่เคยเปิดให้ใครได้เข้ามาทำให้หัวใจเธอหวั่นไหวซะงั้น สามสาวที่ใบหน้าเหมือนกันราวกับฝาแฝดจะสามารถตามหาดาวแห่งสันติได้ทันก่อนวันคริสต์มาสจะมาถึงได้มั้ยน๊าาา
โดยสรุปภาคสามที่ยกระดับแฟรนไชน์หนังเจ้าหญิงสลับตัวคริสต์มาสให้เป็นหนังจารกรรมแบบสายลับที่ดูได้แบบเพลิน ๆ และขยายจักรวาลให้กว้างมากขึ้น แม้จะไม่ได้ลงตัวกับคอนเซปต์เรื่อง เพิ่มด้วยดราม่าของตัวละครร้ายในภาคก่อนที่เป็นปมสำคัญของเรื่อง และการแสดงของวาเนสซ่า ฮัดเจนท์ที่ยอดเยี่ยม เพลงประกอบและเนื้อเรื่องที่ยกระดับขึ้นมาให้น่าสนใจขึ้นเล็กน้อย แต่ตัวละครอื่นนั้นขาดเสน่ห์จากภาคก่อน ๆ และบทบาทแทบไม่มีอะไรน่าสนใจ
👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังมิวสิคัล เพลงดนตรี ได้ที่นี่
No comments:
Post a Comment