Book of Love นิยายรัก ฉบับฉันและเธอ เมื่อสิ่งที่รักอย่าง "นิยาย" และ "การเขียน" พาคนแตกต่างกันสุดขั้ว จากคนละทวีปให้โคจรมาพบกัน เรื่องราวความรัก ความสัมพันธ์สุดโรแมนติก ไม่แพ้นิยายรักที่พวกเขาแต่ง จึงเกิดขึ้น ! ผลงานรักสุดโรแมนติกเรื่องใหม่ของ “แซม คลาฟลิน
เรื่องราวของ เฮนรี่ คูเปอร์ (แซม คลาฟลิน) หนุ่มนักเขียนอังกฤษเจ้าของผลงานนิยายรักที่ขายไม่ดีเอาซะเลยเรื่อง The Sensible Heart แต่แล้วอยู่ดีๆ นิยายเจ้ากรรมเล่มนี้กลับฮิตติดลมบน ขายดีระดับเบสต์เซลเลอร์ในเม็กซิโก เป็นเหตุให้สำนักพิมพ์ของเฮนรี่จัดบุ๊คทัวร์พบปะกับแฟน ๆ ที่เม็กซิโก โดยมี มาเรีย (เวโรนิก้า เอเซกี) หญิงสาวผู้แปลหนังสือของเขาเป็นภาษาสเปน เป็นล่ามแปลภาษาให้ตลอดทริปการเดินทางนี้ ก่อนที่เฮนรี่จะพบว่า มาเรียปรับเนื้อหานิยายของเขาใหม่แทบทั้งหมด ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้มันได้รับความนิยมจากคนอ่าน เมื่อหนังสือดัง งานนี้บรรณาธิการจึงสบโอกาสให้ทั้งคู่มาเขียนนิยายรักเล่มใหม่ที่แฟน ๆ ต่างรอคอยด้วยกันซะเลย
แต่ภารกิจปั่นต้นฉบับครั้งนี้ไม่ใช่งานง่าย เพราะทั้งเฮนรี่และมาเรียต่างมีพื้นเพชีวิต รวมถึงมุมมองความรักที่แตกต่างกัน ซึ่งทางเดียวที่จะเขียนนิยายเล่มนี้ได้จบ ทั้งคู่ต่างต้องเปิดใจให้แก่กันและกัน เพื่อให้นิยายฉบับฉันและเธอเรื่องนี้เสร็จสมบูรณ์
โดยรวมหนังดูพยายามจะเล่าเรื่องของสังคมเม็กซิกันที่ถูกกดทับ แต่หลังกลับใช้มันผ่านการกระทำของตัวละครที่แอบเปลี่ยนเนื้อหาต้นฉบับ เหมือนให้คนหนึ่งทำผิดต่ออีกคนด้วยเหตุผลของความลำบากและการไม่ยอมรับ ตรงนี้อาจดูรับได้ยากนิดหน่อย เมื่อมองว่าหนังคงตั้งใจให้คนทั้งคู่ได้พัฒนาความสัมพันธ์ หนังบอกเล่าถึงมุมมองเกี่ยวกับความรัก ตัณหา และความต้องการ ผ่านสองมุมของนักเขียนหนุ่มกับนักแปลสาวที่ภารกิจของพวกเขา ทำให้ทั้งคู่ได้มีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ บางบทสนทนาพาให้คนดูหัวเราะได้ ตรงนี้ก็ถือว่าหนังทำได้สำเร็จในแง่มุมของการเป็นหนังรอมคอม ขณะที่บทหนังค่อนข้างเป็นไปตามสูตร ไม่มีอะไรฉีกออกไปหรือแปลกใหม่จนเกินคาดเดา
สรุปหนัง Book of Love สไตล์รอมคอมที่เล่าเรื่องของนักเขียนอังกฤษผู้ไม่ประสบความสำเร็จ แต่นิยายที่แปลเป็นภาษาสเปนกลับโด่งดังขายดี ก่อนจะได้รู้ว่านักแปลคนนั้นเปลี่ยนเรื่องราวในนิยายของเขาไปเสียหมด การพบกันของทั้งสองกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ ฟังดูอาจทำใจให้เชื่อตามได้ยากหน่อย หนังพยายามแตะประเด็นสังคมเม็กซิกันที่เพศหญิงถูกกดทับ แต่ก็ดูไม่ได้เล่าจริงจังอะไรนัก จัดว่าเป็นหนังที่ดูได้พอเพลิน
👉👉 ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ ข่าววงการบันเทิง ได้ที่นี่
No comments:
Post a Comment