Hustle คนจะดัง... อย่าฉุด(2022) ผลงานการสร้างของนักแสดงชื่อดัง อดัม แซนเลอร์ ร่วมกับเจ้าพ่อบาสเกตบอลแชมป์ NBA 4 สมัย เลอบรอน เจมส์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬาบาสเกตบอล ที่ถึงแม้ไม่ได้เป็นแฟน NBA ก็ฟิน แต่ถ้าเป็นแฟนเอ็นบีเอและมีนักบาสในดวงใจล่ะก็ ฟินสุด ๆ แน่นอน เพราะเรื่องนี้มีนักกีฬาบาสชื่อดังมารับเชิญกันอย่างคับคั่ง แถมเนื้อเรื่องสนุกน่าติดตาม ฟีลกู๊ดอบอุ่นหัวใจเกินคาด
เรื่องราวของ สแตนลีย์ ชูการ์แมน (รับบทโดยอดัม แซนด์เลอร์) แมวมองทีมบาสเกตบอลเอ็นบีเอ ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ส (Philadelphia 76ers) มีหน้าที่หานักกีฬาบาสเกตบอลฝีมือดีจากทั่วโลก ที่อายุไม่เกิน 22 ปีเข้าร่วมทีม ระหว่างพลิกแผ่นดินตามหาคนคนนั้น เขาได้พบกับเด็กหนุ่มชาวสเปนรูปร่างสูงใหญ่ เล่นบาสเก่ง โบ ครูซ (รับบทโดยนักบาสมืออาชีพ ฆวนโช เออร์นันโกเมซ) แต่ปัญหาคือเขาไม่เคยเล่นในทีมมืออาชีพมาก่อน ทำให้วินซ์ (เบน ฟอสเตอร์) เจ้าของทีม 76ers ปฏิเสธที่จะรับโบเข้าร่วมทีม ด้วยความเชื่อมั่นในความสามารถของโบ สแตนลีย์พยายามทำทุกทางเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า โบนั้นเหมาะสมที่จะเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลเอ็นบีเอ
หนังมีช่วงเล่นจริงในสนามไม่เยอะ เพราะเรื่องต้องการโฟกัสว่านักกีฬาที่เก่งมีพรสวรรค์ก็จริง แต่ในสนามจริงมีอะไรมากกว่านั้น ซึ่งเรื่องการควบคุมอารมณ์สำคัญกว่า บทจึงใส่ปมว่าโบมีอดีตที่เคยทำร้ายร่างกายคนอื่น แต่เมื่อเขาพยายามกลับตัวกลับใจใหม่ ปมในอดีตนั้นกลับถูกคู่ต่อสู้นำมาใช้ยั่วยุเขาในสนาม ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากของนักกีฬา NBA ที่มีการปั่นประสาทกัน ตัวเรื่องจึงมีช่วงที่เน้นหนักไปที่การสะกดอารมณ์ของโบมากกว่าการเล่นโชว์ฝีมือที่เรื่องปูไว้ว่าเขาเทพอยู่แล้ว แต่เราก็ยังได้เห็นการเล่นเทพๆ อยู่พอสมควร แต่ไม่ใช่ในเกมเต็มๆ แบบหนังกีฬาเต็มตัวเท่านั้น
ภาพรวมตัวหนังทำมาแบบไม่ต้องเป็นแฟน NBA ก็ดูได้ แต่ถ้าเป็นแฟนก็จะตามพวกนักแสดงรับเชิญที่เป็นคน NBA ได้ทัน กับพวกศัพท์รายละเอียดการคัดตัวเข้าทีมที่เป็นศัพท์เฉพาะตัวอยู่บ้าง อย่างการแข่งดราฟท์คืออะไร ซึ่งตัวหนังก็มีการอธิบายคร่าวๆ ให้ความรู้กับคนดูไปด้วย ตัวอดัมแซนเลอร์เองก็เหมาะกับบทบาทนี้อยู่แลว เขาเล่นเป็นแมวมองที่รักในสายงานเกี่ยวกับ NBA ดูเป็นหนุ่มใหญ่มีอายุที่ยังหลงไหล NBA แบบเด็กๆ แต่มีความเป็นมืออาชีพที่ไม่แคร์ใครสูง ส่วนนักแสดงที่เล่นเป็นโบก็ดูดีกับบทหนุ่มสเปนที่พยายามทำตามฝันหาเลี้ยงลูกกับแม่ของเขา หน้าตาท่าทางดูเป็นคนซื่อๆ แต่ก็อารมณ์เดือดซ่อนไว้ภายใน ฉากการเล่นโชว์เทพต่างๆ ก็ออกมาดีเพราะเป็นนักกีฬาตัวจริงมาแสดง หนังยาวเกือบ 2 ชั่วโมงก็จริง แต่ก็ทำออกมาดูสนุกเพลินๆ ปมในเรื่องเบาๆ มีอุปสรรคนิดหน่อยพอให้ได้ลุ้นเป็นระยะ จบแบบสูตรสำเร็จแฮปปี้เอนดิ้ง หนังอาจจะไม่มีจุดเด่นอะไรมาก แต่ก็ตอบโจทย์แนวหนังแบบนี้ได้ดีพอตัวเลย
👉👉 ติดตามสนับสนุนได้ที่นี่ รีวิวหนังมิวสิคัล เพลงดนตรี
No comments:
Post a Comment