Servant of the People เพื่อประชาชนที่รัก ซีรีย์แนวตลกการเมืองของยูเครนที่ Netflix ซื้อมาฉาย เพราะเป็นเรื่องราวของการแสดงเป็นประธานาธิบดียูเครนของ โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ก่อนได้มาเป็นประธานาธิบดีจริง และมีบทบาทที่ทั่วโลกจับตาในสงครามรัสเซียบุกยูเครนในปัจจุบัน
เรื่องราวเกริ่นก่อนเผื่อใครยังไม่ทราบ ก่อนเป็นประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี เป็นนักแสดงดาราตลกมาก่อน โดยเล่นในซีรีย์ที่ตัวเองสร้างกับบทบาท “วาซิลี โกโลโบร็อดโก” ครูสอนประวัติศาสตร์นักเรียนชั้นมัธยมปลายที่กลายมาเป็นประธานาธิบดีเช่นกัน ซึ่งหลังซีรีย์ได้รับความนิยมอย่างสูงมีทั้งหมด 3 ซีซั่น ทีมงานของซีรีย์เรื่องนี้ก็ก่อตั้งพรรคในชื่อเดียวกับซีรีย์ และตัวเขาก็ได้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2018 แล้วก็ชนะไปอย่างท่วมท้นด้วยคะแนน 73.2 % และวางตัวเป็นนักการเมืองที่ต่อต้านกลุ่มผู้มีอำนาจและปราบการทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งซีรีย์เรื่องนี้ก็เหมือนแผนการหาเสียงล่วงหน้าของเขาดีๆ นี่เอง เพราะทุกอย่างในเรื่องนี้ช่างเหมือนบันไดการก้าวขึ้นสู่อำนาจท้าชนผู้มีอำนาจเบื้องหลังการเมืองอันแสนยาวนานของยูเครน
โดยรวมเนื้อหาของซีรีย์ทั้ง 3 ซีซั่นต่อกันหมดเป็นเรื่องเดียวตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีการจบสมบูรณ์ในซีซั่นแล้วขึ้นใหม่ ดังนั้นผู้ชมที่ต้องการชมเรื่องนี้ก็ต้องทำใจก่อนว่าซีรีย์ยาวมากซีซั่น 1-2 มี 23 ตอน เวลาต่อตอนประมาณ 25 นาที ยกเว้นตอนแรกของซีซั่นจะยาวเกือบชั่วโมง ส่วนซีซั่น 3 จะมีแค่ 3 ตอนยาวเกือบชั่วโมงเท่ากัน
ด้วยความที่เรื่องนี้สร้างฉายทางทีวียูเครน ดังนั้นโปรดักชั่นต่างๆ ก็อาจจะไม่ได้เนี๊ยบหรือตั้งใจโกอินเตอร์ในตอนแรก ออกแนวเหมือนละครหลังข่าวจริงๆ แต่ที่เราได้ดูกันก็คงเพราะกระแสสงครามรัสเซียบุกยูเครนที่เกิดขึ้น และ Netflix พึ่งทำซับไทยตามมาในเดือนพฤษภาคม แต่อย่าพึ่งคิดว่าภาพรวมของซีรีย์เรื่องนี้จะไม่สนุก เป็นแค่ละครทีวียูเครน เพราะเอาจริงๆ แล้วอยากให้มองข้ามเรื่องนี้ไป นี่เป็นซีรีย์ตลกที่เน้นขายมุกเสียดสีเหมือนจริงหรือเกินจริงกับการเมือง ซึ่งไม่ว่าคนชาติไหนก็น่าจะขำได้แน่นอนการันตีได้เลย
สรุปเป็นซีรีย์ที่สนุกแบบดูยิงยาวได้ข้ามวันเลย หรือจะค่อยๆ ดูไปพักไปก็ได้ เพราะเรื่องแม้จะต่อเนื่องกันแต่ก็มีจบช่วงย่อยๆ ในแต่ละตอนกับปัญหาที่เกิดขึ้น ตัวเรื่องจะไต่ความสนุกขึ้นเรื่อยๆ ซีซั่น 1 ไป 2 แต่ซีซั่น 3 ที่มี 2 ตอน ใน 2 ตอนหลังเรื่องเหมือนพยายามฉีกหาทางจบแหวกแนวไปหน่อย โดยเล่าเรื่องข้ามไปยังโลกอนาคตแล้วเล่าย้อนกลับมายังประวัติศาสตร์สมมุติของยูเครนในช่วงปี 2019-2022 ซึ่งมันก็แตกต่างจากของจริงอย่างที่เรารับรู้กัน ก็เลยกลายเป็นช่วงออกทะเลของซีรีย์เรื่องนี้ไปหน่อย แต่ก็แนะนำเลยว่าถ้าสนใจเรื่องยูเครนตอนนี้ควรค่าแก่การดูมาก
👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ รีวิวซีรีย์แนวสืบสวนสอบสวน แนวฆาตกรรม ไขปริศนา
No comments:
Post a Comment