The Boss Baby: Family Business ภาคต่อของภาพยนตร์คอเมดี้ระดับบล็อกบัสเตอร์ เผู้กำกับต้องการบอกเล่าซึ่งหากมองที่บทอย่างเดียวก็คงต้องบอกว่าพอเป็นหนังภาคต่อและตั้งโจทย์ให้มันใหญ่ขึ้น ทุกอย่างเลยถูกอัดเข้ามาเยอะเกินไปทั้งปมเรื่องพี่น้อง ปมเรื่องลูกสาววัยรุ่น และไหนจะเล่าถึงโลกของเบบี้คอร์ปส์และแผนร้ายของ ดร.อาร์มสตรองอีก ผลลัพธ์ของมันเลยทำให้นี่เป็นแอนิเมชันที่เรื่องราวอีรุงตุงนังสุด ๆ จนปมทั้งหลายไม่ค่อยส่งผลในเชิงดราม่าหรือเรียกความซาบซึ้งให้แก่หนังสักเท่าไหร่
เรื่องราวหลังจากที่ความสัมพันธ์ของ ทิม (เจมส์ มาร์สเดน) และ บอสเบบี้ เท็ด (อเล็ก บอลด์วิน) เริ่มห่างหาย หลังจากทั้งคู่เติบโตขึ้น และแยกย้ายกันไปในช่วงเวลาหนึ่ง เท็ดได้เป็นซีอีโอเฮดจ์ฟันด์ ส่วนทิมแต่งงานและมีลูกสาว 2 คน คือ ทาบิธา (อาเรียนา กรีนแบลตต์) ที่มีเท็ดเป็นไอดอล และอยากเป็นเหมือนเขา แต่ทิมห้ามเอาไว้เพราะกลัวว่าเธอจะไม่ได้สัมผัสชีวิตแบบเด็กปกติเหมือนพวกเขา และลูกสาวอีกคน ทีน่า (เอมี เซดาริส) ทารกสุดน่ารัก ‘คนใหม่’ สายลับจากเบบี้คอร์ป ที่จะมาเปิดโปงเบื้องหลังโรงเรียนของทาบิธา และผู้ก่อตั้งสุดลึกลับ ด็อกเตอร์เอ็ดวิน อาร์สตรอง (เจฟฟ์ โกลด์บลุม) ที่สอนเด็กให้กลายเป็นเบบี้ตัวแสบ
โดยสรุปสิ่งที่เห็นจากตัวอย่างภาพยนตร์ที่ปล่อยออกมา คือเหตุการณ์สุดป่วนหลังจากพี่น้องเทมเปิลตันได้เติบโต ยาเปลี่ยนผู้ใหญ่เป็นเบบี้ที่มีฤทธิ์ 48 ชั่วโมง ภารกิจแฝงตัวไปสืบความลับ ฝูงเบบี้นินจาที่ฝีมือเก่งกาจ และเงินที่เขาคิดว่าจะแก้ปัญหาได้ กลับใช้ไม่ได้กับที่นี่ เป็นภารกิจสุดป่วนแต่มีความสำคัญ และยังทำให้พวกเขาได้รู้ความหมายของคำว่า ‘ครอบครัว’ และอะไรที่มีคุณค่าอย่างแท้จริง
👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังสารคดี ได้ที่นี่
No comments:
Post a Comment